กลุ่มปฏิบัติการ เคลื่อนไหว หวังโค่น คสช. เต็มเหนี่ยว ถือฤกษ์ เดือนพฤษภาคม ในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า อันเป็นวันครบรอบ 4 ปี การยึดอำนาจของ คสช. มีแผนจะชุมนุมค้างคืน จนกว่าจะได้อำนาจคืน
อัด บิ๊กตู่ -ป้อม คือศัตรูของชาติ ขยายวงเชิญชวน มาร์ค-เฉลิม นักการเมือง ร่วมเรียกร้อง กดดันให้มีการเลือกตั้งในปี 61 โดยสารพัดกลุ่ม ที่ตั้งขึ้น เช่น “กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย “กลุ่มอยากเลือกตั้ง” นำโดยนายรังสิมันต์ โรม และ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว แกนนำ เจ้าเก่าที่เคยชุมนุม ขับไล่ คสช. มาตลอด
หลังรู้แน่ชัดแล้วว่า ปลายปี 2561 จะไม่มีการเลือกตั้งตามโรดแมปที่คสช. ได้ประกาศไว้ นายใหญ่ที่นอกประเทศ ต่างก็ส่งสัญญาณให้มีการเคลื่อนไหวกดดัน คสช. เพื่อให้มีการเลือกตั้ง เต็มที่ ประสานเสียงทั้งในและนอกประเทศ จงใจให้มีภาพ นายทักษิณ ชินวัตร และ นส.ยิ่งลักษณ์ สองอดีตนายกรัฐมนตรี เดินช็อปปิ้งช่วงตรุษจีน ที่ กรุงปักกิ่ง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อเย้ยหยัน คสช.
นายสิรวิชญ์ หรือจ่านิวส์ เผยจุดยืนในการเคลื่อนไหวของกลุ่มอยากเลือกตั้งว่า ไม่ได้เป็นสิ่งใหม่ แต่เรียกร้องตั้งแต่มีรัฐประหาร กระทั่งพลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ได้เคยประกาศ ในเวทีระดับโลกว่าจะมีการเลือกตั้งในปี 2561 แต่ตอนนี้ ก็ชัดเจนแล้วว่า การเลือกตั้งจะเลื่อนออกไป ทางกลุ่มจึงต้องการแสดงออก ว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องมีการเลือกตั้ง...หยุดยื้อการเลือกตั้ง หยุดสืบทอดอำนาจ และต้องมีการเลือกภายในปี 61 เท่านั้น ...”
พร้อมกับขยายขอบเขตการเคลื่อนไหวไปในต่างจังหวัด เริ่มที่จังหวัดนครราชสีมา ที่ลานย่าโม ประสานกับการเคลื่อนไหว กับกลุ่มนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยนัด จะเคลื่อนไหวตั้งแต่นี้ไป จนถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นวันครบรอบ 4 ปี ของการทำรัฐประหาร จนกว่าจะได้อำนาจคืน..
พร้อมกับประกาศ ”อยากให้รู้ว่า ใครคือศัตรูของชาติ คือพลเอกประยุทธ์ พลเอกประวิตร ..และ คสช. และตราบใดที่ คสช. ไม่ยอมลงจากอำนาจ ก็จะมีการทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง....”
ขณะที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งหน่วยงานความมั่นคง จับตาม็อบต่าง ๆ ที่ออกมาว่า จะมีการปลุกยุค 14 ตุลา 2516 ซึ่งอาจบานปลาย ก่อนเลือกตั้ง
ขณะที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯที่หลบหนีคดีในต่างประเทศ พร้อม น้องสาว นส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ปรากฏตัวให้เป็นข่าวแพร่ไปในโซเชียลฯ เหมือนเป็นการให้กำลังใจกลุ่มอยากเลือกตั้ง มีการข่มขู่จากกลุ่มเคลื่อนไหว หาก พลเอกประยุทธ์ ไม่ทำตามคำพูด อาจเกิดนองเลือดครั้งใหญ่ ฝันไปไกล จะปลุกให้ถนนราชดำเนิน เต็มไปด้วยผู้คน อย่างเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516.. หลังจากได้นัดชุมนุมเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่อนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งมีคนมาร่วมประปราย แค่นับร้อย
นายสุริยะใส กตะศิลา นักวิชาการ จากสถาบันปฏิรูปประเทศไทย มหาวิทยาลัยรังสิต ประเมิน ม็อบที่มีการจัดตั้งครั้งนี้ ถือว่า ยังจุดไม่ติด ตอนนี้ประเมินอะไรยากมาก เพราะไม่มีความแน่นอนสูง โรดแมปที่จะเลือกตั้งในปี 61 ของ คสช. ก็ยังไม่แน่นอน ต้องประเมินกันสัปดาห์ต่อสัปดาห์
“ ขณะนี้การเมืองอยู่ในสภาพอึมครึม รัฐบาลเองก็ไม่อาจประกันได้ว่าจะมีเลือกตั้งเมื่อไหร่ ทั้ง กกต. เอง ก็ยังไม่รู้อะไร ทำงานไปวัน ๆ ..”
นายสุริยะใส เรียกร้องให้รัฐบาล เร่งปฏิรูปประเทศ แบบ 360 องศา คือประกาศให้ชัดเจนว่า จะทำเรื่องอะไร สองหรือสามเรื่องใหญ่ๆ ไม่ต้องมาก เช่นปฏิรูปตำรวจ ทำอย่างจริงจัง ให้คนเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงชัดเจนได้ ในอีกเมื่อไหร่ ..อย่าปล่อยให้สถานการณ์มันอึมครึมแบบนี้ ..."
ขณะที่มีรายงานข่าววงในจากรัฐบาลว่า นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการ คสช.ให้ติดตามความเคลื่อนไหวการชุมนุมทางการเมืองอย่างใกล้ชิด และเน้นย้ำการแจ้งความเอาผิดกับกลุ่มเคลื่อนไหวดังกล่าว ให้ดำเนินการอย่างระมัดระวัง เนื่องจากเป็นกลุ่มนักศึกษา โดยเกรงว่าจะเป็นเงื่อนไขทำให้สถานการณ์บานปลายออกไป ก่อนจะถึงวันเลือกตั้ง และจับตาบรรดาแกนนำ ที่เคลื่อนไหว เช่น กลุ่มดาวดิน หรือกลุ่ม เดินเพื่อมิตรภาพ จากกรุงเทพไป ขอนแก่น เพื่อหวังสร้างกระแสให้เหมือนเหตุการณ์ 14 ตุลา 16 เป็นต้น
การเคลื่อนไหวป่วน คสช. ถี่ขึ้น เหมือนจะยั่วยุให้รัฐบาลทหาร คสช. จับเพื่อจุดกระแสให้ผู้คนออกมาชุมนุมเข้าทำนอง “หมูไม่กลัวน้ำร้อน” รัฐบาลทำอะไรไม่ได้มาก เพื่อไม่ให้เกิดเหตุบานปลาย เหมือนเหตุการณ์ 14 ตุลา 16
การเมืองที่ร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีใครคาดเดาได้ว่า อะไรจะเกิดขึ้น ล่าสุด ทหารได้จับผู้ต้องหา คือนายสุกิจ พูลศิลป์ อายุ 53 ปี อดีตทหารประจำการ ที่ซุกระเบิด เอ็ม 20 ที่ห้องพักย่านเมืองทองธานี ซึ่งได้สารภาพว่า เป็นลูกน้องนายโกะตี๋ หรือนายวุฒิพงษ์ กชธรรมคุณ ซึ่งหลบหนีคดีออกไปนอกประเทศ นายสุกิจ สารภาพว่า เคยถูกนายโกะตี๋ สั่งให้ไปเก็บนายแทนคุณ อิสระ หรือ”อี้” อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อปี 57 โดยตามไปถึงสามรอบ แต่ นายแทนคุณ ไม่อยู่ จึงรอดไป
ขณะที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอขา นายกรัฐมนตรี ออกอาการ ที่ได้เห็นภาพนายทักษิณ และ นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สองอดีตนายกรัฐมนตรี เดินช็อปปิ้งช่วงตรุษจีน ที่นครปักกิ่ง ของจีน
“ขณะนี้มีสองคน ขยับอยู่ต่างประเทศ แต่กลับทำให้คนป่วนไปหมดในประเทศ ..ประเทศไทยก็มีศักดิ์ศรี ของความเป็นมนุษย์ เหมือนกัน ทุกประเทศต้องเคารพในสิ่งเหล่านี้ด้วย อย่าให้มีการเคลื่อนไหวของคนที่ทำผิดกฎหมายของแต่ละประเทศ ..ส่วนตัวก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ..”
“ หากใครทำผิดก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ...และว่าขยับทีความ เดือดร้อนให้คนทั้งประเทศ ” โดยผู้สื่อข่าวสังเกต นายกรัฐมนตรี มีสีหน้าค่อนข้างดุดัน ขณะที่กล่าว ในงานปาฐกถาพิเศษ “ขับเคลื่อนไทยแลนด์ 4.0 เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน “ เมื่อวันที 12 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
“ขอร้องต่างประเทศ อย่าให้พวกที่ทำผิดเคลื่อนไหว ..” เป็นการเตือนประเทศต่าง ๆที่ให้สองอดีตนายกฯอาศัยอยู่ หลังจากนั้น ก็มีข่าว ทักษิณ และน้องสาว ได้เดินทางต่อไปยังสิงคโปร์ ผู้สื่อข่าวพยายามซักถาม นายกรัฐมนตรี ถึงความเคลื่อนไหวของสองอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ และยิ่งลักษณ์ แต่นายกรัฐมนตรี ไม่ตอบ กล่าวเพียงสั้น ๆว่า
“ผมไม่มีความเห็น เป็นเรื่องของต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เขาก็ทำกันอยู่แล้ว ในเรื่องของการติดตามตัว ซี่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่เขาทำทุกครั้ง และกับทุกคน ได้ตัวกลับมาบ้าง ไม่ได้กลับมาบ้าง”
ผู้สื่อข่าวพยายามซักต่อ ... ความเคลื่อนของสองอดีตนายกรัฐมนตรี สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มที่อนุสาวรีย์ ประชาธิปไตยหรือไม่
พลเอกประยุทธ์ ตอบสั้นๆว่า “อย่าไปสนใจเลย จะไปสนใจเขาทำไมล่ะ สนใจคนทำผิดกฎหมายทำไม เรื่องนี้ผมไม่มองอะไรทั้งสิ้น อยู่ที่พวกสื่อ พวกคุณไปให้ความสำคัญ กับไอ้กระพี้ ก็ตามใจคุณ ผมไม่สนใจหรอก”
ทางด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมีหน้าที่ต้องติดตาม อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ บอกว่า ขณะนี้ ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า นส. ยิ่งลักษณ์ พำนักที่ประเทศใด โดยพลตำรวจเอกศรีวรา รังสิพราหมกุล บอกว่า ได้ประสานไปยังประเทศปลายทางที่มีภาพ นส. ยิ่งลักษณ์ ปรากฏแล้ว ก่อนหน้านี้ ได้ตรวจสอบพบว่า อยู่ในประเทศอังกฤษ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ส่วนการขอลี้ภัยยังไม่มีข้อมูล ต้องถามกองการต่างประเทศ
ขณะที่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ กล่าวว่า เพิ่งได้รับรายงานว่า ทั้งสองอดีตนายกรัฐมนตรี อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องดำเนินการแล้ว”
ด้านนายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้ข้อสังเกต ถึงการปรากฏตัวของสองอดีตนายก ฯ ที่ประเทศจีนว่า ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มันมีจังหวะในการปล่อยภาพ
“ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่า ทำไมถึงเพิกถอนหนังสือเดินทางไม่ได้ เพราะระเบียบชัดเจน ในเมื่อไม่มาปรากฏตัวต่อศาล รัฐก็ไม่มีหน้าที่อำนวยความสะดวกให้เดินทางไปไหนมาไหนอยู่แล้ว แต่กลับบอก ไม่ได้ ต้องรอให้มีคำพิพากษาศาลก่อน แล้วจึงเพิกถอนได้ จนกระทั่งมีภาพไปปรากฏ ถึงมาบอกว่าจะเพิกถอนหนังสือเดินทาง ..มันจึงทำให้ประชาชนเกิดความรู้สึกว่า ถ้ามีเงิน มีอำนาจ จะทำอะไรก็ได้ใช่ไหม?....”
ขณะที่มีรายงานว่า นายทักษิณ และนส.ยิ่งลักษณ์ ได้เดินทางออกจากปักกิ่งต่อไปยังประเทศสิงคโปร์ เปิดโอกาสให้อดีตสส. พรรคเพื่อไทย เดินทางไปพบ เพื่อหารือเรื่องการเลือกตั้ง ซึ่ง รายงานข่าวบอกว่าทักษิณ บอกให้ทุกคนเตรียมการเลือกตั้งได้แล้ว มีข้อเสนอให้เปลี่ยนตัว หัวหน้าพรรคคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ซึ่งเป็นแคนดิเดทคนหนึ่ง สื่อรายงานข่าววงใน “เฮียเพ้ง” หรือ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล แกนนำคนสำคัญของพรรค จะได้รับความไว้วางใจ ให้ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคมากกว่า โดยเฉพาะ สส. อีสาน และเหนือให้การสนับสนุน”
มีรายงานข่าววงในว่า บางส่วนของเพื่อไทย อาจแตกไปตั้งพรรคใหม่ เช่น กลุ่มของนายวันนอร์ และอาจจะมีกลุ่มอื่น ๆ ที่จะแตกออกไปอีก
สำหรับสถานการณ์ด้านความมั่นคงในขณะนี้ ผบ.ทบ. พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท เชื่อว่าม็อบอยากเลือกตั้ง หวังใช้วงรอบครบ 4 ปีคสช. จุดประเด็นให้คนออกมาชุมนุม อย่างไรก็ตามคสช. เชื่อมั่นว่า ยังควบคุมได้
“ขอเตือนสติ ให้กลุ่มต่าง ๆ มองถึงผลประโยชน์ชาติเป็นหลัก อย่าทำให้สถานการณ์ย้อนกลับไปสู่ช่วงก่อนรัฐประหาร ยืนยันจะไม่ใช้ไม้แข็ง แต่จะยึดตัวบทกฎหมาย”
ต้องจับตา ช่วงเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ ที่กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง จะออกมาชุมนุมพักค้างคืน ช่วงนี้ก็สุมไฟไปเรื่อย ๆ โดยวันที่ 24 กพ. กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ก็จะนัดชุมนุมอีกที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
การเมืองร้อนแรง ขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่รัฐบาลก็พยายามประคับประคองสถานการณ์ไม่ให้บานปลาย
ด้าน เสธอ้าย พลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานเตรียมทหารรุ่น 1 อดีตแกนนำโค่นระบอบทักษิณ ได้กล่าวถึงกลุ่มเครือข่ายระบอบทักษิณที่กำลังเคลื่อนไหวว่า รัฐบาลต้องใช้เผด็จการเต็มรูปแบบ กับกลุ่มคนเหล่านี้เพราะเบื้องหลังการออกมาของกลุ่มต่างๆ เชื่อว่า มีการจัดตั้งแน่นอน
“เป็นการแสดงเพื่อให้บางคนเห็นความสำคัญของตน พูดง่าย ๆ คือ แสดงให้ทักษิณ เห็นว่า ออกมาทำงานให้แล้ว คุณจะจ่ายหรือไม่ จะเริ่มจ่ายเงินได้หรือยัง ผมฟันธงแบบนี้เลย เชื่อว่ามีการจัดตั้งแน่นอน.. รัฐบาลโดยคณะทหาร ต้องเอาจริงเอาจัง กับพวกนี้ ต้องสืบสอบให้รู้ว่าใคร แล้วต้องรีบตัดไฟแต่ต้นลม อย่าปล่อยไว้ ....”
“ต่อไป รัฐบาลต้องเข้มแข็งมากขึ้น อะไรที่จัดการได้ ถ้าใช้ไม้อ่อนได้ก็ใช้ไม้อ่อน ถ้าใช้ไม่อ่อนไม่ได้ ก็ต้องใช้ไม้แข็ง ถ้าถึงขั้น อาจต้องใช้กฎหมายรุนแรง หรืออะไรก็แล้วแต่ ...ลองขังดูสัก 2 เดือนสิ ...เรื่องที่จะขังก็มีเยอะแยะ ...อย่าไปอะลุ้มอล่วย ...ทำไปสักหนึ่งรายสองราย หากสองรายยังไม่พอ ก็ทำไปสักห้าหกราย ดูซิว่าทำแล้วยังจะดื้อรั้นอยู่หรือไม่...”
“คุณต้องเลี้ยงหมาไว้กัดหมา ไม่ใช่คุณจะลงมาเป็นหมา กัดกับหมาเอง ...คนอื่นคุณไม่เอาใช่ไหม คนที่เขาหวังดีกับคุณ ...คุณไม่เคยเกื้อกูล มิตรของคุณเลย ...ก็ต้องเลี้ยงเขาไว้ เพื่อไว้กัดกับพวกนี้ เพราะเขารู้มือกันอยู่.....”
สถานการณ์การเมืองต่อจากนี้ไปจนถึงช่วงเดือนพฤษภาคม ที่จะครบรอบ 4 ปี คสช. จะร้อนแรงและเต็มไปด้วยการยั่วยุเพื่อล่อให้เกิดเหตุบานปลายมากขึ้น รัฐบาลต้องระมัดระวังและประคับประคองให้ดี พร้อมๆกับการเร่งปฏิรูปแบบ360องศา เพื่อกอบกู้ศรัทธาให้คืนกลับมาโดยเร็ว หากทำได้ผลจริงจังจะส่งผลให้ม็อบจุดไม่ติดแน่นอน แต่ถ้าปล่อยให้รอมาจน4ปีแล้ว ก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้น รัฐบาลก็จะอยู่ยากแล้ว!!.....
ปฏินันท์ สันติเมทนีดล
วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี