เรื่องราวของทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี 13 ชีวิตที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง เขตวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน หมู่บ้านจ้องตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ตั้งแต่วันที่ 23มิถุนายน 2561 จนได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัยเมื่อวันที่10 กรกฎาคม 2561 รวมเวลาปฏิบัติการ ครั้งนี้ 412 ชั่วโมง 29 นาที 05 วินาที นับเป็นปฏิบัติการที่ยากลำบากแสนสาหัส
สื่อไทยทุกสื่อ รวมทั้งสื่อต่างประเทศทั้ง ABC, BBC, CNN, DAILYMAIL, THE GUARDAIN เป็นต้น ได้ติดตามสถานการณ์เรียกได้ว่าชั่วโมงต่อชั่วโมงนาทีต่อนาที เพราะการช่วยเหลือทีมหมูป่าอะคาเดมีถือเป็นภารกิจระดับโลก
หน่ายงานภายในประเทศไม่ว่าจะกองทัพบก กองทัพเรือโดยหน่วยซีล (หน่วยทำลายใต้น้ำจู่โจม) กรมทรัพยากรธรณีศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทีมกู้ภัยจังหวัดเชียงรายค่ายมือถือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โรงพยาบาลต่างๆ ทีมเก็บรังนกนางแอ่นจากเกาะลิบง จ.ตรัง และหน่วยงานอื่นๆ อีกหลายหน่วยงานรวมถึงเกษตรกรกว่า 5 หมู่บ้านผู้ยอมเสียสละที่นา เพื่อเป็นพื้นที่รับน้ำจากการสูบออกจากถ้ำหลวง
ความช่วยเหลือจากประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นลาวเมียนมา และความช่วยเหลือจากต่างประเทศ เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจากองค์กร Derbyshire Cave Rescue Organization ของประเทศอังกฤษ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการค้นหา และกู้ภัยถ้ำ จากทั้งสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และจีน องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (ไจก้า) กองทัพสหรัฐ และยังมีชาวต่างชาติอีกหลายคนที่อยู่ในไทยที่เคยสำรวจถ้ำ และชำนาญด้านการดำน้ำ
การช่วยเหลือทั้งจากภายในประเทศ และต่างประเทศถือได้ว่า เป็นปฏิบัติการที่แสดงถึงหลักการด้านบริหารจัดการที่ดีเนื่องจากมีการทำงานร่วมกันและเกี่ยวข้องกับผู้คนหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นนักดำน้ำ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องถ้ำ หน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ อาสาสมัครหลายพันคน ที่ต้องมีการวางกลยุทธ์ การประสานงานที่ดีเยี่ยม ที่สำคัญเป็นการแสดงออกถึงความมีมนุษยธรรม (Humanity) และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน (Solidarity) ในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน โดยไม่มีการแบ่งเชื้อชาติ สีผิว
ก่อนหน้านี้ผู้คนหลายล้านคนจากทั่วโลก อาจไม่รู้จักจังหวัดเชียงราย ประเทศไทย เหตุการณ์ครั้งนี้มีสื่อต่างประเทศหลายสื่อถ่ายทอด และนำเสนอไปประเทศตน ประเทศไทยได้เป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้น ทั้งผู้คนในประเทศต่างๆ ได้มีการส่งกำลังใจให้ สามารถพิสูจน์ได้ว่ากำลังใจและความเอื้ออาทรต่อเพื่อนมนุษย์ยังมีอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีอย่างทุกวันนี้
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส องค์ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก ทรงนำสวดมนต์ที่มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ และอธิษฐานให้ทีมหมูป่าอะคาเดมี และผู้ที่ไปช่วยแคล้วคลาดปลอดภัย
แม้กระทั่งนายอีลอน มัสก์ (Elon Musk) วิศวกรและประธานบริหารบริษัทหลายบริษัท ที่มีชื่อระดับโลก เช่น บริษัทสเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ที่ประสบความสำเร็จนำจรวดที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ได้ บริษัท เทสล่า (Tesla) ผู้ผลิตรถพลังงานไฟฟ้า (Electric Car-EV Car) ทั้งยังเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายรถพลังงานไฟฟ้ารายใหญ่ของโลก บริษัทบอริ่ง คอมปานี (Boring Company) ที่มีวิทยาการเรดาร์สำรวจใต้ดินขั้นสูง และเครื่องมือในการขุดเจาะที่ล้ำสมัย
นายอีลอน มัสก์ เป็นมหาเศรษฐีอเมริการุ่นใหม่ ที่เติบโตจากธุรกิจด้านเทคโนโลยี สมัยที่เป็นนักเรียนเขามีรูปร่างเล็ก มักจะถูกรังแกจากนักเรียนที่ตัวใหญ่กว่า เขาจึงชอบหนีเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในห้องสมุด และเป็นเหตุให้เขาอ่านหนังสือทุกเล่มที่ขวางหน้า และได้แรงบันดาลใจในการสร้างเทคโนโลยีใหม่ๆ จนเป็นธุรกิจ
ที่ประสบความสำเร็จ
นายอีลอน มัสก์ ได้สร้างเรือดำน้ำขนาดจิ๋วที่ดัดแปลงจากท่อออกซิเจนเหลวของจรวดฟอลคอนให้มีขนาดเล็กเท่าตัวเด็กและมีน้ำหนักเบา โดยเชื่อว่าจะสามารถผ่านไปยังช่องแคบๆ ภายในถ้ำสลับซับซ้อนได้ ทั้งจะตั้งชื่อเรือดำน้ำขนาดจิ๋วว่า “หมูป่า (Wild Boad)”
แต่นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหาย ในวนอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (ศอร.) ซึ่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายในขณะนั้นและเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาในปัจจุบัน มีความเห็นว่า เรือดำน้ำไม่อาจใช้ได้จริงกับสถานการณ์ในถ้ำหลวง จึงได้ขอบคุณในความปรารถนาดีของนายอีลอน มัสก์ ซึ่งนายอีลอน มัสก์ ดูออกจะไม่พอใจ
และตอกกลับนายณรงค์ศักดิ์ ว่าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
ไม่ใช่มีเพียงแต่นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ยังมีนายเวิร์น อันสเวิร์ธ นักสำรวจถ้ำชาวอังกฤษ ได้แสดงความเห็นว่า เรือดำน้ำไม่สามารถใช้งานได้ เพราะมีลักษณะแข็ง ไม่ยืดหยุ่นและไม่สามารถบิดงอได้ จึงไม่สามารถลัดเลาะไปตามซอกต่างๆ ในถ้ำได้ และเชื่อว่า นายอีลอน มัสก์ คงต้องการเพียงเพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าและตนเอง ทำให้นายอีลอน มัสก์ ไม่พอใจและตอกกลับอย่างรุนแรงเกี่ยวกับพฤติกรรมส่วนตัวทางเพศของนายเวิร์น อันสเวิร์ธ
ภารกิจหมูป่าอะคาเดมีเป็นภารกิจที่ทั่วโลกจับตามองการที่นายอีลอน มัสก์ ตอกกลับ นายเวิร์น อันสเวิร์ธ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นของบริษัทเทสล่า ร่วงถึงร้อยละ 3.5 สูญเสียมูลค่าทางการตลาดถึง 2,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 66,000 ล้านบาททั้งอาจจะถูกนายเวิร์น อันสเวิร์ธ ฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท
นายอีลอน มัสก์ ได้รีบออกมากล่าวขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะต้องการปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง เพราะถ้าไม่รีบออกมา อาจทำให้หุ้นร่วงลงไปอีก
ไม่มีใครรู้เจตนาที่แท้จริงของนายอีลอน มัสก์ ที่อาจตั้งใจจะช่วยจริง หรือต้องการเกาะกระแส อย่างไรก็ตาม การสูญเสียมูลค่าทางการตลาดจำนวนมหาศาลขนาดนั้น ถือเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ว่าการจะพูดจาโต้ตอบ ต้องใช้ความระวังมากขึ้น เพราะ “คำพูด เวลา และโอกาส” ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่อาจย้อนคืนกลับมาแก้ไขได้
เหตุการณ์ทีมหมูป่าอะคาเดมีติดถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนได้รับการพิจารณาว่า เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญมาก และจะได้รับการบันทึกในจดหมายเหตุแห่งชาติ ทั้งยังจะมีการนำไปเป็นโมเดลเพื่อปรับใช้หากมีเหตุการณ์เช่นนี้อีก ซึ่งถือได้ว่าเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมเป็นอย่างมาก สำหรับปฏิบัติการที่ยากเข็ญและแสนสาหัส
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี