น่าเห็นใจสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นอย่างยิ่งที่มาเจอคดีสลับซับซ้อน ยุ่งยาก วุ่นวาย แทบจะเรียกได้ว่า
อาจจะเกินสติปัญญาของบรรดานายตำรวจที่เป็นนักสืบสวน สอบสวน
ก็จะมีอะไรเสียอีกละครับ พี่น้อง นอกเสียจากคดีใหญ่ที่สะเทือนเลื่อนลั่นอยู่ ในสังคมขณะนี้ คือคดีที่มี
นายตำรวจระดับ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาลและรองๆ ลงมาอีก 2 คน พาอดีตนายกรัฐมนตรีที่มีคดี
ความอยู่ จะต้องไปฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในอีก 2
วันหนีออกนอกประเทศ
ที่ใช้คำว่าหนีเพราะจำเลยที่เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีที่ว่านี้ศาลห้ามเดินทางออกนอกประเทศ
มีภาพจากกล้องวงจรปิดให้เห็นรถที่พาอดีตนายกรัฐมนตรีเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ถึงอรัญประเทศ
ชายแดนไทย - กัมพูชา
ตำรวจทั้งสามนายถูกนำตัวมาสอบสวนโดย ยอมรับสารภาพว่า พานางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีต
นายกรัฐมนตรีไปจริง ส่งถึงชายแดนแล้วก็กลับ กลับมาแล้วก็จะนำรถที่พา นางสาวยิ่งลักษณ์หนีไปแยกเป็น
ชิ้นส่วน
รองนายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอกศรีวราห์
รังสิพราหมณกุล บอกว่าเอาผิดตำรวจทั้งสามไม่ได้ เพราะขณะที่ตำรวจทั้งสาม พานางสาวยิ่งลักษณ์ไปอรัญ
ประเทศ นางสาวยิ่งลักษณ์ อดีตนายกรัฐมนตรียังไม่ถูกออกหมายจับ จะเดินทางไปไหนก็ได้
เอาผิดได้อย่างเดียวก็ปลอมทะเบียนรถ
ต่อมามีเสียงคัดค้านว่า ตำรวจทั้งสามผิดแน่นอนมาตรา 157 ประมวลกฎหมายอาญา และ 117 ประมวล
กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
จึงได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมาใหม่ ตรวจสอบหลักฐานใหม่ นำรถที่พานางสาวยิ่งลักษณ์ไป
ตรวจหา ดีเอ็นเอ
มาถึงวันนี้ พลตำรวจเอก ศรีวราห์ ให้สัมภาษณ์ ถึงความคืบหน้าในเรื่องนี้ว่า ได้รับรายงานอย่างไม่เป็น
ทางการจากกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ส านักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ถึงผลการเปรียบเทียบดีเอ็นเอใน
รถยนต์โตโยต้า รุ่น คัมรี่ ทะเบียน ฌช 5323 กรุงเทพมหานคร ที่ พันตำรวจเอก ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ รองผู้
บังคับการตำรวจนครบาล 5 ให้การว่า พานางสาวยิ่งลักษณ์ และเลขานุการส่วนตัวไปอรัญประเทศ ปรากฏ
ว่า ไม่สามารถยืนยันดีเอ็นเอได้ เพราะดีเอ็นเอที่พบในรถมีการปนเปื้อน และไม่สามารถเปรียบเทียบกับดี
เอ็นเอของนางสาวยิ่งลักษณ์
ยุ่งละซีครับคราวนี้
และยิ่งจะต้องยุ่งหนักเข้าไปอีก เมื่อ พันตำรวจเอก ชัยฤทธิ์ เปลี่ยนคำให้การว่า ผู้ หญิงที่พันตำรวจเอก ชัย
ฤทธิ์ ขับไปส่งที่อรัญประเทศ ค่ำเกือบ 4 ทุ่มวันที่ 23 สิงหาคม 2560 นั้น ไม่ใช่ นางสาวยิ่งลักษณ์ อดีต
นายกรัฐมนตรี
“เมื่อไม่มีผลดีเอ็นเอที่เป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันว่ามีการพานางสาวยิ่งลักษณ์หลบหนี มีเพียง
คำให้การของ พันตำรวจเอก ชัยฤทธิ์ จึงไม่สามารถดำเนินคดีตามมาตรา 157 กับ พันตำรวจเอก ชัยฤทธิ์ได้
แต่ในส่วนความผิดเกี่ยวกับรถ ทั้ง พรบ. ศุลกากร และการปลอมแลงเอกสารเกี่ยวกับรถยนต์ ก็ดำเนินคดี
ต่อไป " พลตำรวจเอก ศรีวราห์กล่าว
ส่วน พลตำรวจตรี ภาณุรัตน์ หลักบุญ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงผลการสอบสวนเอาผิด
ทางวินัย ตำรวจที่พานางสาวยิ่งลักษณ์ ไปอรัญประเทศ กล่าวว่า มีประเด็นพิจารณา 2 ประเด็นคือ 1 ใช้รถ
และป้ายทะเบียนปลอม 2 เรื่องที่พานางสาวยิ่งลักษณ์หนี
เรื่องแรก คณะกรรมการเห็นว่ามีความผิดวินัยข้าราชการตำรวจ ไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและ
เที่ยงธรรม ซึ่งจะเสนอต่อ พลตำรวจโทชาญเทพ เสสะเวช รักษาการผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ตั้ง
คณะกรรมการลงโทษทางวินัยต่อไป
ส่วนเรื่องที่สอง ผู้ถูกกล่าวหาให้การต่างจากครั้งแรกที่ให้การกับนายทหารพระธรรมนูญ ซึ่งยืนยันว่า พา
นางสาวยิ่งลักษณ์ไป อรัญประเทศ แต่ครั้งหลังบอกว่า เป็นผู้หญิงคนอื่น และ พลตำรวจเอก ศรีวราห์
แถลงแล้วว่า ผลการตรวจดีเอ็นเอ ในรถ เป็นอย่างไร
นี่นับเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ ส านักงานตำรวจแห่งชาติอย่างยิ่ง ที่ดีเอ็นเอ ในรถเกิดการปนเปื้อน ยากที่จะระบุ
ได้ว่า ผู้หญิงที่ นายตำรวจพาไปอรัญประเทศเป็น นางสาวยิ่งลักษณ์
และเมื่อคำให้การของตำรวจที่ถูกกล่าวหา เปลี่ยนไป จากที่เคยให้การกับทหารพระธรรมนูญ จากที่เคยบอก
ว่า เป็นนางสาวยิ่งลักษณ์กลายเป็นหญิงอื่น
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ต้องมาเริ่มต้นใหม่ว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ เดินทางออกนอกประเทศไปถึง อังกฤษ
ช่องทางไหน ตำรวจคนไหน หรือหมาที่ไหนนำทางไป
ส่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็คงจะต้องหาทางพัฒนา หาเครื่องไม้เครื่องมือดีๆ มาใช้ แค่แยก หรือ
ตรวจสอบดีเอ็นเอ ก็เป็นปัญหา รวมทั้ง บุคลากรของตำรวจ คงจะต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเป็นการใหญ่
เริ่มตั้งแต่ บุคคลกรที่จะมาเข้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจ จนกระทั่งเรียนจบ มาเป็น ร้อยตำรวจตรี ร้อยตำรวจ
โท เรื่อยไปจนถึงนายพล
แต่ไหนแต่ไร คนที่จะเรียนโรงเรียนนายร้อยตำรวจ คัดมาจากคนที่เรียนเก่ง บุคลิกดี แข็งแรง สง่า ผ่าเผย
เป็นชายชาตรี แต่ทุกวันนี้เกิดอะไรขึ้น ในรอบปีมานี้ ระดับ พลตำรวจโท กรอกบัญชีว่า รับเงินจากบริษัท
เหล้า 5 หมื่นบาทต่อเดือน พอถูกสอบ แจ้งใหม่ว่า ไม่ได้รับ รายรับส่วนนี้ไม่มี
มาคราวนี้ ตำรวจ ระดับ พันตำรวจเอก บอกว่า พาอดีตนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ไปอรัญประเทศ
ผ่านมาไม่กี่วันบอกว่าที่พาไปนั้นเป็นคนอื่น
ฟังตามเหตุตามผลแล้ว มันไม่น่าจะจำคลาดเคลื่อน เลอะเลือน เพราะบุคลิกกระแด๊ะกระแด๋ของนาง น่าจะ
แตกต่างจากหญิงทั่วไป
เกิดอะไรขึ้นกับตำรวจไทยครับพี่น้อง !
สำ เริง คำ พะอุ
สำหรับผมองค์ธรรมทั้ง 3 ข้างต้นถือเป็นรัฐธรรมนูญที่จะต้องมีประจำใจของนักการเมืองและผู้ปกครองทุกระดับ ไม่เป็นเช่นนั้นสังคมไทยก็จะมีสภาพอย่างปัจจุบันไปไม่รู้จบ
ปัญหาขั้นต่อมาก็คือ “จะสร้างสรรค์หลักธรรมทั้ง 3 นี้ให้เข้าไปอยู่ในใจของนักการเมืองและผู้ปกครองได้อย่างไร?”
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี