ต้องยอมรับว่า การยืนใบลาออกจากตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานของพลเอกศิริชัย ดิฐกุล หรือที่เพื่อนๆอดีตนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 13 และนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ารุ่น 24 ขนานนามว่า “บิ๊กบี้” และทีมงานยกพวงออกนั้น กลายเป็น “ทอล์คออฟเดอะทาวน์” ที่น่าจับตามอง และจ้องอย่างกระพริบไม่ได้โดยแท้
นี่คือสัญญาณความไม่เป็นเอกภาพของคสช.
และค่อนข้างจะชัดเจนว่า “ เกิดเหตุว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง”
รัฐบาลทหารภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตผู้บัญชาการทหารบกและหัวหน้าคสช. คณะนายทหารที่ยึดอำนาจการบริหารประเทศจากนายนิวัฒน์ธำรงค์ บุญทรงไพศาล รักษาการนายกรัฐมนตรีแทนนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนที่ 28 ที่ลาออกจากตำแหน่งและอยู่ในเก้าอี้รักษาการ กระทั่งศาลรัญรรมนูญวินิจฉัยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีความผิดกรณีการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรีจากตำแหน่ง เลขิการสมช.มาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จนต้องให้นายนิวัฒน์บุญทรง รองนายกรัฐมนตรีมารักษาการแทนนายกรัฐมนตรี จนถูกคณะนายทหารคสช.ยึดอำนาจการบริหารประเทศ
หลังการยึดอำนาจและจัดตั้งรัฐบาลทหารแล้ว ต้องยอมรับว่าเป็นรัฐบาลทหารที่สามารถอยู่ได้ยืดยาวนานเสียกว่ารัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งอีก
สำหรับรัฐบาลคสช. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ที่เพิ่งปล่อยของโยนหินถามทางถนนสู่การเมืองในอนาคต ด้วยคำถาม 6 ข้อให้ประชาชนแสดงความคิดเห็น เล่นเอาบรรดานักการเมืองอยู่นิ่งเฉยไม่ได้ ออกอาการกระเหี้ยนกระหือรืออยากออกมาเต้นแร้งเต้นกาอยากแสดงความคิดเห็นอยากปลุกระดมมวลชนคนรากหญ้าให้ออกมาเคลื่อนไหว หลังประดาส่ำสัตว์เหล่านี้ถูกจองจำทางการเมืองนานๆพอกับอายุรัฐบาลทหาร ยิ่งพลเอกประยุทธ์ออกมาเล่นเกมโยนหินถามทาง ตั้ง 6 คำถามให้ประชาทั่วประเทศตอบแสดงความคิดเห็นผ่านศูนย์ดำรงธรรม โดยเฉพาะคำถามข้อ 2 ระบุว่า คสช.มีสิทธิที่จะสนับสนุนพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งคำถามที่ดูเสมือนการเปิดตัวว่าอาจจะดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายบริหารต่อไปอีกหลังการเลือกตั้ง
ทว่า 6 คำถามดังกลัวเหมือนเอาน้ำร้อนไปราดสาดใส่ฝูงส่ำสัตว์ จนออกอาการดิ้นพล่าน ดาหน้าออกมาตอบคำถาม “บิ๊กตู่” อย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน โดยพรรคเพื่อไทยตั้งโต๊ะแถลงข่าวเรียกร้องให้เร่งปลดล็อคพรรคการเมือง และยังเห็นว่าการกระทำของรัฐบาลบิ๊กตู่คือ “การเล่นการเมืองที่เอาเปรียบ”
ขณะที่ฝั่งพรรคประชาธิปัตย์ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ก็ไม่เก็บอาการ แสดงความเห็นทันทีว่า 6 คำถามของนายกฯเป็นคำถามที่ไม่สร้างสรรค์ ควรนำเวลาไปบริหารเศรษฐกิจ ดูแลปากท้องประชาชนที่เดือดร้อนจะดีกว่า ส่วนข้อถามที่ว่า คสช.มีสิทธิสนับสนับสนุนพรรคการเมือง ก็ถือเป็นความเห็นหรือการกระทำที่ต่ำทราม ไร้ธรรมาภิบาล คสช.ไม่ควรใช้อำนาจเผด็จการมากำหนดอนาคตบ้านเมือง
ท่ามกลางความเคลื่อนไหว “ล้างไพ่ครม.บิ๊กตู่5” ปรับใหญ่เพื่อเรียกเรตติ้งคะแนนนิยม ช่วงโค้งสุดท้ายของรัฐบาลทหาร
ฉากใหญ่ที่สะท้อนถึงความไร้เสถียรภาพของรัฐบาล และยังคงจมปรักต่ำตมอยู่กับการต่อรอง ซึ่งแฝงไว้ด้วยผลประโยชน์ ไม่ผิดเพี้ยนอะไรไปจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้ดาบม.44 เด้งฟ้าผ่าดอธิบดีกรมการจัดหางาน ชีวิตทหารหาญอย่าง พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล (บิ๊กบี้) ในฐานะเจ้ากระทรวงแรงงาน “ฆ่าได้ หยามไม่ได้” เป็นรมต.แต่งตั้งลูกน้องให้คุณให้โทษไม่ได้ ถูกล้วงลูกจากอำนาจหน่วยเหนือ สั่งการชักใยบงการจะย้ายคนนั้นคนนี้ ต้องการผลักดันโครงการนั้นโครงการนี้ แล้วจะเป็นรมต.ตรายางให้คนนอกกระทรวงมาชี้นิ้วสั่งการ ศักดิ์ศรีของทหารที่สั่งสมมาทั้งชีวิต เป็นอันจบสิ้น
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ “บิ๊กบี้” และทีมงานทั้งผู้ช่วยรัฐมนตรี ที่ปรึกษาจะพากันเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋ากลับบ้านใครบ้านมัน ทว่าเบื้องลึกเบื้องหลังมีอะไรน่าสนใจมากกว่านั้น หากไม่แล้ว การใช้ดาบอาญาสิทธิ์ม.44 ควรแล้วหรือที่จะออกมาฟาดฟันเด้งฟ้าผ่าลูกน้องคนสนิทของ “บิ๊กบี้”
การกรุยทางเพื่อต้อนรับ “นายหญิง” สายตรงฮอตไลน์จากตึกไทยคู่ฟ้า ผงาดขึ้นสู่เก้าอี้ “จับกัง1” จึงเป็นเรื่องที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง
อีกทั้งโครงการอภิมหาโปรเจ็กต์ การจัดซื้อ “เครื่องสแกนม่านตา” ที่คณะล้วงลูกเพียรพยาบาลจะให้กระทรวงแรงงานผลักดันโครงการนี้ แต่อธิบดีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเบรกตัวโก่ง ด้วยเหตุผลที่ว่า “ได้ไม่คุ้มเสีย” นี่คือเหตุหลักใหญ่ใจความที่นำไปสู่การใช้ม.44 ถล่มกระทรวงแรงงานหรือไม่???
ก่อนที่จะให้ประชาชนตอบ 6 คำถามที่ต้องการคำตอบ
นายกฯลุงตู่ไขความกระจ่างด่วน
กรณีเครื่องสแกนม่านตากับ”นายหญิงจับกัง1”
ออกอาการ “ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง”
หรือไม่?!?!
ด็อกเตอร์นายหญิงคนใหม่นี้คือใครกันหว่า
ไฉนสำคัญกว่านักเรียนเตรียมทหารรุ่นน้องและนายทหารระดับเสนาธิการของคสช.ได้
ล้างไพ่ครม. ปรับเล็กหรือปรับใหญ่ ไม่ใช่สาระสำคัญของประชาชนที่เฝ้ารอคอยการเติมเต็มความสุข หลักจากที่พล.อ.ประยุทธ์รัฐประหารมาเป็นเวลากว่า 3 ปี หากแต่การบริหารราชการแผ่นดิน จะต้องทำเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน และบ้านเมืองเป็นหลักชัย หากแต่ภาพสะท้อนที่เกิดขึ้นยังจมปรักอยู่กับพรรคพวก และผลประโยชน์ 6 คำถารมของนายกรัฐมนตรี ที่หวังจะได้ยินได้ฟังจากเสียงของประชาชน ก็เชื่อว่าทุกคนคงมีคำตอบเป็นเสียงเดียวกันแล้วว่า “เศรษฐกิจบักโกรกย่ำแย่ ชักหน้าไม่ถึงหลัง” เพราะคำถาม 6 ข้อคือคำถามทางการเมือง ไม่ใช่คำถามที่ประชาชนเขาอยากตอบ นั้นคือการถามถึงความทุกข์สุขของประชาชนนั้นเอง
วรพจน์ แสนประเสริฐ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี