เรื่องราวของการเมืองไทยนั้นเหมือนมีทีมทีมวิ่งผลัดที่แข่งขันกันวิ่งเข้าสู้เส้นชัยแห่งอำนาจโดยเฉพาะทีมวิ่งผลัดที่สังกัด หรือเป็นตัวแทน หรือเป็นเครื่องมือของลัทธิการเมืองต่างๆทีมลัทธิการเมืองในการเมืองไทยที่ยังวิ่งกันมาถึงปัจจุบันนั้น มีอยู่ 3 ทีมหลัก คือ 1
“ทีมอนุรักษนิยม” เป็นทีมที่ถูกจำกัดความไว้ว่า “นิยมเจ้า” รวมถึงศาสนา จารีต ขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆ 2 “ทีมคอมมิวนิสต์” ตัวแทนของลัทธิคอมมิวนิสต์ เริ่มตั้งทีมในเมืองไทยก่อนปี พ.ศ. 2500ย้อนไปถึงสมัยรัชการที่ 6 ก็ย่อมได้ ทีมนี้เติบโตมากขึ้นเรื่อยๆและสามารถเอาชนะทีมแรกได้ในเดือนมิถุนายน 2475 ทีมนี้เรียกตัวเองว่า “คณะราษฎร”เป็นทีมที่รู้กันในนามทีม “ล้มเจ้า”
ทีมคณะราษฎรนี้ไม่ใช่ว่าจะมีนักวิ่งที่คิดเหมือนกันหมดทุกคนคนที่เป็นคอมมิวนิสต์หรือได้รับอิทธิจากลัทธิคอมมิวนิสม์ก็มี ที่เห็นชัดเจนก็คือหัวหน้าทีมนั่นเองรู้ได้จากข้อเขียนต่างๆของเขา
นอกนั้นก็เป็นลิเบอรัลบ้าง ประชาธิปไตยบ้าง แต่ส่วนมากแล้วเป็นเผด็จการ
คือ...ไม่ว่าจะป่าวประกาศว่าตนเองเป็นอะไร อยากให้ราษฎรอยู่ดีมีสุขอย่างไรแต่ธาตุแท้แล้วกระหายอยากอำนาจทั้งนั้น และหลงคิดว่าตนเท่านั้นคือ“ผู้ที่จะอวยประโยชน์สุขแก่ราษฎรได้” ผลก็คือแย่งชิงอำนาจกันภายในทีมเดียวกันครั้งแล้วครั้งเล่าสุดท้ายก็ล้มก่อนถึงเส้นชัย
แต่อุดมการณ์ยังไม่สิ้น ก็ยังมีทีมใหม่หัวใจเดิมเข้าลู่วิ่งต่อ ในนาม“พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย” และพยายามวิ่งมาจนวันนี้ดังจะเห็นได้จากมีการขอจัดตั้งพรรคคอมมิวนิสต์กับคณะกรรมการการเลือกตั้งฯ เมื่อไม่นานมานี้
แม้จะไม่ได้รับการจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย ด้วยเหตุผลว่าเป็น “พรรคเผด็จการ”(เผด็จการชนชั้นกรรมาชีพตามทฤษฎีของลัทธิคอมมิวนิสต์)แต่อุดมการณ์นี้ก็ยังคงมีอยู่และจะสืบทอดต่อไปอีก
จะนานแค่ไหน และเป็นของจริงของเทียมหรือไม่ ผมไม่ทราบ
3 “ทีมลิเบอรัล” ทีมนี้มาดังสุดๆในสมัยคุณทักษิณ ชินวัตรเรืองอำนาจ ที่มีทีมของตัวเองแต่เรียกกันว่า “ทีมทักษิโณมิค” ทีมนี้มุ่งมั่น “ล้มเจ้า” เช่นกัน แถมยังมีทีมที่ 2 ร่วมเป็นพันธมิตรด้วยเพราะต้องการล้มเจ้ามานานแล้ว! แต่ก็สะดุดขาตัวเองล้มหัวคะมำไปเสียก่อน เพราะวิ่งไปโกงไปแถมด่าทีมที่ 1 เสียอีก กองเชียร์ทีมที่ 1 เลยลงไปไล่ในสนาม
ตอนนี้ยังคงพยายามจะเข้าสู่ลู่วิ่งต่อ แม้ว่าตัวหัวหน้าทีมจะไม่สามารถลงแข่งได้ก็ตาม
แต่อุดมการณ์ยังไม่สิ้น...ตอนนี้มีทีมใหม่หัวใจเดิมที่จะเข้าสู่ลู่วิ่งด้วยอีกทีม ในนาม“พรรคอนาคตใหม่” โดยมีคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจเป็นหัวหน้าทีม
“ทีมทักษิณ” กับ “ทีมธนาธร” นั้นเป็นพันธมิตรกันโดยลัทธิอุดมการณ์ส่วนจะเป็นพันธมิตรกันในลู่วิ่งทางการเมืองด้วยหรือไม่นั้นคงเดาไม่ยาก
เสียดายพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยไม่ได้รับการจดทะเบียนไม่อย่างนั้นก็จะมีทีมนี้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรด้วย
ผมไม่ได้แปลกใจที่พรรคคอมมิวนิสต์จะเข้าร่วมกับพรรคของ “นายทุน”ที่แม้มันขัดกับอุดมการณ์ของลัทธิคอมมิวนิสม์อย่างอภัยไม่ได้ก็ตามเพราะคอมมิวนิสต์ไทยนั้นเข้าข้างฝ่ายไหนก็ได้ ที่จะทำให้ฝ่ายตัวเองชนะหรือย่างน้อยๆก็ขอให้มีบทบาทแพร่เชื้ออุดมการณ์ได้ต่อไป
สรุปว่า การแข่งขันวิ่งผลัดที่จะมีขึ้นในปีหน้านั้นจะมีหลายทีม แต่หากแบ่งเป็นประเทศ”ฝ่ายก็จะมีแค่ 2 ฝ่ายอย่างเดิม และถ้าจะดูแนวโน้มว่าฝ่ายไหนจะชนะในอนาคตก็ต้องดู“คะแนนรวมของกองเชียร์ทั้ง (ไม่ใช่จำนวน ส.ส.) ว่าเชียร์ฝ่ายไหนมากกว่ากัน
เรากำลังอยู่ในยุคแข่งขันกันทุกเรื่อง แม้กระทั่งในการดำเนินชีวิตแต่ละวันที่กว่าจะชนะได้ก็ต้องใช้เวลายาวนานมาก แต่ไม่ว่าฝ่ายไหนจะชนะผมก็ได้แต่ลุ้นไม่ให้กองเชียร์ของทั้งฝ่ายกลายเป็นเหยื่อหรือเครื่องมือของฝ่ายตนเสียเองแล้วหันมาทำลายล้างฝ่ายตรงข้าม ซึ่งก็เป็นพลเมืองเหมือนกันที่ต้องเสียภาษีเหมือนกัน
และไม่ได้ดิบได้ดีมีอำนาจไปกับนักแข่งฝ่ายตนเลย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี