nn แม้รัฐบาลคสช.จะประกาศนโยบายปราบปรามมาเฟียเงินกู้นอกระบบอย่างจริงจัง...พร้อมทั้งหามาตรการปกป้องผู้บริโภคไม่ให้ถูกสถาบันการเงินในระบบเอารัดเอาเปรียบ... ด้วยการประสานกำลังของหลายหน่วยงานราชการ...ทั้งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.)... กระทรวงการคลัง (ที่เตรียมยกร่างกฎหมายจัดตั้งสำนักงานกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงินสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ)....คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ดีเดย์ออกประกาศให้ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์เป็นธุรกิจควบคุมสัญญาโดยขยายขอบเขตครอบคลุมไปถึงบรรดาธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ..!! แต่ผลงานที่เกิดขึ้น...ในส่วนของเจ้าพ่อเจ้าแม่เงินกู้นอกระบบ...ก็จับได้แต่ “ปลาซิวปลาสร้อย”...ส่วนในกรณีสถาบันการเงินในระบบ...ยังไม่มีอะไรคืบหน้าให้เห็น...สิ่งที่พบที่เจอมีแต่ลูกค้าของบริษัทปล่อยเงินกู้ร้องระงมเพราะโดนโขกดอกเบี้ยซะหัวบาน...เมื่อการดำเนินงานของรัฐยังไม่เป็นรูปธรรม...ผู้ประกอบการเงินกู้รายใหญ่ที่ป่าวประกาศว่าให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อจำนำทะเบียนรถที่อ้างว่าถูกกฎหมายได้ใบอนุญาตจากทางการ...
ก็ยังคงปล่อยกู้ในแบบที่แทบจะแยกแยะไม่ออกเลยว่า ต่างไปจากบรรดานายทุนเงินกู้นอกระบบตรงไหน...!! เราจึงได้เห็นธุรกิจเหล่านี้ยังคงผุดแคมเปญปล่อยกู้ให้สินเชื่อจำนำทะเบียนรถที่ยังโขกดอกเบี้ยค่าธรรมเนียมและบังคับลูกหนี้โอนหลักทรัพย์ค้ำประกัน....อ้างว่าเป็นสินเชื่อรายย่อย “นาโนไฟแนนซ์” แต่สัญญาที่จับลูกหนี้เซ็นไว้นั้นกลับพ่วงเอาสัญญาจำนำทะเบียนรถที่ทำเอาวงการด้วยกัน...!! อย่างแคมเปญล่าสุดที่เห็น (มีผลเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา)...เมื่อพิจารณาดอกเบี้ยที่ระบุและวิธีการปล่อยกู้....!!ก็เลยสรุปไม่ได้ว่าปล่อยกู้ภายใต้ใบอนุญาตใดกันแน่...ซึ่งที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว...ถ้าจำนำทะเบียนรถดอกเบี้ยต้องถูกกว่านี้แต่ถ้าเป็นนาโนไฟแนนซ์ก็ต้องไม่มีการหลักประกัน...!! แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้มันไม่ใช่....!! และสิ่งที่เห็นกันอยู่ตอนนี้คือ...การอาศัยช่องโหว่ทางกฎหมาย อาศัยใบอนุญาตรัฐที่เปิดช่องให้คิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ฉวยโอกาสขูดดอกเบี้ย เรียกหลักทรัพย์ค้ำประกันเอากับ ลูกหนี้ การปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถจะมือ 1 มือ 2 ก็หลบหลีกทำสัญญาเช่าซื้อหรือลิสซิ่ง ที่ต้องเสียภาษีแวต หันไปทำสัญญาเงินกู้แบบโรงรับจำนำประเภท 3-6 เดือน โขกดอกเบี้ย-ค่าธรรมเนียม ค่าติดตามทวงหนี้สารพัด หากขาดส่งค่างวดก็พร้อมตามไปยึดทรัพย์ลูกหนี้ไปขายทอดตลาดฟันกำไรกันพุงปลิ้น...ต้องย้อนถามกลับไปยังรัฐบาลและกระทรวงการคลัง เมื่อไหร่จะตื่นขึ้นมาคืนความสุขปกป้องคุ้มครองผู้คนระดับรากหญ้า ไม่ให้ต้องถูกเอารัดเอาเปรียบจากธุรกิจเหล่านี้เสียที !...
รัฐไม่ฉุกคิดสักนิดเลยหรือว่า ธุรกิจให้บริการการเงินบ้าที่ไหนที่แทบไม่ต้องใช้เจ้าหน้าที่ระดับ “ไวท์คอลลาร์” ที่มีความรู้ความสามารถมากลั่นกรองการปล่อยสินเชื่อ ไม่ต้องพิจารณาความเสี่ยงอะไรให้ยุ่งยากแต่กลับมีพอร์ตระดับหมื่นล้าน หรือเฉียดแสนล้าน โดยแทบไม่มีหนี้เสีย!...
ขณะที่แบงก์ หรือสถาบันการเงินที่คลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำกับดูแลสุดเข้มข้น ตัวแบงก์เองก็ต้องใช้บุคลากรที่ล้วนมีความรู้ความสามารถ กลั่นกรองการปล่อยสินเชื่อ สแกนลูกหนี้อย่างถึงพริกถึงขิง แต่ถึงกระนั้นก็ยังต้องขวัญผวากับปัญหาหนี้เสียเป็นรายวันกันอยู่เลย... ชัดเป๊ะซะขนาดนี้แล้วยังมองไม่ออกอีกหรือ “ลุงตู่”...nn
อนันตเดช พงษ์พันธุ์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี