ณ ห้องตรวจ แผนกตา รพ.แห่งหนึ่ง ที่มีผู้ป่วยมารอตรวจอย่างมากมาย และแล้วก็ถึงคิวของคุณป้าท่านหนึ่งที่ ต้องมีลูกสาวประคองเดินช้าๆเข้ามาในห้องตรวจ
คุณหมอ : สวัสดีค่ะ วันนี้คุณป้ามีอาการอะไรมาคะ
คุณป้า : ป้ารู้สึกตามัวมากข้างขวา มัวมาหลายเดือนแล้ว แต่ไม่ปวด ไม่แดง เลยคิดว่าไม่เป็นอะไรแต่2-3เดือนนี้ รู้สึกมัวลงมาก ลูกสาวก็เลยพามา
คุณหมอ : งั้นหมอขอตรวจตาคุณป้าหน่อยนะคะ
ลูกสาว : คุณแม่เป็นอะไรมากไหมคะ
คุณหมอ : จากการตรวจเบื้องต้น พบว่าคุณป้าน่าจะเป็นต้อหิน หมอขอส่งตรวจลานสายตาเพิ่มเติมเพื่อยืนยัน การวินิจฉัยนะคะ
คุณป้าและลูกสาว : โรคต้อหิน!!!! มันร้ายแรงไหมคะ ตาจะบอดไหม?
เหตุการณ์เหล่านี้ พบได้บ่อยมากๆในแผนกตาของทุกรพ. ทำไมจึงเป็นอย่างนั้น? และเราจะป้องกันได้อย่างไร?
ก่อนอื่นเรามารู้จักโรคต้อหินกันก่อนค่ะ
โรคต้อหิน คือโรคที่มีเส้นประสาทตาผิดปรกติซึ่งจะเสื่อมลงเรื่อยๆโดยที่มีลานสายตาที่แคบลงด้วย โดยอาจมีความดันตาสูงหรือไม่ก็ได้
โรคต้อหินแบ่งเป็นชนิดที่ยังไม่ทราบสาเหตุ และมีสาเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นชนิดที่ยังไม่ทราบสาเหตุ ทำให้โรคนี้ยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
ใครที่มีความเสี่ยงสูงจะเป็นโรคต้อหินบ้าง?
1. อายุมากกว่า 40 ปี
2. เชื้อชาติ ซึ่งมักพบว่าคนผิวดำ มักเป็นต้อหินมุมเปิดมากกว่าเชื้อชาติอื่นๆ ส่วนคนเอเชียมักพบว่าเป็นต้อหินมุมปิดมากกว่าคนผิวขาวและคนผิวดำ
3. มีประวัติโรคต้อหินในครอบครัว
4. ความหนากระจกตา เราพบว่าผู้ที่มีความหนากระจกตาที่บางกว่ามีโอกาสเสี่ยงมากขึ้น
5. มีรายงานว่าบางภาวะมีความสัมพันธ์กับโรคต้อหิน เช่น เบาหวาน สายตาสั้น
โรคต้อหินจะมีอาการอย่างไรบ้าง?
ถ้าเป็นต้อหินชนิดมุมเปิด ความดันตาจะค่อยๆสูง ทำให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่มีอาการในช่วงแรก จนกว่าเส้นประสาทตาจะเสื่อมลงจนทำให้ลานสายตาผิดปรกติ คือเห็นแคบลงหรือไม่เห็นบางตำแหน่ง จึงจะเริ่มรู้สึกตัว ซึ่งถือว่าค่อนข้างเป็นมากแล้ว
ถ้าเป็นต้อหินชนิดมุมปิดแบบเฉียบพลัน ผู้ป่วยจะมีอาการปวดตามาก ตาแดง ตามัวลง อาจมีปวดศีรษะและคลื่นไส้อาเจียน ซึ่งถือว่าเป็นภาวะเร่งด่วนที่ต้องได้รับการรักษา
เราต้องตรวจอะไรบ้างเพื่อวินิจฉัยโรคต้อหิน?
1. จักษุแพทย์จะตรวจส่วนหน้าลูกตาและเส้นประสาทตาโดยกล้องขยาย
2. ตรวจลานสายตาเพื่อการวินิจฉัย,ประเมินความรุนแรงของโรคและติดตามโรค
3. ในบางรายอาจมีการถ่ายภาพจอประสาทตา
4. ในบางรายอาจมีการวัดความหนาเส้นประสาทตาโดยเครื่องมือพิเศษ
Photo1: http://glaucomaassociates.com/glaucoma-tests-and-diagnosis/
ภาพแรกคือ ลานสายตาปกติ
ภาพหลังคือ ลานสายตาผิดปรกติจากต้อหิน
Photo: National Eye Institute
การรักษาโรคต้อหิน
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า โรคนี้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถประคับคองโรคให้คงที่หรือเสื่อมลงแบบช้าๆได้ โดยการรักษามีดังนี้
1. การใช้ยาเพื่อลดความดันตา มีงานวิจัยว่าการลดความดันตาสามารถช่วยชะลอโรคต้อหินได้ ซึ่งยาในปัจจุบันมีประสิทธิภาพค่อนข้างดีและปลอดภัย
2. การเลเซอร์ มักจะทำในต้อหินมุมปิด ส่วนต้อหินมุมเปิด อาจพิจารณาเป็นรายๆตามความเหมาะสม
3. การผ่าตัด เป็นการผ่าเพื่อระบายน้ำในช่องหน้าลูกตาเพื่อลดความดันตา มักจะทำในรายที่การใช้ยา และเลเซอร์ไม่ได้ผล
โดยสรุป การรักษาทั้งหมดเป็นการชะลอโรค แต่ยังไม่สามารถทำให้โรคหายขาดได้ และไม่สามารถทำให้ การมองเห็นดีขึ้นได้เมื่อเทียบกับการก่อนการรักษา แต่ถ้าไม่รักษาโรคต้อหินจะค่อยๆแย่ลงจนสูญเสีย การมองเห็นแบบถาวรในที่สุด
เราจะมีวิธีป้องกันหรือดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง?
1. ควรหยอดยาอย่างสม่ำเสมอ และไปตรวจตามแพทย์นัดทุกครั้ง เพื่อประเมินความรุนแรงของโรค
2. ถ้าการมองเห็นลดลงมาก ต้องระมัดระวังเรื่องอุบัติเหตุเพราะลานสายตาจะแคบลง
3. หลีกเลี่ยงยาที่อาจทำให้ความดันตาสูงได้ เช่น สเตียรอยด์
4. ผู้ที่มีความเสี่ยงโรคต้อหิน ควรตรวจกับจักษุแพทย์ เพื่อวินิจฉัยโรคต้อหิน เพราะการที่ทราบตั้งแต่ระยะเริ่มต้น จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเพราะลานสายตาจะยังสูญเสียไม่มาก
ผศ.พญ. สุมาลี บุญยะลีพรรณ
จักษุแพทย์
อาจารย์ประจำภาควิชาจักษุ โสต ศอ นาสิก ลาริงซ์ วิทยา
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาคณะแพทยศาสตร์ ผ่าน มูลนิธิเพื่อการพัฒนาคณะแพทยศาสตร์ มศว
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด 283-212990-9
เอกสารอ้างอิง
1. Shields' Textbook Glaucoma fifth edition
2. Glaucoma medical diagnosis & therapy volume one 2009
3. Basic and clinical science course section 10 2011-2012
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี