จากที่เคยคาดการณ์เอาไว้ หลังการยึดอำนาจของ คสช. เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ว่า คงจะมีการเลือกตั้งปลายปี 2559 หรือกลางปี 2560 โดยคาดการณ์จากระยะเวลาร่างรัฐธรรมนูญ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ และปัญหาความขัดแย้งอื่นๆที่ คสช.จะต้องแก้ไข
บัดนี้มาถึงปี 2561 แล้ว ก็ยังไม่มีการเลือกตั้ง รัฐธรรมนูญ เสร็จไปแล้ว หลังจากที่ฉบับแรกร่วงไปด้วยเหตุผลที่ นายบวรศักดิ์ อุวรรโณ ประธานกรรมาธิการยกร่างบอกว่า "เขาอยากอยู่ต่อ" จึงต้องให้นายมีชัย ฤชุพันธ์ มาเป็นประธานยกร่าง และก็ผ่านไปแล้วด้วยความเรียบร้อย
รัฐธรรมนูญเสร็จแล้วก็ต้องเลือกตั้ง เพราะกฎหมายสูงสุดสำหรับบริหารบ้านเมืองในยุคนี้สมัยนี้ล้วนมุ่งไปสู่การเลือกตั้ง มุ่งไปสู่ประชาธิปไตยจะยกเว้นให้ใคร หรือคณะใดคณะหนึ่ง บริหารบ้านเมืองไม่ได้
จะมีการสืบทอดอำนาจไหม ?
คำว่า สืบทอดอำนาจที่เป็นคำถามน่าจะหมายถึง คสช. หรือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็นนายกรัฐมนตรี หรือ ใครคนใดคนหนึ่งใน คสช.จะเป็นหัวหน้ารัฐบาล บริหารประเทศต่อไปไหม
คำตอบก็คือ ใครก็ตามมีเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ที่จะจัดตั้งรัฐบาล ก็ย่อมเป็นได้ รัฐธรรมนูญฉบับนี้เปิดกว้างเอาไว้ และก็ไม่ได้มีข้อห้ามเอาไว้ว่า คนนั้น คนนี้ เป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้
สมัยจอมพล ถนอม กิตติขจร เมื่อร่างรัฐธรรมนูญเสร็จ ก็เตรียมการเป็นนายกรัฐมนตรีต่อ ด้วยการจัดตั้งพรรคสหประชาไทย พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ เป็นนายกรัฐมนตรีจากการยึดอำนาจที่มี พลเรือเอกสงัด ชลออยู่ เป็นหัวหน้า เมื่อร่างรัฐธรรมนูญเสร็จ ท่านก็เป็นหัวหน้าพรรค ชาติประชาธิปไตย ลงเลือกตั้ง เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป จนถึงวาระที่ท่านลาออกกลางสภา
ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจึงเป็นของ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ โดยการสนับสนุนจ่กพรรคการเมืองต่างๆเป็นต้นพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย พรรคประชากรไทย
มีคนเดียวที่บอกว่าจะไม่สืบทอดอำนาจต่อ คือพลเอกสุจินดา คราประยูร รองหัวหน้าคณะปฏิวัติที่ชื่อ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงถูกกระแสต่อต้านด้วยเหตุผลที่ว่า ท่านตระบัดสัตย์ ว่าจะไม่สืบทอดอำนาจ แต่กลับสืบทอด
แต่การตระบัดสัตย์สำหรับ นักการเมืองบางคน คนบางคนบางกลุ่มก็ไม่ถือเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ถือสาหาความ เป็นต้นว่า "ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับพี่น้องประชาชน มีเสียงปืนแตก ผมจะมาเดินนำหน้า"
นอกจากไม่เห็นหัวมันแล้ว พอเกิดเรื่อง มันกลับให้ลูกเมียมันเผ่นออกนอกประเทศ
หรือ ดิฉันมาเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อพี่น้องประชาชน ไม่ได้มาเพื่อแก้กฎหมาย ออกกฎหมายเพื่อพี่ชาย หรือ ดิฉันยอมตายเพื่อประชาธิปไตย แต่พอศาลจะตัดสิน เปิดตูดแน่บ แต่ก็มีนักการเมืองที่เป็นข้าทาสบริวารของนางยกย่องเสมอแม่บังเกิดเกล้าอยู่
กลับมาว่ากันถึงการสืบทอดอำนาจ ไม่แปลกเลย ถ้าหาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา คิดการณ์จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป จะโดยมีพรรคการเมืองต่างๆมาให้การสนับสนุนเหมือนกับที่พรรคการเมืองต่างๆเคยสนับสนุน พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เมื่อ 20 ปีกว่าที่ผ่านมา หรือจะตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาเอง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
นักการเมืองบางคนเป็นห่วงว่า พลเอกประยุทธ์ จะได้เปรียบ เพราะมีวุฒิสภารองรังเอาไว้แล้ว
จอมพล ถนอม ก็มีวุฒิสภา เช่นเดียวกัน แต่ในที่สุดรัฐบาลที่มีพรรคสหประชาไทย ที่จอมพลถนอม เป็นหัวหน้าพรรคเองก็อยู่ไม่ได้ จอมพลถนอมต้องยึดอำนาจตัวเองอีกครั้ง และในที่สุดก็นำไปสู่เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516
วุฒิสภาอุ้มรัฐบาลไม่ได้ตลอดหรอกครับ เจอการพิจารณางบประมาณแผ่นดิน ไม่แน่จริงก็ไปไม่รอดแล้ว
ปัญหา นายกรัฐมนตรีคนนอก หรือไม่คนนอก คสช. จะสืบทอดอำนาจ หรือพลเอก ประยุทธ์จะสืบทอดอำนาจได้หรือไม่จึงอยู่ที่สภาผู้แทนราษฎร อยู่ที่พรรคใหญ่ๆอย่างพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย พรรคชาติประชาธิปไตย จะตัดสินใจ
ถ้าเลือกตั้งแล้ว ได้นักการเมืองที่ไม่ดี จะทำอย่างไร ?
เรา ประชาชน เป็นคนเลือกเองนี่ครับ เราจะไปโทษใคร แต่ก็นั่นแหละ การเลือกตั้ง มีปัจจัยประกอบมากจะได้คนดีหรือไม่ดี อยู่ที่เราประชาชนที่จะต้องติดตาม คนที่เราเลือกไปทำหน้าที่แทนเราในสภา เป็นคนดีหรือไม่ดี มีพฤติกรรมอย่างไร ทำหน้าที่ในสภาอย่างไร ทำตัวเป็นข้าทาสนายเงินหรือไม่ ทัศนะคติ แนวคิดในการออกกฎหมาย ในการพิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นอย่างไร
ถ้ามันคิดว่ามันเป็นเสียงข้างมากจะออกกฎหมายอย่างไรก็ได้ ไม่คำนึงถึงหลักนิติธรรม ไม่คำนึงถึงความถูกต้อง ก็ออกมาคัดค้านมันอีก ไล่มันออกไปอีก ไม่เลือกมันอีก
นี่คือวิถีของประชาธิปไตยครับ
มิใช่กากะบาด เลือกใครแล้วก็ยกบ้านเมืองให้มันไปเลย อย่างที่มันเคยเข้าใจ !
สำเริง คำพะอุ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี