■■ เรื่องการปล่อยกู้แบบโขกดอกเบี้ยสุดโหด ก็ยังเป็นปมที่รัฐบาลชุดไหนๆ ก็ยังแก้ไม่ได้...!! แม้รัฐบาลและกระทรวงการคลังจะประกาศนโยบายปราบปรามเงินกู้นอกระบบ...และเตรียมควบคุมผู้ให้บริการเงินกู้-สินเชื่อจำนำทะเบียนรถทั้งหลาย โดยเตรียมยกร่างกฎหมายจัดตั้งสำนักงานกำกับดูแลสินเชื่อทั้งระบบ...แต่ก็เป็นได้แค่ข่าว...เอาเข้าจริงยังไม่มีอะไรในก่อไผ่...ซ้ำล่าสุด บริษัท เงินติดล้อ จำกัด ผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อและจำนำทะเบียนรถรายใหญ่ยังคงมาเหนือเมฆด้วยการผุดแคมเปญใหม่ปล่อยสินเชื่อรายย่อยเพื่อประกอบอาชีพ “นาโนไฟแนนซ์” ควบสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ...โดยจากการตรวจสอบสัญญาเงินกู้จำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ของลูกจ้างรายหนึ่งในองค์กรของรัฐที่ทำสัญญาเงินกู้กับบริษัทพบว่า บริษัทได้นำเอาแบบฟอร์มที่อ้างว่าเป็นการปล่อยสินเชื่อช่วยคนมีรถที่อ้างว่าเป็นสินเชื่อรายย่อยนาโนไฟแนนซ์ให้ลูกหนี้กรอกข้อความเพื่อดำเนินการจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์อีกต่อ....โดยกำหนดเงื่อนไขให้ลูกหนี้ต้องผ่อนชำระหนี้เงินกู้ดังกล่าวตามอัตราดอกเบี้ยที่กำหนด ทั้งยังกำหนดให้ลูกหนี้เซ็นโอนลอยหลักประกันไว้ด้วย...!! นอกจากนี้ บริษัทที่ว่านี้ยัง...ได้ประกาศแคมเปญและอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถและจำนำทะเบียนใหม่มีผลเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยสินเชื่อเช่าซื้อแบบโอนกรรมสิทธิ์ สำหรับรถจักรยานยนต์กำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 1.50% ต่อเดือนหรือเทียบเท่าอัตราดอกเบี้ยจริง 31.72% ต่อปี ส่วนรถเก๋ง กระบะรถตู้ รถบัสหรือรถบรรทุก กำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ตั้งแต่ 1.00-1.75% ต่อเดือน(แล้วแต่ปีรถ)ซึ่งเทียบเท่าอัตราดอกเบี้ยจริง 21.46%-36.74% ต่อปี รถไถ รถแทรกเตอร์ อัตราดอกเบี้ย 1.25-1.75% ต่อเดือน เทียบเท่าอัตราดอกเบี้ยจริง 26.62-36.74% ต่อปี...ส่วนสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือ 2 กำหนดอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อคงที่ 0.85% ต่อเดือนเท่ากับดอกเบี้ยจริง 18.32% ต่อปี สำหรับการซื้อจาก ดีลเลอร์ และ 2% ต่อเดือนสำหรับการซื้อรถบรรทุกมือ 2 โดยทั่วไป ซึ่งเทียบเท่าอัตราดอกเบี้ยจริง 41.70% ต่อปี แต่หากเป็นสินเชื่อรถแบบไม่โอนทะเบียนภายใต้สัญญาเงินกู้สำหรับรถเก๋ง รถกระบะ รถตู้หรือรถบรรทุกกำหนดอัตราดอกเบี้ย 0.68% ต่อเดือน เทียบเท่าอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 14.74% ต่อปี....!! ถึงตรงนี้ก็ต้องบอกว่างง..เพราะเป็นการปล่อยกู้ที่ไม่รู้ว่าดำเนินการตามใบอนุญาตใดกันแน่...เพราะหากเป็นสินเชื่อรายย่อยนาโนไฟแนนซ์ที่กระทรวงการคลังให้คิดดอกเบี้ยได้ถึง 36% นั้น...ก็ต้องเป็นเงินกู้ไร้หลักประกันเท่านั้น....ไม่ใช่ปล่อยกู้แบบมีหลักประกันคือทะเบียนรถ....และหากเป็นสัญญาเช่าซื้อยังต้องดำเนินการตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)ด้วย ขณะที่หากเป็นการปล่อยสินเชื่อที่มีการเรียกหลักประกันหรือบังคับให้ลูกหนี้เซ็นโอนลอยหลักประกันจะต้องดำเนินการตามพ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราพ.ศ.2560 ที่กำหนดให้ผู้ปล่อยกู้คิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมได้ไม่เกิน 15% เท่านั้น...!! อย่างนี้เรียกว่ามาเหนือเมฆจริงๆ....แต่อันนี้เป็นเรื่องที่รัฐและกระทรวงการคลังต้องเร่งเข้ามาตรวจสอบก่อนประชาชนจะถูกเอาเปรียบไปมากกว่านี้...!! เท่าที่รู้มีลูกหนี้หลายรายเข้าไปกับตำรวจแล้วหลายรายด้วยนะ...■■
อนันตเดช พงษ์พันธุ์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี