ในหัวผมตอนนี้มันมั่วๆด้วยเรื่องสารพัดที่เกี่ยวกับตำรวจ เพราะตำรวจเป็นผู้ทำคดีเพื่อให้อัยการเป็นผู้ยื่นฟ้อง ส่วนอัยการจะฟ้องหรือไม่ฟ้องก็ขึ้นอยู่กับสำนวนที่ตำรวจทำ ตำรวจทำสำนวนคดีรอบคอบรัดกุม มีพยานหลักฐานและพยานบุคคลแน่นหนา อัยการก็ส่งสำนวนคดีนั้นฟ้องศาล และก็มีโอกาสที่ศาลจะตัดสินลงโทษผู้กระทำผิดได้ถูกต้องแม่นยำ
แต่ถ้าสำนวนคดีที่ตำรวจทำนั้นอ่อน โอกาสที่ศาลจะยกฟ้องก็สูง
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นกระบวนการปรกติธรรมดาของสิ่งที่เรียกว่า “ความยุติธรรม”
“เหตุแรก” ของความไม่ยุติธรรมนั้นเกิดขึ้นเพราะมีผู้กระทำความผิดกฎหมาย หากตำรวจทำงานดี รอบคอบ รัดกุม ซื่อตรงต่อความจริง ผู้ที่เป็นเหตุแรกของความไม่ยุติธรรมนั้นก็จะถูกศาลตัดสินลงโทษตามความผิดของตน แต่ถ้าตำรวจทำตรงกันข้าม ผู้เป็นเหตุแรกของความไม่ยุติธรรมนั้นก็จะพ้นผิด อย่างที่เรียกกันว่า “ลอยนวล”
เมื่อตำรวจเป็นผู้ทำหน้าที่ “ผดุงความยุติธรรม” ในขั้นต้นทำงานชุ่ย ไม่รอบคอบ ไม่ซื่อตรงต่อความจริง และภาระหน้าที่ของตนก็ย่อมเป็นผู้สร้าง “เหตุที่สอง” ของความไม่ยุติธรรมตามมา ตำรวจจึงเป็นผู้กระทำความผิดด้วย จากคดีเดียวก็กลายเป็น 2 คดี
เรื่องนี้คนในสังคมรู้กันดีว่าตำรวจไทยเป็นอย่างไร แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูด ผมเองเคยได้รับความไม่ยุติธรรมและไม่ซื่อตรงต่อหน้าที่ของตำรวจก็ไม่กล้าพูดเหมือนกัน!
เพราะรู้ว่ายิ่งพูดยิ่งโดน แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม
เมื่อคนส่วนใหญ่ไม่กล้าหือ ตำรวจก็ยิ่งสำแดงบทบาทเกินหน้าที่มากขึ้นทุกที กลายเป็นเรื่องจำยอม-จำทนและน่ากลัวในสังคมไทย ตามมาด้วยความเกลียดชังตำรวจไปโดยปริยาย (ไม่นับการเลือกปฏิบัติต่อพลเมืองต่างสีต่างฝ่ายในยุคเสื้อแดงเรืองอำนาจ)
ตอนนี้ผู้คนในสังคมไทยกำลังจับตาดูตำรวจที่กำลังทำคดีดังอยู่หลายคดี ว่าจะจบเหมือนคดี “ลูกชายกระทิงแดง” “คดีธัมมชโย” “คดีทักษิณ” “คดียิ่งลักษณ์” คดีเจ้าพ่อต่างๆ รวมทั้งคดีอื่นๆที่จมหายไปในกระแสเรื่องราวต่างๆหรือไม่ นั่นคือ “คดีหวย 30 ล้าน” และ “คดีเปรมชัยกับเสือดำ”
คดีนาฬิกาหรูที่เพื่อนให้ยืมนั้นก็เรื่อยๆมาเรียงๆ นกบินเฉียงไปทั้งหมู่!
เรื่องนายตำรวจที่มีเสี่ยให้ยืมเงิน 300 ล้านบาทก็จางหายไปแล้ว
คดีเปรมชัยกับเสือดำนั้นกำลังเป็นกระแสโกรธแค้นของพลเมือง...ทำให้คนจำนวนมากคิดถึง “คดีทุ่งใหญ่นเรศวร” สมัยที่พล.อ.ถนอม พล.อ.ประภาส และพอ.ณรงค์เรืองอำนาจ คดีนี้ดังกระหึ่มขึ้นมาเพราะเฮลิคอปเตอร์ตกที่อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม หลังจากบินกลับจากทุ่งใหญ่นเรศวรเพื่อเข้ากรุงเทพฯ ปรากฏว่านอกจากซากเฮลิคอปเตอร์แล้วยังมีซากสัตว์ป่าหลายชนิดปะปนอยู่ด้วย หนังสือพิมพ์แพร่ข่าวสารนี้ออกไปทำให้พลเมืองโกรธแค้นมาก...ที่คนมีอำนาจทำตัวอยู่เหนือกฎหมายเสียเอง อารมณ์โกรธแค้นนั้นเป็นชนวนลุกลามไปสู่เหตุการณ์ “ปฏิวัติประชาธิปไตย” เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2514
และ “ 3 ผู้ยิ่งใหญ่” ดังกล่าวก็ต้องเนรเทศตัวเองออกไปอยู่ต่างประเทศ
มาดูพล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทยว่าจะมีน้ำยาแค่ไหนกับคดีเปรมชัยกับเสือดำ เพราะจนวันนี้ก็ยังเงียบเฉย...ที่พูดมาบ้างก็ไม่ต่างอะไรกับไม่พูด
(เจ้าที่ตำรวจระดับบิ๊กเบิ้มที่ออกมาพูด แม้ไม่ผิดหลักการ แต่ก็เหยียบย่ำน้ำใจคนเกินไป เหมือนเห็นคนทั่วไปกินหญ้า)
สิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์พูดก็คือ "ไม่ปฏิรูปตำรวจ ไว้ให้เป็นเรื่องของรัฐบาลหน้า"
ขณะเดียวกัน...ก็มีข่าวออกมาว่า "บิ๊กตำรวจรวมหัวกันปกป้ององค์กร" แบบว่า "องค์กรข้าใครอย่าเเตะ" นายกฯเลยไม่แตะ?
อำนาจใครอำนาจมัน แบ่งกันไป?
เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ไม่ปฏิรูปตำรวจ ไม่แตะตำรวจ แต่ "ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการไปตามกฎหมาย..." คดีเปรมชัยกับเสือดำจึงพิลึกกึกกือขึ้นทุกวัน
ตอนนี้หลักฐานต่างๆที่ตำรวจทำคดีล้วนพุ่งเป้าไปที่เสือดำ ดังนั้นผู้ทำความผิดอาจจะเป็นเสือดำก็ได้ ข้อหาเสือกทะเล่อทะล่าไปขวางทางลูกปืน!
ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ดูแลป่าและสัตว์ป่าก็จะมีความผิดไปด้วย ข้อหาไม่อบรมดูแลเสือดำให้ดี ประมาท เลินเล่อ และอาจจะสมรู้ร่วมคิดให้เสือดำแถเข้าไปขวางทางลูกปืน เพื่อกลั่นแกล้ง "คณะศึกษาธรรมชาติ" ที่รักธรรมชาติมากให้มีความผิด
ในขณะที่อารมณ์พลเมืองกำลังเดือดระอุเพราะคำสัมภาษณ์ของตำรวจระดับบิ๊กเบิ้ม แต่พล.อ.ประยุทธ์กลับออกมาให้สัมภาษณ์ในกรณีที่เรทติ้งการทุจริตคอรัปชั่นในประเทศไทยดีขึ้นมา 2 ระดับว่า "นับเป็นข่าวดี"
ข่าวดีของพล.อ.ประยุทธ์คือ "ตัวเลข" เรทติ้ง 2 ระดับ
แต่ข่าวดีของ "คนจนที่ไม่มีนาฬิกาใส่" เพื่อนต้องให้ยืม กับ "คณะศึกษาธรรมชาติ" รวมทั้ง "คนเครดิตดีมีเสี่ยให้ยืมเงิน 300 ล้านบาท" ล้วนอยู่สบายดี
นั่นคือ "ชีวิตจริง" ในสังคมไทย ไม่ใช่ตัวเลขที่พล.อ.ประยุทธ์บอกว่าเป็นข่าวดี
และชีวิตจริงในสังคมไทยก็คือ เมื่อพลเมืองเดือดระอุขึ้นมาเพราะถ้อยคำของผู้ทรงอำนาจ เพราะการกระทำหยามกฎหมายของคนรวย รวมทั้งอาการเฉยเมยของผู้นำประเทศ ก็สามารถทำให้อำนาจอันยิ่งใหญ่ของใครๆล้มคว่ำไม่เป็นท่าและหาแผ่นดินอยู่แทบไม่ทันมาแล้ว
อย่างคดีทุ่งใหญ่นเรศวรนั่นแหละครับ
ผมก็ไม่ทราบว่าพล.อ.ประยุทธ์จะเอาอย่างนั้นหรือไม่!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี