บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบริษัทบี.กริม เพาเวอร์ หรือ BGRIM กำไรจากธุรกิจหลักของ BGRIMใน 2Q61 อยู่ที่ 553 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 112% YoY และ 7.9% QoQ ซึ่งเป็นไปตามที่เราคาดไว้ แต่ยังต่ำกว่า Bloomberg Consensus อยู่ 23% โดยกำไรสุทธิใน 1H61 คิดเป็น 52% ของประมาณการกำไรปีนี้ทั้งปีของเรา แต่หากรวมผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ด้วยแล้ว กำไรสุทธิจะอยู่ที่ 215 ล้านบาท (-48.9% YoY, -70.2% QoQ)
ยอดขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
ยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 8.80 พันล้านบาท (+10.3% YoY, +8.0% QoQ) เนื่องจากปริมาณไฟฟ้าที่ขายให้กับ EGAT และผู้ใช้ไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเป็น 1,894GWh (+10.6% YoY, +8.3% QoQ) และ 884GWh (+1.0% YoY, +2.7% QoQ) ตามลำดับ เนื่องจากมีการรับรู้ผลการดำเนินงานของ ABPR3 เต็มไตรมาส,มีการเริ่มเดินเครื่อง ABPR4 และอุปสงค์การใช้ไฟฟ้าจาก
ผู้ใช้ในภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ส่วนค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยก็ลดลงเหลือ 616 ล้านบาท (-32.7% YoY) จากการทำ refinance เมื่อเดือนเมษายน 2560 และการชำระคืนหนี้เงินกู้เมื่อเดือนกันยายน 2560 แต่อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่าย SG&A เพิ่มขึ้นเป็น 328 ล้านบาท (+31.8% YoY, +6.1% QoQ) เนื่องจากมีการเปิดโรงไฟฟ้าใหม่
เริ่มโครงการลงทุนใหม่
บริษัทเข้าซื้อหุ้น 80% ในโครงการ solar ขนาด 257MW ในเวียดนามจาก Truong Thanh Vietnam Group Joint Stock Company ซึ่งโครงการนี้มีสัญญาขายไฟ 214MW ครอบคลุมระยะเวลา 20 ปี ให้กับ Electricity of Vietnam เราประเมินว่าโครงการนี้จะทำให้มูลค่าของหุ้น BGRIM เพิ่มขึ้น 1.0-1.5 บาท/หุ้น อิงจากสัดส่วนการถือหุ้น 80%, กำหนด COD ปี 2562, EIRR ที่ 12-15%และค่าไฟฟ้าที่ 9.35cent/kWh นอกจากนี้ การลงทุนในโครงการ solar rooftop เพื่อขายไฟฟ้าให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าที่เป็นโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศไทยก็ยังอาจจะทำให้มี upside เพิ่มขึ้นด้วย
จ่ายปันผล 0.15 บาท/หุ้น
บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานงวด 1H61 ที่ 0.15 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 0.6% กำหนดขึ้น XD วันที่ 23 สิงหาคม 2561 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 7 กันยายน 2561
เรายังคงแนะนำให้ซื้อ และให้ราคาเป้าหมาย DCF ปี 2561 ที่ 28.50 บาท ซึ่งราคาหุ้นในขณะนี้ยังเหลือ upside ถึงราคาเป้าหมายของเราอีก 12% ในขณะที่โอกาสในการลงทุนใหม่ๆ ทั้งในประเทศไทย (solar rooftop) และในต่างประเทศ (พลังงานหมุนเวียนในเวียดนาม และไฟฟ้าพลังน้ำในลาว) ก็จะเป็น upside ในอนาคตได้
ปัจจัยเสี่ยงจากความล่าช้าในการจัดสรรกำลังการผลิตใหม่, มีการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์การทำธุรกิจพลังงานในประเทศ, โรงไฟฟ้าหยุดผลิตไฟ, และเกิดความล่าช้าในการก่อสร้างโครงการใหม่
ที่มา : บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี