ขนมเปี๊ยะ (ภาพจากเซียงปิงเหลา)
ชาวจีนจะมีประเพณีการใช้ขนมหลากหลายแบบ เพื่อใช้ในวาระเทศกาลที่แตกต่างกัน เช่น เทศกาลเชงเม้งก็จะไหว้ด้วยขนม “จูชังเปี้ยะ” มีทั้งไส้หวาน ไส้เค็ม ยังมีเทศกาลขนมบ๊ะจ่าง เทศกาลขนมบัวลอย รวมทั้งขนมอวยพรวันเกิด “ซิ่วท้อ” ชุดขนมวันแต่งงาน ฯลฯ ตรุษสารทก็ไหว้ด้วยขนมเข่ง ขนมเทียน สำหรับเทศกาลที่มีขนมหลากหลายอย่างหลากสีสันคือ “เทศกาลไหว้พระจันทร์” เป็นเทศกาลที่มีความสำคัญอันดับสองรองจากเทศกาลตรุษจีน ซึ่งจะตรงกับวันเพ็ญพระจันทร์เต็มดวง วันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 (ของจีน) ทุกปี ตามปฏิทินจันทรคติ ประมาณเดือนกันยายน หรือตุลาคม เรียกตามภาษาถิ่นแต้จิ๋วว่า ตงชิวโจ่ย แปลว่าเทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง เป็นประเพณีที่ชาวจีนถือเป็นอีกสารทหนึ่งที่ปฏิบัติสืบทอดกันมานับพันปี อันมีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับวันไหว้พระจันทร์ต่างๆ มากมาย ส่วนมากจะเป็นเรื่องของ เทพธิดาฉางเอ๋อ เหินสู่ดวงจันทร์และกระต่ายบนดวงจันทร์ หลายแห่งจะจัดเป็นประเพณีใหญ่ เฉลิมฉลองด้วยโคมไฟสีแดง เป็นสีสันยามค่ำคืน หรือบางแห่งอาจมีการเชิดมังกร แตกต่างตามประเพณีย่อยของแต่ละถิ่น
ซิ่วท้อ (ครัวเจ๊ง้อ สุขุมวิท 22)
โดยมากบุตรหลานจะจัดใส่ตะกร้าสวย สำหรับอวยพรบุพการี ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือให้อายุมั่นขวัญยืน
จูชังเปี๊ยะ สำหรับไหว้บรรพบุรุษช่วงเช็งเม้ง (แต้เล่าจินเส็ง)
นอกจากนี้แล้ว ยังมีอีกตำนานหนึ่งที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ช่วงราชวงศ์หยวน ที่ชาวฮั่นถูกปกครองอย่างกดขี่จากชาวมองโกล ได้มีการก่อกบฏขึ้นของชาวฮั่น ด้วยการแอบส่งสาสน์บอกต่อๆ กันในไส้ขนม นัดกันว่าคืนนี้เมื่อเวลายาม 3 ให้ทุกบ้านจัดการสังหารทหารมองโกลให้หมด อันเป็นที่มาของขนมไหว้พระจันทร์ในเทศกาลนี้ใช้เป็นอุบายในการปลดแอกชาติจีน ออกจากการปกครองของพวกมองโกล
ขนมเปี๊ยะ (หล่าเปี้ยะ) (แต้เล่าจินเส็ง)
ขนมเปี๊ยะคือขนมที่ชาวเรารู้จักกันดี เป็นชื่อเรียกแทนขนมแบบจีนเกือบทั้งหมด ใช้ไหว้เจ้าในเกือบทุกเทศกาล ปรกติมีแค่สองไส้คือไส้ถั่ว และไส้ฟักเชื่อม มีหลายขนาดตั้งแต่ชิ้นเล็กจนถึงชิ้นโตขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลาง 8-10 นิ้ว หรือชิ้นใหญ่กว่า บางคนเรียก “หล่าเปี๊ยะ” ซึ่งหมายถึงขนมเปี๊ยะที่สอดไส้กลางด้วยมันหมูแข็ง ร้านทำของชาวขนมจีนแต้จิ๋วทั่วประเทศจะมีทำขายในหลายขนาด
วิธีการทำขนมเปี๊ยะที่ไทยเราเอามาปรับปรุงต่อ นิยมปั้นเป็นชิ้นเล็ก แต่งรสไส้ตามรสนิยม จนเกิดขนมเปี๊ยะดังหลายเจ้าในประเทศ เช่น ของครูสมทรงแห่งตลาดบางเลน นครปฐม เต้าซ้อที่ตะกั่วป่า พังงา ตั้งเซ่งจั๊วที่บางคล้า แปดริ้ว เป็นต้น ส่วนในกรุงเทพฯ นั้น เมื่อก่อน ขนมเปี๊ยะที่ท่าเขียวไข่กา ถึงกับจำกัดให้ซื้อเพียงคนละ 4 ชิ้น ปัจจุบันที่เยาวราชมีอีกหลายเจ้าที่ยังทำขนมแต้จิ๋วแบบดั้งเดิม จนขายดิบขายดี เล่าลือกันว่าเพียงขายในเทศกาลไหว้พระจันทร์ร้านขนมก็สามารถเลี้ยงกิจการได้ตลอดปี
ขนมเปี๊ยะหิมะ (เซียงปิงเหลา)
ขนมเปี๊ยะหิมะ เป็นประดิษฐ์กรรมสมัยใหม่ เปลือก ที่ห่อไส้ขนมใช้สีสันอันหลากหลาย เนื้อสัมผัสคล้ายขนมดังโก๊ะของญี่ปุ่น เป็นที่ถูกใจเด็กและคนรุ่นใหม่ ระยะหลายปีหลังๆ มานี้ เริ่มเห็นขนมเปี๊ยะที่เปลือกมีสีสันอ่อนหวานหลากสีแพร่หลายไปอีกหลายเจ้า ตั้งชื่อเรียกว่าขนมเปี๊ยะหิมะ มีไส้กว่า 20 ชนิด ให้ความรู้สึกแตกต่างแปลกใหม่ชวนกินยิ่งขึ้น
ขนมเปี๊ยะปรุงพิเศษท่าดินแดง
นักนิยมขนมเปี๊ยะหลายๆ คนยกให้เป็นอันดับต้นๆ ของกรุงเทพฯ เปลือกด้านนอกที่กรอบจนร่วนหอม ไส้ในก็ไม่หวานจัดจนเกินไป ขนมขายหมดทุกวันของวันรุ่งขึ้นที่อบใหม่จะอบเสร็จประมาณบ่าย 14.00 น. โดยมากขาประจำจะสั่งจองล่วงหน้า มีเพียง 2 ไส้ คือ ไส้ถั่วเขียว และไส้ถั่วดำ สืบทอดกันมา 3 ชั่วคน เพิ่งย้ายมาจากหน้าตลาดท่าดินแดงมาตำแหน่งปัจจุบันเมื่อไม่กี่ปีมานี้ ความอร่อยของร้านนี้อยู่ที่การรับถ่ายทอดสูตรมาครบครันไม่ตกหล่น อีกทั้งมีความสะอาดเหมือนร้านเบเกอรี่สมัยใหม่ เจ้าของร้านพิถีพิถันใส่ใจตรวจสอบด้วยตัวเองทุกขั้นตอนการผลิต จึงดำรงความเป็นเบอร์หนึ่งของวงการไว้ได้เหนียวแน่น
ขนมโก๋ (แต้เล่าจินเส็ง)
สำหรับขนมโก๋ขาวรูปทรงกลม ก็เรียกว่า "ขนมไหว้พระจันทร์" (月饼-ง่วยเปี้ย) มีหลายชนิดแตกต่างไปตามท้องถิ่นต่างๆ ของจีน ส่วนมากเป็นขนมหวานกลมดังดวงจันทร์เต็มดวง เมื่อก่อนนี้ เราจะคุ้นเคยกับขนมโก๋ของจีนแต้จิ๋วมากที่สุด บางครั้งเป็นก้อนสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตัวขนมโก๋ถูกตัดซอยเป็นชั้นประกบติดกันให้ง่ายต่อการแกะกิน
ขนมโก๋ถั่วเขียว
ขนมโก๋อีกชนิดหนึ่งทำจากถั่วเขียวที่นับวันจะหาคนทำยากขึ้นเรื่อยๆ เพราะทำยากมีหลายขั้นตอน
ขนมโก๋งาดำ (หน้าร้านนิวกวงเม้ง)
ยังมีขนมโก๋อีกชนิดหนึ่งที่ทำจากงาดำ เป็นก้อนกลมเทาดำทั้งชิ้น ก้อนขนาดเดียวกับขนมโก๋ถั่วเขียว รสหอมงาดำชัดเจน สัมผัสร่วนนิดหน่อย บังเอิญเมื่อหลายปีก่อนไปเจออาซิ้มแก่หลังโกงนั่งปั้นอยู่หน้าบ้าน เลยลองซื้อมาชิมจนติดใจ ปีต่อมาไปถามหาปรากฏว่าแกถึงแก่กรรมแล้ว จึงได้แต่นั่งปลงรำลึกถึงแก
ขนมกอ (แต้เล่าจินเส็ง)
ขนมชิ้นนี้สำหรับเทศกาลเช่นกัน ทำจากถั่วเขียวบดผสมกับเปลือกส้มจีน ตอนเคี้ยวจะกรุ่นกลิ่นผิวส้มผสมร่วมกลิ่นถั่วบด เป็นรสความหอมชื่นใจเฉพาะแบบ
ขนมโก๋อ่อนงาดำ (โอวจือมั่วกอ)… (แต้เล่าจินเส็ง)
เมื่อเคี้ยวจะรู้สึกละม้ายกับกะละแมไทย หากแต่ได้กลิ่นหอมจากงาดำ แต่งหน้าด้วยฟักเชื่อม และงาขาว เป็นขนมหาคนทำเป็นยาก จึงมีเฉพาะเทศกาลไหว้พระจันทร์เท่านั้น
ขนมเปี๊ยะงา (แต้เล่าจินเส็ง)
คล้ายกับคุกกี้ที่มีกลิ่นอายตะวันออกแบบจีนที่ไร้กลิ่นนมเนย ผิวนอกแข็งร่วนคลุกกับงาขาว มีไส้ข้างในจำพวกงาหวาน ถั่วบดและฟักเชื่อม หอมหวาน ขนมเปี๊ยะนี้ เนื้อแป้ง ไม่ร่วนซุย จนร่วงกระจาย เหมือนอย่างขนมเปี๊ยะทั่วไป
แปะท้อ,พกท้อ (แต้เล่าจินเส็ง)
ถั่วกวนหุ้มด้วยแป้งขนมเปี๊ยะแบบร่วนเป็นชั้น ตัวแป้งห่อเป็นลูกท้อ อันเป็นสัญลักษณ์ของความอายุมั่นขวัญยืน
ขนมเปี๊ยะไส้ฟักเชื่อม,กุ้ยสือ (แต้เล่าจินเส็ง)
กุ้ยสือเป็นชื่อตำบลหนึ่งของแขวงเตี้ยเอี้ย ชาวแต้จิ๋วยกย่องให้เป็นเมืองทำขนมเปี๊ยะได้อร่อยที่สุด จนตั้งชื่อขนมนี้เพื่อเป็นเกียรติว่า “ขนมกุ้ยสือ” เปลือกขนมเปี๊ยะนี้จะกรอบหนากว่าชนิดอื่นๆ ไส้ข้างในเป็นฟักเชื่อมปรุงรสอร่อย หวานกว่าไส้อื่นๆ เล็กน้อย
ขนมเปี๊ยะรสเต้าหู้ยี้ (น่ำยู่) (แต้เล่าจินเส็ง)
ขนมน่ำยู่ เป็นขนมเปี๊ยะทำจากเต้าหู้ยี้ รสชาติเข้มข้น เค็มออกรสเต้าหู้ยี้ ลักษณะจะเป็นชิ้นรี ตรงกลางมีรอยผ่ามองเห็นไส้ด้านใน โรยหน้าด้วยน้ำตาลทรายเล็กน้อย ไส้มีรสเค็มหอม ตำนานเล่าขานกันว่าในอดีตมีร้านขนมในเมืองแต้จิ๋วร้านหนึ่งมีกุ๊กรับจ้างฝีมือดีเป็นคนทำขนมที่เลื่องลือไปไกลถึงความอร่อย ต่อมาบุตรชายเจ้าของร้านได้ฝึกปรือฝีมือจนเถ้าแก่ผู้พ่อคิดว่าสามารถปล่อยลูกเป็นกุ๊กใหญ่แทนได้ พอถึงตรุษจีนก็แต๊ะเอียกุ๊กแล้วให้ออกในคืนนั้น ด้วยความโกรธกุ๊กทำไส้ขนมกระทะสุดท้าย โดยสาดเต้าหู้ยี้ลงไปหมดกระปุกเพื่อแกล้งเจ้าของร้าน ปรากฏว่ารสชาติขนมเปี๊ยะชุดสุดท้ายนี้อร่อยกว่าที่เคยทำมาก่อนหน้าทั้งหมด ลูกชายเจ้าของร้านพยายามเลียนแบบอย่างไรก็ไม่เหมือน ผลสุดท้ายต้องบากหน้าไปเชิญกุ๊กคนนั้นกลับมาทำดังเดิม
ขนมไหว้พระจันทร์ของชาวกวางตุ้ง
รูปแบบขนมของชาวกวางตุ้ง เราเห็นอยู่ดาษดื่นไปทั่วโลก จนคุ้นเคยว่าเป็นขนมไหว้พระจันทร์ขนานแท้ มีไส้ให้เลือกหลากหลายชนิด ขนมเปี๊ยะกวางตุ้งนี้เพิ่งแพร่หลายในบ้านเราไม่นานมานี้เอง โดยบรรดาเชฟจีนจากฮ่องกงของโรงแรมห้าดาว แรกก็มีไส้เพียงไส้ถั่วบด ไส้ธัญพืช 5 ชนิด (โหงวก๊วย) ไส้พุทรา ไส้ครีม จนถึงไส้ทุเรียนกวน บางชิ้นสอดไส้ไข่แดงเค็ม บางชิ้นไส้ไข่แฝดถึง 2 ฟอง ที่เมืองคุนหมิง เคยชิมที่ผสมไส้หมูแฮมจนได้รสชาติที่แปลกไปอีกแบบ
ขนมมงคลสำหรับใช้ในพิธีแต่งงาน (แต้เล่าจินเส็ง)
ขนมเซ่นไหว้เทพเจ้าดวงจันทร์ซึ่งหมายถึงความพรั่งพร้อม สมบูรณ์ และความสมหวัง
วันไหว้พระจันทร์ เป็นวันที่พระจันทร์เต็มดวงส่องแสงงดงามสุกสกาว ชาวจีนจึงให้พระจันทร์เป็นสัญลักษณ์ของความสวยงาม เป็นสื่อกลางของการคิดถึงซึ่งกันและกัน เมื่อคนในครอบครัวจากบ้านเกิดไปไกล เมื่อคิดถึงครอบครัวก็ให้แหงนมองดวงจันทร์ ส่งความรู้สึกที่ดีและความคิดถึงให้กันผ่านดวงจันทร์ นอกจากนี้ ยังถือได้ว่า วันไหว้พระจันทร์ เป็นวันที่คนในครอบครัวจะได้แสดงความสามัคคีกัน และได้ชมดวงจันทร์พร้อมหน้ากัน จึงกล่าวได้ว่าวันไหว้พระจันทร์ เป็นวันแห่งการอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาของครอบครัว
ประเพณีการไหว้พระจันทร์ จะเริ่มต้นตอนหัวค่ำซึ่งดวงจันทร์เริ่มปรากฏบนท้องฟ้า พิธีการจะดำเนินต่อไปจนถึงประมาณ 4-5 ทุ่ม บางบ้านอาจจะไหว้พระจันทร์ที่ลานหน้าบ้าน ดาดฟ้า โดยมีการตั้งโต๊ะ ทำซุ้มต้นอ้อย มีธูปเทียน กระดาษเงินกระดาษทองที่พับเป็น เงินตราจีน แต่งโต๊ะด้วยกระดาษสีฉลุลาย โคมไฟประดิษฐ์ บางบ้านยังไหว้ด้วยเครื่องสำอางจำพวกน้ำหอม แป้ง สบู่ฯลฯ และสิ่งของเซ่นไหว้ หลังเสร็จพิธีทุกคนในครอบครัวจะตั้งวงแบ่งกันกินขนมไหว้พระจันทร์ โดยนำขนมมาหั่นแบ่งให้เท่ากับจำนวนคนในครอบครัว ห้ามเกินหรือขาด และแต่ละชิ้นต้องมีขนาดที่เท่ากัน ขนมไหว้พระจันทร์จึงเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคี ความกลมเกลียวของคนในครอบครัว ดังนั้น รูปลักษณะของขนมไหว้พระจันทร์จะต้องทำเป็นก้อนวงกลมเท่านั้น
ภัตตาคาร เซียงปิงเหลา
โรงแรมแกรนด์ไชน่า เยาวราช
215 ชั้น 8 โรงแรมแกรนด์ไชน่า ถนนเยาวราช
แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 10100
โทรศัพท์ : 022249977 , 022247997
แฟกซ์ : 022247999
อีเมล์ : gcp@grandchina.com
ขนมเปี๊ยะปรุงพิเศษ ท่าดินแดง
142 ถนนท่าดินแดง แขวงคลองสาน เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร
โทร.02 437 4164, 089 667 8123
เปิด 08:00 - 16:00 น. (หยุดทุกวันอาทิตย์ที่ 2 และ อาทิตย์ที่ 4 ของเดือน)
แต้เล่าจิ้นเส็ง
เลขที่ 4 ปากซอยเยาวพานิช ถ.เยาวราช กทม.
เปิดทุกวัน เวลา 09.00-19.30 น.
โทร. 0-2224-2142, 0-2224-215
ภาพถ่าย มีรัติ รัตติสุวรรณ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี