ส้มตำนางฟ้า
เมื่อ 3 ปีก่อนช่วงที่ร้าน มัลลิกา ยังอยู่ที่แถวเหม่งจ๋าย ได้เคยแนะนำร้านไปหนหนึ่ง วันเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ต่อมาได้ข่าวว่าร้านได้ย้ายไปเปิดอยู่ในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จึงเกิดถวิลหารำลึกถึงรสมืออาหารใต้ฝีมือเฉียบขาดของร้านนี้ขึ้นมาได้ จึงได้แวะไปเยี่ยมเยือนอีกหนหนึ่งเพื่อฟื้นอาหารของร้าน และลองชิมเมนูใหม่ๆ
ดังเป็นที่ทราบกันดีว่าด้ามขวานของภาคใต้ของเราติดฝั่งทะเล 2 ด้าน คือด้านฝั่งอ่าวไทยและด้านฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งวัฒนธรรมต่างๆ ย่อมมีความแตกต่างกันไม่มากก็น้อย ในส่วนของอาหารการกินก็เช่นเดียวกัน มีความแตกต่างกันบ้างในตำรับอาหารก็สืบเนื่องจากเครื่องปรุงและทรัพยากรที่แตกต่างกันไป เช่น ผักเหลียงที่รสมันกว่าที่อื่น หรือขมิ้นชุมพรนั้นมีกลิ่นหอมกว่า
ทุกเมนูล้วนมีที่มา กว่าจะมาเป็นอาหารใต้รสเผ็ดร้อนถูกปากคนทุกภาค เกิดจากการเก็บสะสมประสบการณ์ในแต่ละช่วงชีวิต สนุก สุขเศร้าเคล้ากัน ไม่ต่างจากนิยายที่เด็ก
ผู้หญิงเชื้อสายจีนคนหนึ่งที่เติบโตมากับอาหารรสอ่อนของแม่แต่ด้วยรสนิยมส่วนตัวถูกใจรสอาหารท้องถิ่น ครูพักลักจำจนกลายเป็นแม่ครัวอาหารใต้รสชาติจัดจ้านในเวลาต่อมา
ต่อมามีคนชวนมาดูพื้นที่ในศูนย์อาหารของโรงพยาบาลจุฬาฯ เดิมตั้งใจว่าจะเปิดเป็นบูธเล็กๆ ขายข้าวแกงแต่กลายเป็นว่าได้พื้นที่ 260 ตารางเมตร บนชั้นลอยของศูนย์อาหารทวีวงศ์ถวัลย์ศักดิ์ เปิดเป็นร้านขนาด 100 ที่นั่ง
ขาหมูต้มส้มแขก
แม้จะเป็นพื้นที่ค่อนข้างหลบอยู่ในมุม แต่ปรากฏว่านับตั้งแต่วันเปิด โต๊ะไม่เคยว่างเลย ช่วงแรกเที่ยงๆ ต้องจองมาก่อนเพราะที่นั่งมักจะเต็ม ลูกค้าเก่าที่มารอ เป็นหมอ
เป็นพยาบาลทั้งนั้น ไม่น่าเชื่อว่า 15 วันแรกที่ทดลองเปิดร้านมีลูกค้านักเรียนแพทย์ พยาบาล ทั้งที่เคยรู้จักจะกลับมาเป็นลูกค้าคอยอุดหนุนกันในร้านใหม่ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง
ส้มตำนางฟ้า คือส้มตำผลไม้รวมอันได้แก่ แอปเปิ้ลเขียวมะม่วง ชมพู่ ฝรั่ง องุ่น แครอท มะเขือเทศ ส้มโอ สับปะรด เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ฯลฯ ตำหยอกๆ เคล้าน้ำส้มตำปรุงรสที่ปรุงล่วงหน้าส่วนพริกกระเทียมตำใหม่ๆ แล้วบรรจุในกระทงแป้งตอติญ่าของเม็กซิโก (Tortilla) ทอดกรอบจับจีบคล้ายกระโปรง นำมารองส้มตำผลไม้สำหรับเรียกน้ำย่อยแก้เบื่อจากส้มตำทั่วไปที่มักตำด้วยมะละกอ ส้มตำนางฟ้าเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยจานโปรดของเหล่าพยาบาล
น้ำพริกกุ้งเสียบ
หอยผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ จานกับแกล้มสูตรเด็ดมาสู่อาหารเรียกน้ำย่อยยอดนิยมของร้านอาหารที่ไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เจ้าของสูตรบอกว่าทำง่ายมากเพียงแต่ต้องใช้วัตถุดิบอย่างดี หอมกระเทียม เม็ดมะม่วงมันเคล้ากับรสชาติของหอยลายพริกเผา เผ็ดร้อนด้วยพริกไทยอ่อน กระเทียม หอยลายแห้งผัดให้สุก แล้วนำมาผัดกับเม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด พริกแห้งทอด ปรุงรสด้วยน้ำตาล เกลือ เล็กน้อย ทุกอย่างอร่อยอยู่แล้วในตัวเอง อยากเผ็ดไปเคี้ยวพริกทอด พริกไทย สมัยก่อนใช้กุ้งแห้งกับถั่วลิสง แต่ที่เปลี่ยนเป็นหอยลายแห้งเพราะว่าให้รสชาติดีกว่า
ทุกวันนี้เป็นเมนูที่ขาดไม่ได้ที่ลูกค้านิยมสั่งมากินระหว่างรออาหารจานหลัก
ขาหมูต้มส้มแขก อาหารสูตรใหม่ที่เกิดจากการประยุกต์อาหารจีนกับเครื่องเทศปักษ์ใต้ เป็นขาหมูต้มส้มแขกใส่กะปิ เป็นอาหารลูกผสมที่กินอร่อย หอมกลิ่นส้มแขกแซมเปรี้ยวหน่อยๆ รสชาติไม่เค็มและไม่หวานจัด
ส้มแขกเป็นพืชชนิดเดียวกับ ส้มควาย ส้มมะวน ชะมวงช้าง เป็นไม้ยืนต้นในวงศ์เดียวกับมังคุด ชะมวง เป็นสมุนไพรลดความอ้วน สาวๆ อยากมากินขาหมูเมื่อเจอส้มแขกจะไม่ได้ไม่เครียด รสชาติออกพอดี ยังมีเครื่องเทศผสมเล็กน้อยเช่น หอมไทย กระเทียม พริกไทย รากผักชี มีพริกแห้งและกะปิเล็กน้อย แต่ไม่ใส่ซีอิ๊ว เคี่ยวกันครึ่งค่อนวัน ระหว่างนั้นคอยช้อนมันลอยหน้าออก เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มพริกเขียวใช้พริกขี้หนูปั่นปรุงรสด้วยเกลือและน้ำส้มชายชู เพื่อช่วยแก้เลี่ยน
ปลาอินทรีทอด
หมูรวนเค็ม ในรายการอาหารยังมีหมูรวนเค็มตามสูตรที่เตี่ยชอบกิน หมูสามชั้นหั่นพอดีคำ หมักกระเทียมพริกไทยรากผักชีโดยไม่ขี้เหนียวเม็ดพริกไทยตำ เคล็ดความอร่อยอยู่ตรงที่ทอดแล้วเนื้อนุ่มไม่เหนียว มันไม่มาก กินคลุกกับข้าว หรือกินเป็นกับแกล้มก็อร่อยพอกัน
ผักรวมต้มกะทิ เมนูงานบุญชาวใต้ สูตรอาหารจานนี้คงไม่มีขายที่ร้านอื่น เพราะ “พี่แมว” เป็นผู้รังสรรค์ขึ้นเองจากประสบการณ์ ประกอบด้วย ผักกูด ใบเหลียง ยอดมะพร้าวข้าวโพดอ่อน ชะอม มะเขือ จำพวกผักลวกที่กินกับน้ำพริก แล้วโขลกกะปิ หอมแดง ให้ละเอียดแล้วละลายต้มในกะทิพร้อมกุ้งสด วิธีกินแนะนำให้ตักน้ำพริกกุ้งสดที่ให้มาด้วยราดบนต้มผักรวมเป็นคำคำไป แล้วจะได้รับรสอันน่าพิศวงจากอาหารจานนี้
งานวัดทั่วไปในเมืองไทยเหมือนกันหมด เวลาที่มีงานบุญ แต่ละบ้านจะเอาวัตถุดิบอย่างดี ต่างคนต่างเอามาบ้านละอย่างสองอย่างรวมกันได้ผักมากมาย เช่น บ้านนี้มียอดมะพร้าว บ้านนั้นมีชะอม ผักกูด ใบเหลียง วัดในจังหวัดภาคใต้ส่วนใหญ่จะปลูกมะพร้าว ปลูกสะตอรอบวัด เก็บมะพร้าววัดมาคั้นน้ำกะทิ เวลาต้มมีแต่สีเขียวๆ ขาวๆ อย่างเดียวมันก็ไม่สวย จึงใส่กุ้งแห้งลงไป เหมือนทำน้ำซุป แล้วใส่ผักนานาชนิดถ้าผักเหลือน้อยแขกมามากเกรงอาหารไม่พอก็ใส่วุ้นเส้นลงไปเพิ่มปริมาณ
ภาคใต้ไม่นิยมพริกน้ำปลา แต่จะเสิร์ฟน้ำพริกกะปิ เรียกว่าน้ำชุบ ผักเหล่านี้จึงเป็นผักต้มกะทิกินกับน้ำพริกพอมาถึงที่นี่ใส่กุ้งสดลงไปต้มกะทิแล้วเติมกะปิลงไป ทุบหัวหอม เกลือ โดยห้ามใส่น้ำปลาเป็นอันขาดจะเหม็นคาว เหมือนแกงเลียงก็ต้องใส่แต่เกลือ กะปิเล็กน้อย กะปินี้มีเทคนิคคือใส่ไมโครเวฟให้ร้อนเป็นการฆ่าเชื้อก่อนนำมาปรุง และส่งกลิ่นหอมด้วย
แกงคั่วหอยขม อร่อยนอกเมนู แกงคั่วหอยขมไม่เคยมีในเมนู วันหนึ่งไปตลาดเห็นหอยขมแม่ค้าล้างจนสะอาดเลยซื้อติดมือมา เดิมตั้งใจจะมาแกงกินเอง ต้มควักแต่เนื้อออกมา กลายเป็นว่าพอทำแล้วแบ่งให้ลูกค้าชิมติดใจถึงกับต้องจัดให้เป็นเมนูพิเศษที่ทำเมื่อไหร่ขายดีเมื่อนั้น แกงคั่วหอยขมทีนี่ใช้หอยสดมาลวกแล้วแกะเอง แกงสีไม่แดงเหมือนของภาคกลางเพราะใส่ขมิ้นชันชุมพรที่มีกลิ่นหอมมาก
แกงจืดกระดูกอ่อนกับเครื่องยาจีน
ผักกูดผัดกะปิ ผักกูดคือเฟิร์นป่าชนิดหนึ่ง มักจะเด็ดยอดอ่อนมาปรุงเป็นอาหารหลากชนิด ทั้งต้ม ผัด ยำลวกกินกับน้ำพริก รสกรอบขบเผาะ การกินผักกูดไม่ต้องระวังภัยจากสารเคมี คือนอกจากจะเป็นผักป่าตามธรรมชาติแล้ว ผักกูดยังเป็นพืชที่ไม่มีพิษมีภัย เพราะผักกูดเป็นพืชที่อ่อนไหวต่อสารเคมีทุกชนิด
ร้านนี้ใช้กะปิจากชุมพร สั่งมาครั้ง 50-100 กิโลกรัม เป็นกะปิหอมสีสวย สะอาด ซึ่งมีเพียงไม่กี่แหล่งในประเทศ
น้ำพริกกุ้งเสียบ กุ้งเสียบที่ใช้ในน้ำพริกเป็นกุ้งตัวโตคั่วให้กรอบก่อนมาตำกับกะปิหอมจากชุมพร ปรุงรสได้พอดีพร้อมด้วยผักต้มผักทอด ส่วนผักดิบเสิร์ฟมาเป็นกระจาดทั้งผักใต้และผักอีสานไม่มีอั้น เมื่อกินกับข้าวต้องระวังกินเพลินตัดกำลังแย่งพื้นที่ในกระเพาะเพราะยังเหลืออาหารอีกหลายรายการ
น้ำพริกกะปิ น้ำพริกกะปิปรุงด้วยกะปิจากชุมพรเช่นกัน ตำได้รสพอเหมาะพอเจาะของแม่ครัวฝีมือดี มีผักทอดผักลวก ผักสด และปลาทอด เผื่อสำหรับท่านที่ชอบน้ำพริกแบบภาคกลาง
ผัดสะตอ รายการนี้มีในร้านอาหารใต้แทบทุกร้าน แต่แตกต่างกันที่นี่คัดสะตอข้าว เม็ดโตเต่ง ผัดกับกะปิและพริกที่โขลกใหม่อย่างดี ทำให้สามารถรับรู้ได้ถึงความจับใจอันแตกต่างจากที่อื่น
ต้มส้มปลาหมึกยัดไส้ คล้ายกับต้มส้มภาคกลางเพียงเพิ่มด้วยขมิ้นชุมพรแต่งให้มีกลิ่นอายอาหารภาคใต้ ปลาหมึกสดกรอบ ยัดไส้ด้วยหมูสับจนล้น มีรสเปรี้ยวเค็มหวานพอดีกัน ซดน้ำชื่นใจ
ใบเหลียงกับดอกขจรผัดไข่ (เกษียณสวาท) ดังที่ได้เกริ่นไว้แต่แรกว่าเจ้าของร้านเป็นผู้ที่รู้จักผักนานาชนิด รู้ว่าผักชนิดใดควรกินอย่างไร ได้คิดสร้างสรรค์ใบเหลียงผัดไข่ที่ไม่เหมือนใครโดยที่ใบเหลียงรสมันเมื่อผัดแล้วมักจะยุบตัว จึงใส่ดอกขจรลงผัดผสมเพื่อให้ได้ความนุ่มนวล เมื่อลองชิมแล้วจะได้รับรู้รสที่เข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย พรรคพวกเคยช่วยตั้งชื่อจานนี้ว่า “กระสันสวาท” เพราะชิมแล้วหวนคิดถึงอยู่ไม่วาย แต่ฟังแล้วรู้สึกจะเฉียดเส้นศีลธรรมไปหน่อยจึงเปลี่ยนเสียงเรียกว่า “เกษียณสวาท” ค่อยหายหวาดเสียวหน่อย
ปลาตาเดียวทอดขมิ้น ภาคกลางเรียก “ปลาตาเดียว”ส่วนทางใต้เรียก “ปลาจักรผาน” มักจะแนะนำให้ลูกค้าสั่งเพราะให้เนื้อแน่นดีชิ้นโตกว่าจำพวกปลาเห็ดโคน โดยก่อนทอดจะหมักกับกระเทียมพริกไทยโขลกกับขมิ้น ชุมพรก่อนสัก 1-2 ชั่วโมง ผู้ทอดก็ต้องรู้จักการเลี้ยงไฟให้ดีจึงจะได้ความกรอบกรุบข้างนอกและความนุ่มเนียนข้างในน้ำจิ้มซอยหอมแดงพริกขี้หนูในน้ำปลามะนาวน้ำตาลนิดหน่อยปรุงรสให้จัด
กุ้งพริกเกลือ
ปลาอินทรีทอด ปัจจุบันนี้ ปลาอินทรีถือว่าเป็นปลาชั้นดี ราคาปลาสดแพงขึ้นอย่างน่าตกใจ จนอาจกล่าวได้ว่าเป็นปลาชั้นดีอีกชนิดหนึ่ง เนื้อปลาที่แน่นไม่คาวจัด รสชาติเฉพาะแบบของตัว แม้ตลาดสดในเมืองจีน(ซัวเถา) ยังขายในราคาเดียวกับปลาเต๋าเต้ย หรือปลาจะละเม็ดขาว เลือกมาแต่ปลาสดหั่นแว่น แล้วทอดให้สวยงามด้านนอกติดเกรียมเล็กน้อย แต่เนื้อปลาแน่นขาวสะพรั่ง
แกงจืดกระดูกอ่อนกับเครื่องยาจีน เนื่องจากเจ๊แมวเจ้าของร้านมีเชื้อสายจีน จึงซึมซับวิธีการทำอาหารจีนมาแต่เด็ก ตุ๋นกับเห็ดหอม เห็ดเยื่อไผ่ เม็ดเก๋ากี้และเครื่องยาจีนอีกเล็กน้อยหอมอ่อนๆ น้ำแกงรสสดชื่นไม่มีความขม แก้ร้อนใน ช่วยแก้เผ็ดจากอาหารใต้ที่แรงร้อน
คั่วกลิ้งหมู แค่เห็นสีสันจานนี้ รสชาติความจัดจ้านกลิ่นหอมจากเครื่องเทศขจรขจายชวนน้ำลายสอเลยทีเดียว ค่าที่เครื่องแกงทำเองได้ทั้งความสด ความหอม ความพิถีพิถันสะอาดสะอ้าน ทุกๆ จานคั่วใหม่ๆ เพิ่มความร้อนแรงจนต้องกินผักมากๆ เพื่อแก้เผ็ด นอกจากนั้นยังสามารถสั่งคั่วกลิ้งปลา คั่วกลิ้งเนื้อ คั่วกลิ้งไก่ได้อีกด้วย
บรรยากาศในร้าน
กุ้งพริกเกลือ เนื้อกุ้งสดผ่าหลังติดเปลือกชักเส้นดำเพื่อให้รสกุ้งไม่สูญหายไปกับเปลือก ผัดกับเครื่องแกงตามสูตรของร้าน ที่นี่จะไม่ใช้เครื่องแกงสำเร็จรูปจากตลาด แต่จะโขลกเองทั้งหมด จึงได้รสสัมผัสแบบดั้งเดิมที่เครื่องแกงแต่ละอย่างจะโขลกไม่ละเอียดนัก จะโขลกหยาบเล็กน้อย ให้ความหอมจากการเคี้ยวสัมผัสกากเครื่องแกงอย่างมีชีวิตชีวา
แกงส้ม (แกงเหลือง) ก้านคูน จานพระเอกประจำร้าน เป็นแกงเหลืองรสชาติเปรี้ยว เค็ม เผ็ดครบรสถึงอกถึงใจ หอมกลิ่นแกงในอารมณ์ปักษ์ใต้แท้ๆ หั่นปลากะพงแดงติดหนังเป็นชิ้นโต แกงกับก้านคูน (บางแห่งเรียก อ้อดิบ,โชน เป็นพืชตระกูลบอนชนิดหนึ่งที่กินแล้วไม่คัน) บอกได้เพียงแต่ว่า หากคิดถึงปักษ์ใต้บ้านเรา ลองมาชิมแกงส้มที่นี่ แล้วจะหายคิดถึงบ้านไปเลย นอกจากนั้นสามารถเลือกสั่งแกงกับผักอื่นๆ เช่น ผักรวม หรือหน่อไม้ดองก็อร่อยไม่แพ้กัน
ต้มส้มปลาหมึกยัดไส้
ข้าวยำ ดูหรูเหมือนข้าวยำที่ถ่ายทอดมาจากตระกูลเก่าแก่ของปักษ์ใต้ มีเครื่องครบครัน ตัวข้าวกระสากลิ่นกะปิดี หมูหวาน ไข่เจียว พริกทอด ผักตามฤดูกาลและน้ำพริก
แกงคั่วใบบัวบกกับปลาย่าง เป็นแกงกะทิ ใบบัวบกกับเห็ดแครง (เห็ดแครงเป็นเห็ดป่ารสดีอีกชนิดหนึ่ง ปัจจุบันมีผู้ขยายพันธุ์เลี้ยงขายได้ แต่รสสู้เห็ดธรรมชาติไม่ได้) แกงนี้จะเข้ากันดีระหว่างใบบัวบกและเห็ดแครง ใบบัวบกเหมาะกินแก้ร้อนใน
นอกจากนั้นยังมี ขนมจีนน้ำยา ขนมจีนน้ำพริก แกงไตปลา อันเข้มข้นเลอรส ขอแนะนำให้กินขนมจีนราดด้วยแกงส้ม ซึ่งเป็นรสชาติที่ลืมไม่ลงเลยทีเดียว
ปัจจุบันร้านอาหารข้าวแกงใต้เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง มีขายกันทั่งบ้านทั่วเมืองแทบทุกซอกซอย แต่ร้านนี้ไม่ได้เป็นร้านข้าวแกงทำครั้งละเป็นหม้อเป็นถาดเหมือนร้านใต้ทั่วๆ ไป แต่เป็นร้านทำตามสั่งทำทีละจานทีละชาม ตำน้ำพริกทีละครก เนื่องจากทางร้านต้องการให้ทุกจานปรุงสดใหม่ เจ้าของร้านเข้าครัวเอง ควบคุมการปรุงการชิมอย่างใกล้ชิดแม้กระทั่งน้ำพริกแกงทั้งหลายก็โขลกเองวันต่อวันไม่ได้ซื้อพริกแกงสำเร็จรูปจากตลาด นัยว่าเพื่อความหอมสดและสะอาด ต้องพิถีพิถันกระทั่งกะปิต้องปิ้งก่อนโดยปิ้งล่วงหน้าทุกเช้าวันละเป็นกิโลกรัม อีกทั้งร้านนี้ไม่ได้มีสูตรอาหารแบบ ชั่ง ตวง วัด ใช้การชิมรสเป็นหลักเพราะบรรดาเครื่องปรุงไทยนั้นไม่ได้มีมาตรฐานแน่นอน เช่น กะปิน้ำปลาที่ได้มาแต่ละหนเค็มไม่เท่ากัน มะนาวแต่ละฤดูก็เปรี้ยวไม่แน่นอน น้ำตาลปี๊บจากแต่ละแหล่งหวานมากหวานน้อย พริกทั้งหลายก็เผ็ดแตกต่างไม่เหมือนกัน เป็นต้น
แกงส้ม (แกงเหลือง) ก้านคูน
พี่แมวเป็นผู้มีความรู้เรื่องผักต่างๆ อย่างเชี่ยวชาญ รู้จักดัดแปลงการใช้ผักชนิดหนึ่งปรุงกับผักอีกชนิดหนึ่งจนได้รสชาติที่ลงตัว หลายๆ รายการอาหารของที่นี่ไม่ได้ปรากฏในเมนู ต้องถามก่อนว่าวันนี้อะไรพิเศษบ้าง เพราะขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่จัดหามาได้ในวันนั้นหรือฤดูนั้นๆ อีกทั้งยังชำนาญการเลือกสรรเหล่าปลาทะเลก็ว่าต้องใช้ปลาอะไรปรุงอย่างไร เช่น ถ้าแกงส้มจะใช้ปลากะพงแดงตัวโตน้ำหนักไม่ต่ำกว่าตัวละ 10 กิโลกรัม หั่นชิ้นโตติดหนัง หรือปลาจักรผาน (ปลาตาเดียว) แล่เอาแต่เนื้อมาทอดขมิ้น เป็นต้น
อาหารร้านนี้ได้รสปักษ์ใต้เหมือนไปนั่งกินที่ชุมพร บรรยากาศไม่อึดอัด นั่งสบาย มีห้องจัดเลี้ยงจุได้ 30 คน การเสิร์ฟอาหารค่อนข้างเร็ว ไม่ต้องรอนาน พนักงานฝึกปรือมาดี ภายในร้านและห้องน้ำสะอาดได้มาตรฐาน
มาถึงร้านนี้ให้สอบถามถึงรายการอาหารพิเศษจับพลัดจับผลูอาจได้ชิมทีเด็ดที่ไม่มีในเมนูก็ได้
ภาพโดย มีรัติ รัตติสุวรรณ, กำศักดิ์ อติพิบูลย์สิน
แผนที่ มูฮัมหมัด พันธ์โพธิ์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี