องค์กรความโปร่งใสสากล (Transparency International) ได้นิยามคำว่า “คอร์รัปชั่น (Corruption)” คือ การใช้อำนาจที่ได้มาโดยหน้าที่แสวงหาประโยชน์ส่วนตัว หรือการทุจริตโดยใช้หรืออาศัยตำแหน่งอำนาจ และหน้าที่ที่ตนมีอยู่ เพื่อประโยชน์แก่ตนเองและ/หรือผู้อื่น
ปัญหาการคอร์รัปชั่นเป็นปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อการบริหารประเทศ นับวันมีแต่ทวีความรุนแรงขึ้น ทั้งเป็นปัญหาที่ทุกประเทศต้องการขจัดให้หมดไป แต่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ คงทำได้เพียงปราบปรามให้น้อยลง
การคอร์รัปชั่นมีอยู่ 3 ประเภท คือ (1) การคอร์รัปชั่นขนาดเล็ก การรับเงินที่ไม่ชอบธรรม หรือไม่ถูกต้องของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่จำนวนเงินไม่มาก เพื่อดำเนินการบางอย่างให้กับผู้ที่ให้เงิน (2) การคอร์รัปชั่นขนาดใหญ่ ส่วนมากจะเป็นการคอร์รัปชั่นของเจ้าหน้าที่ระดับสูง ที่รับเงินในรูปแบบของสินบนเป็นเงินจำนวนสูงในโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ (3) การให้ของกำนัลที่มีมูลค่า เช่น รถยนต์ สร้อยคอทองคำ ซื้อรายการท่องเที่ยวให้ไปพักผ่อนต่างประเทศ หรือเชิญรับไปพักผ่อนต่างประเทศ เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันใกล้ชิด
หนึ่งในกฎหมายที่เกี่ยวกับการต่อต้านการคอร์รัปชั่น คือพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 (แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2550 ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2554 และฉบับที่ 3 พ.ศ. 2558) โดยมีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อันเป็นส่วนราชการที่เป็นหน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญ และมีฐานะเป็นกรมตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน หน้าที่สำคัญของป.ป.ช. ได้แก่ กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกำหนดตำแหน่งและชั้นหรือระดับของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่จะต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินตรวจสอบความถูกต้อง และความมีอยู่จริงของทรัพย์สินและหนี้สิน รวมทั้งตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สินและหนี้สิน ไต่สวนและวินิจฉัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวยผิดปกติที่กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม
มาตรการด้านการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ถือเป็นแนวทางในการควบคุมปัญหาคอร์รัปชั่น เพราะการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน จะนำไปสู่กลไกการตรวจสอบทรัพย์สิน บทบาทในการตรวจสอบทรัพย์สินจึงถือว่าเป็นหน้าที่สำคัญของ ป.ป.ช. โดยผู้ที่มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน คือ เจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งที่เป็นข้าราชการการเมือง ข้าราชการการเมืองท้องถิ่น และข้าราชการประจำระดับสูง
ผู้ที่มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ต้องแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ที่มีอยู่จริงภายในประเทศและต่างประเทศรวมทั้งทรัพย์สินที่อยู่ในความครอบครองของบุคคลอื่น หรือให้บุคคลอื่นถือแทน ในกรณีที่ให้บุคคลอื่นถือแทน ต้องมีหนังสือรับรองจากผู้ครอบครองหรือผู้ถือแทนว่า ทรัพย์สินนั้นเป็นของผู้ยื่น
คู่สมรสหรือบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
สำหรับเวลาการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ในกรณีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน 3 ครั้ง คือ (1) กรณีเข้ารับตำแหน่ง (2) กรณีพ้นจากตำแหน่ง (3) กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มิใช่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอย่างน้อย 3 ครั้ง เช่นเดียวกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่ถ้าเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดอยู่ในตำแหน่งครบสามปี หรือห้าปี ต้องยื่นบัญชีในกรณีอยู่ในตำแหน่งครบสามปี หรือห้าปีด้วยทุกครั้ง
ปัจจุบันได้มีร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ... ที่ผ่านการพิจารณาวาระที่ 3 ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว อยู่ระหว่างการประกาศใช้บังคับร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้มีหลายประเด็นที่สำคัญที่เพิ่มเติมจากพระราชบัญญัติฉบับเดิม เช่นการเพิ่มหน้าที่ให้ ป.ป.ช. ต้องส่งเสริม และสนับสนุนให้ความรู้แก่ประชาชนให้ทราบถึงผลกระทบและความเสียหายที่เกิดจากการทุจริตคอร์รัปชั่น
ที่แปลกใหม่ คือ การยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่ต้องยื่นของภรรยาที่ไม่จดทะเบียนสมรส ที่นิยมเรียกว่า “กิ๊ก” หรือหญิงอื่นที่ได้รับการยกย่อง เมื่อมีกี่คน ต้องยื่นให้ครบทุกคน ทั้งนี้มีการกำหนดลักษณะของหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาตามกฎหมาย3 ลักษณะ คือ (1) บุคคลที่ทำพิธีมงคลสมรสหรือพิธีอื่นใดโดยมีบุคคลภายนอกหรือบุคคลในครอบครัวรับทราบการอยู่กินเป็นสามีภรรยาตามประเพณี (2) บุคคลที่มีพฤติกรรมซึ่งเป็นที่รับรู้ของสังคมทั่วไปว่า มีสถานะเป็นสามีภรรยากัน และ (3) บุคคลที่อยู่กินกันฉันสามีภรรยาซึ่งมีการอุปการะเลี้ยงดู แม้จะไม่เป็นที่รับรู้ของสังคมทั่วไป แต่มีพฤติการณ์ในการรับรองบุตร
ร่างพระราชบัญญัติฉบับใหม่ไม่ได้กำหนดให้เปิดเผยรายละเอียดทรัพย์สิน เช่น เลขทะเบียน ภาพถ่ายของทรัพย์สิน เพราะอาจสุ่มเสี่ยงต่อความปลอดภัย แต่ได้เพิ่มตำแหน่งเจ้าหน้าที่รัฐที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน เช่น ข้าราชการตุลาการในตำแหน่งอธิบดีผู้พิพากษาขึ้นไป ข้าราชการตุลาการศาลปกครอง ตำแหน่งอธิบดีศาลปกครองชั้นต้นขึ้นไป ข้าราชการอัยการตำแหน่งอธิบดีอัยการขึ้นไป รวมถึงผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง
ทั้งยังต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และผู้ถือครองแทน ไม่ว่าทรัพย์สินและหนี้สินจะมีอยู่ในประเทศหรือต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม มีบางประเด็นที่ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ...มีช่องว่างในเรื่องการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่ครอบคลุมแต่เฉพาะบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ น่าจะเป็นการดี หากแก้ไขให้บุตรที่บรรลุนิติภาวะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินด้วย เพื่อป้องกันการฝากทรัพย์ไว้กับบุตรที่บรรลุนิติภาวะ
การให้สินบนเป็นเรื่องของสองฝ่าย คือ ผู้ให้และผู้รับ แม้จะมีกฎหมายออกมาเพื่อปราบปรามการทุจริตกี่ฉบับ แต่ถ้าประชาชนคนไทย ร่วมมือกันไม่ให้สินบน ย่อมทำให้วงจรทุจริตและคอร์รัปชั่นค่อยๆ ลดลง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี