วิจารณ์นายกฯลุงตู่มากไปหน่อย แม่ยกของนายกฯคงโกรธแน่ๆ แต่ก็ขอบอกว่าผมก็ไม่ได้มีอคติกับนายกฯลุงตู่ เห็นอย่างไรก็เขียนอย่างนั้น เท่าที่จะมีหัวคิด
ถ้าจะมีอคติก็เพราะตั้งใจจะเป็นฝ่ายค้าน เพราะรัฐบาลนี้ไม่มีฝ่ายค้านในสภาเลย
ผมยังถือคติของบรรพชนที่ว่า "รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี"
แต่พ่อแม่สมัยนี้จำนวนมากไม่คิดเช่นนั้นอีกแล้ว เพราะเอาตั้งหน้าตั้งตาเลี้ยงลูกให้เป็น "คุณหนู" ฟูมฟักเหมือนไข่ในหิน ริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม พะเน้าพะนอกันทุกวัน แม้ลูกจะโตเป็นวัวแล้วก็ตาม
นายกฯลุงตู่และรัฐบาลทั้งคณะแม้ไม่ใช่ลูกขอประชาชน ตรงกันข้ามพวกเขาอาจจะคิดว่าเป็นพ่อของประชาชนด้วยซ้ำ แต่ผมก็ถือคติดังกล่าวของบรรพชนอยู่...แม้จะทำให้คนที่รักนายกฯลุงตู่ "ทนไม่ได้" กับการตำหนิติเตียนลุงตู่อยู่บ่อยๆ
คงอยากนายกฯลุงตู่และรัฐบาลเป็น "คุณหนู"
ผมยังคิดเล่นๆว่า ต่อไปใครพูดหรือทำอะไรไม่ถูกใจนายกฯลุงตู่และคณะรัฐมนตรี แกคงจะลงไปนอนชักดิ้นชักงอกับพื้นประท้วง เหมือนเด็กที่อยากได้ของเล่นแล้วพ่อแม่ไม่ตามใจ เพราะสามปีกว่าที่ผ่านมานายกฯลุงตู่ก็ว้ากผู้สื่อข่าวอยู่บ่อยๆ (บางคำถามก็สมควรว้ากอยู่หรอก) เพราะเป็นคำถามแสลงหูของแก ซึ่งก็บอกว่านายกฯลุงตู่เอาแต่ใจเหมือนกัน
ผมว่านายกฯลุงตู่จะ “เสียเด็ก” ก็เพราะแม่ยกคอยให้ท้ายนี่แหละ!
ลองดูตัวอย่างต่อไปนี้ก็ได้
ผมเขียนเรื่อง Vat ทั้งในเพจนี้และในแนวหน้าออนไลน์ 2 ครั้งในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา แม่ยกของนายกฯลุงตู่คนหนึ่งออกมาถามว่า “เอาข่าวมาจากไหน” ผมก็ตอบว่า “เอามาจากนายกฯลุงตู่นั่นแหละ!”
เพราะจำได้ว่าเมื่อต้นปีนี้ นายกฯลุงตู่ได้ออกมาขอเปิดกระเป๋าสตางค์ประชาชนดู และถามว่าพอจะมีเงินเสีย Vat อีกสัก 1 เปอร์เซ็นต์ไหม เป็น 8 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่นั้นมาผมเลยไม่วางใจนายกฯลุงตู่ กลัวว่าจะหลงเชื่อลูกยุหรือหน้ามืดต้องการใช้เงินทำนั่นทำนี่และซื้อของแพง ก็จะขึ้นภาษีอย่างที่เคยถามไว้
ในสมัยคุณยิ่งลักษณ์ผมก็เคยเขียนคัดค้าน เมื่อมีข่าวว่าจะเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ผมโดนแม่ยกคุณยิ่งลักษณ์สวนทันทีว่า "เขาเก็บหรือยัง" !
ผมตอบว่า “ยัง” แต่ผมต้องเขียนดักคอไว้ก่อน เพราะขึ้นภาษีแล้วรัฐบาลไม่ยอมลดหรอก
มาถึงในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว มีเรื่องจะซื้อเครื่องตรวจจับความเร็วด้วยราคาแพงฉิบหาย มีคนบ่นกันทั้งเมือง พล.อ.อนุพงศ์ก็บอกเหมือนสั่งว่า " ซื้อมาแล้วค่อยวิพากษ์วิจารณ์" !
พวกแม่ยกก็ให้ท้ายทันที “เขายังไม่ทันซื้อเลย จะรีบวิจารณ์ไปทำไม?”
แต่ผมก็เห็นว่า ซื้อมาแล้ววิจารณ์จะได้ประโยชน์อะไร? อ้อยเข้าปากช้างไปแล้ว ใครจะดึงออกมาได้เล่า? (ถ้าจะเป็นอ้อย)
ผมเห็นว่าควรกำหนดสเป็คแล้วเปิดเผยราคาให้คนจ่ายภาษีได้วิพากษ์วิจารณ์เสียก่อน จึงจะถูกต้องตามขั้นตอนและหลักการ
บรรดาท่านๆแห่ง คสช. นี่ เวลาใหัสัมภาษณ์เขาไม่แคร์ความรู้สึกคนเสียภาษีหรอก!
นายกฯลุงตู่เองก็คงไม่แคร์เช่นกัน
ผมเชื่อว่านายกฯลุงตู่แคร์แต่ “พี่ๆเพื่อนๆ” มากกว่าแคร์ประชาชน เพราะมีหลายกรณีที่ชวนให้กังขาในเรื่องทุจริต แต่นายกฯลุงตู่ก็เงียบ ผมก็เดาเอาว่าคงไปพูดกัน “หลังไมค์” ตามประสาพี่ๆน้องๆ ครั้นออกมาพูดต่อสาธารณะก็มักจะพูดปกป้องพี่ๆน้องๆเสียอีก!
ผมเลยเซ็งนายกฯลุงตู่มากขึ้นทุกวัน แต่ผมก็ยังเชื่อว่า "นายกฯลุงตู่" ของบรรดาแม่ยกมีความตั้งใจดีที่จะทำให้พลเมืองอยู่ดีมีสุข แต่นายกฯลุงตู่ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องพึ่งคนอื่นๆ จึงส่งผลให้ผมไม่เชื่ออยู่ 6 เรื่อง
1. ไม่เชื่อว่าคนที่รายล้อมรอบตัวนายกฯลุงตู่ รวมทั้งที่คนเป็นรัฐมนตรีด้วย จะหวังดีตามไปด้วย หรือหวังดีแต่ก็คิดถึงผลประโยชน์ตัวเองด้วย หรือมากกว่า
2. ไม่เชื่อว่าลุงตู่จะรู้ทัน "พวกพ่อค้านักธุรกิจ" ที่เชิญเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรในนาม "โครงการประชารัฐ" ว่าจะซื่อตรงกับนายกฯลุงตู่
3. ไม่เชื่อว่าลุงตู่จะกล้าห้ามปราม - คัดค้าน หรือกล้าตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างในกองทัพ (ถ้าทำไม่ได้ก็จะเป็นจุดอ่อนให้โดนโจมตีว่าเก่งแต่ตรวจสอบฝ่ายตรงข้าม)
4. ไม่เชื่อว่านายทหารและตำรวจและเศรษฐีที่เป็น “กรรมการในคณะต่างๆ” จะไม่คิดถึงผลประโยชน์ของตน
5. ไม่เชื่อว่านายกฯลุงตู่จะแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านเศรษฐกิจได้ เพราะนายกฯลุงตู่แก้อยู่ในกรอบของระบบทุน(ตลาดเสรี) อย่างเก่งก็ "แจก" ไม่แตกต่างจากรัฐบาลที่ผ่านมา
6. ไม่เชื่อว่านายกฯลุงตู่จะมี "อำนาจ" เท่ากับรองนายกฯลุงป้อม
ที่ไม่เชื่อก็เพราะดูจากการกระทำทั้งหลายที่ผ่านมาของนายกฯลุงตู่และคณะรัฐมนตรี
ที่จริงอยากจะเขียนมากกว่านี้ แต่พอแระ เดี๋ยวแม่ยกของนายกฯลุงตู่โกรธเอา.
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี