ในหนังสือ Stock Market Cash Flow ของ Andy Tanner หนึ่งในที่ปรึกษาของโรเบิร์ต คิโยซากิ (มีเรียบเรียงเป็นไทยในชื่อ “สร้างกระแสเงินสดจากตลาดหุ้น” ... ผมเรียบเรียงเองแหละ 555) มีแนวคิดเรื่องระดับความรู้กับความสำเร็จของนักลงทุนที่ผมอ่านแล้วรู้สึกชอบ
แทนเนอร์กล่าวว่า ในโลกการลงทุนมีผู้เล่นอยู่ 4 กลุ่ม ซึ่งแต่ละกลุ่มมีระดับความรู้ที่แตกต่างกัน ประกอบไปด้วย
(1) ไม่รู้เรื่องเลย
(2) มีความรู้
(3) มีความสามารถ
(4) เชี่ยวชาญ
ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละกลุ่ม ก็ย่อมมีระดับความสำเร็จแตกต่างกันไปจากน้อยไปหามาก ชนิดเดาได้ไม่ยาก
โดยคนส่วนใหญ่มักเป็นกลุ่มที่ 1 คือ ไม่รู้เรื่องการลงทุนเลย แต่รักสนุก รักความตื่นเต้น และเป็นกลุ่มใหญ่ของการลงทุนทุกตลาด ลักษณะร่วมของคนกลุ่มนี้คือไม่สนใจการเรียนรู้ เชื่อและฟังข่าวลือ รวมไปถึงความคิดเห็น โดยไม่สามารถหาข้อเท็จจริงได้ด้วยตัวเอง
สุดท้าย พวกเขาจึงเป็นได้แค่นักลงทุนที่ใช้แค่ ปาก กับ หู นั่นคือ ถามว่าลงทุนอะไรดี แล้วก็เชื่อก็ฟังคนอื่น แต่ผลลัพธ์ของการลงทุนไม่ได้เรื่อง
ส่วนกลุ่มที่ดีขึ้นมาหน่อย ก็คือ ระดับที่เริ่มสนใจหาความรู้ เริ่มอ่าน เริ่มเรียน เริ่มลองคิดลองทำด้วยตัวเอง กลุ่มนี้ในอนาคตก็จะพัฒนาสู่ระดับที่มีความสามารถในการลงทุน
วัดกันยังไง? ก็วัดกันด้วยว่า พวกเขาสามารถ “สร้าง” การลงทุนของตัวเองได้หรือเปล่านั่นเอง
เลือกซื้อหุ้นเองได้มั้ย เลือกซื้ออสังหาฯเองได้มั้ยมีกลยุทธ์การลงทุนเป็นของตัวเอง ยึดมั่นในเกณฑ์ กติกา และแผนการลงทุนที่สร้างขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง
ถ้ามาถึงขั้นที่ 3 ได้ ก็เริ่มจะทำเงินได้ บริหารความเสี่ยงได้ และมีโอกาสมั่งคั่งได้
และถ้าระดับที่ 3 ฝึกฝนและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ก็จะนำพาตัวเองไปสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญการลงทุนในที่สุด
หากพิจารณากันให้ดี จะเห็นว่าทั้ง 4 กลุ่ม ไม่เพียงแต่แบ่งกันด้วยระดับความรู้เท่านั้น แต่ยังแบ่งกันด้วย
(1) ความลึกซึ้งของความรู้
(2) จำนวนชั่วโมงในการลงมือทำ (ลงทุน)
(3) ประสบการณ์ที่เก็บเกี่ยวสั่งสมมา และ
(4) ระดับของทักษะ ที่ครอบคลุมและเห็นภาพรวมทั้งหมด
และนี่จึงเป็นเหตุผลที่ผมมักจะบอกนักลงทุนหน้าใหม่ว่า อย่าฟังเซียน อย่าเชื่อเซียน หรือแม้แต่นักขายการลงทุน แต่จงค่อยๆ พัฒนาตัวเองให้เป็นเซียนเสียเอง เพื่อสร้างการลงทุนที่ทำกำไรตามที่คาดหวัง ภายใต้ความเสี่ยงที่บริหารจัดการได้
นักลงทุนชั้นแนวหน้า เขาก็รู้จักหุ้นแบบลึกซึ้งไม่กี่ตัวไม่ได้รู้จักทั้งหมด ลงทุนแบบโฟกัส และสร้างผลตอบแทนจากลงทุนตามที่คาดการณ์ไว้ได้
นักลงทุนอสังหาฯ เขาก็มีโซนถนัด โซนเก่ง ที่เขาแทบจะปิดตาเดิน หรือปิดตาก็นึกภาพโซนๆ นั้นออกแบบทะลุปรุโปร่ง รู้ข้อมูลเชิงลึก และรู้จักลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในพื้นที่เป็นอย่างดี
นักลงทุนธุรกิจ เขาก็เชี่ยวชาญในกิจการของเขา ถ้าข้ามกิจการไป เขาก็ต้องเรียนรู้ใหม่ ศึกษาหาความรู้กันใหม่เสมอ
ดังนั้น คงไม่เกินไปเลยไป หากจะบอกว่า คนที่ล้มเหลวและฉิบหายจากการลงทุน โดยหลักๆ แล้วมีอยู่เหตุผลเดียว นั่นคือ ขี้เกียจเรียนรู้ มักง่าย ติดนิสัยระบบการเรียนในห้องเรียนที่รอให้คนมาบอก มาป้อน ว่าต้องทำอะไร
เงิน ไม่อยู่กับคนที่ไม่รู้เรื่องเงิน ฉันใด ...
โลกนี้ก็ไม่มีใครประสบความสำเร็จเกินขอบเขตความรู้และความสามารถของตัวเองฉันนั้นครับ
#TheMoneyCoachTH
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี