บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบริษัทดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) บริษัทตั้งเป้าจะเพิ่มยอดขายน้ำประปาปีนี้เป็น 109 ล้านลูกบาศก์เมตร (+9% YoY) จาก 100 ล้าน ลบ.ม. ในปี 2560 จากการใช้งานที่เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของธุรกิจของลูกค้าเดิม และการใช้งานที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าใหม่ เราประเมินว่าปริมาณยอดขายน้ำประปาในปีนี้จะอยู่ที่ 110 ล้าน ลบม. ใกล้เคียงกับเป้าของบริษัท นอกจากนี้ โรงงานรีไซเคิลน้ำ 2 เฟส (เฟสที่ 1 : กำลังการผลิต 7,500 ลบ.ม./วัน และเฟสที่ 2 : กำลังการผลิต 2, 500 ลบ.ม./วัน) ก็ยังจะเป็นแหล่งน้ำสำรองในช่วงหน้าแล้ง และจะช่วยหนุนให้ GPM ดีขึ้นอีกเล็กน้อยด้วย ทั้งนี้ ขนาดของโรงงานรีไซเคิลน้ำในปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วนเพียงแค่ 3.5% ของกำลังการผลิตทั้งหมดของ WHAUP ที่ 281k ลบ.ม./วัน ในขณะที่เฟสที่ 1เพิ่งดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนกรกฎาคม 2561 และเฟสที่ 2 จะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ภายในปีนี้ สำหรับในระยะต่อไป บริษัทมีแผนจะขยายโรงงานรีไซเคิลน้ำเพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำ ซึ่งจะช่วยหนุนให้ GPM สูงขึ้นในระยะยาว
บริษัทเริ่มขยายกิจการในต่างประเทศที่เวียดนาม ด้วยการผลิตน้ำประปาให้กับนิคมอุตสาหกรรม Nghe An ซึ่งแม้ว่ากำลังการผลิตเริ่มต้นของน้ำประปาอุตสาหกรรมจะอยู่ที่ 12,000 ลบ.ม./วัน
และการบำบัดน้ำเสียจะอยู่ที่ 9,600 ลบ.ม./วัน ซึ่งยังเป็นระดับที่ไม่สูงมาก แต่ platform ใหม่ก็อาจจะเปิดโอกาสในการลงทุนในอนาคต โดยบริษัทกำลังหาโอกาสที่จะเข้าลงทุนทั้งในธุรกิจน้ำประปา (ผลิตน้ำประปาให้กับนิคมอุตสาหกรรม) และไฟฟ้า (พลังงานหมุนเวียน) ทั้งนี้ บริษัทไม่ได้มองหาโอกาสการลงทุนแค่ในเวียดนาม เท่านั้น แต่ยังมองหาโอกาสในกลุ่มประเทศ CLMV โดยเกาะไปกับเครือ WHA ด้วย
บริษัทมองเห็นโอกาสในการทำโครงการ solar roof ภายใต้ PPA ที่ทำกับผู้ใช้ไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรมที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมในเครือ WHA ซึ่งมีพื้นที่หลังคาที่สามารถพัฒนาได้ประมาณ 2 ล้าน ตร.ม. คิดเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าจาก solar roof ประมาณ 200 MW แต่อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าสัญญาการซื้อไฟฟ้า และกำลังการผลิตเชิงพาณิชย์จะเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยในขณะนี้ บริษัทมีสัญญาซื้อไฟฟ้าในมือแล้ว 4 MW และคาดว่าจะเซ็นเพิ่มได้อีก 10 MW ภายในปีนี้ ส่วนปีหน้าก็คาดว่าจะเซ็นได้เพิ่มอีก 10-20 MW
เราขยับไปใช้ราคาเป้าหมาย DCF 1H62 ที่ 8.70 บาท ซึ่งนอกจากจะยังมี upside ถึงราคาเป้าหมายของเราอีกมากแล้ว เรายังคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ WHAUP ใน FY61 ยังจะเติบโตอย่างน่าสนใจที่ 21.4% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 11.6% โดยราคาหุ้นคิดเป็น PER ปี’61 ที่ 14.1x ซึ่งยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 27.8x ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำซื้อ
ปัจจัยเสี่ยงจากความล่าช้าในการจัดสรรกำลังการผลิตใหม่, มีการปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์ของทางการ, มีการปิดโรงไฟฟ้านอกแผน, และความล่าช้าในการก่อสร้างโครงการใหม่
ที่มา : บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี