การไปยุโรปครั้งนี้ของท่านประธานาธิบดีผมเป๋ โดนัลด์ ทรัมป์ ดูเหมือนว่าจะยิ่งสร้างความร้าวฉานให้ชาวโลกมากขึ้น
ตอนไปอังกฤษ ตาลุงผมเป๋ก็ถูกต่อต้านอย่างชนิดที่เรียกว่าอึกทึกครึกโครม แต่ลุงก็ทำหน้ามึนไม่รู้ไม่ชี้ แถมยังปากเปราะกวนตีนนายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ อย่างชนิดผีเจาะปาก คือแขวะกัดนางเมย์ว่าไม่ยอมฟังคำแนะนำของตนเรื่องเบร็กซิต แล้วกระทบกระเทียบว่าโบริส จอห์นสัน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษที่เพิ่งยื่นใบลาออก เพราะไม่เห็นด้วยกับนางเมย์นั้นสามารถเป็นนายกรัฐมนตรีที่ยอดเยี่ยมได้
แม้ว่าโดนัลด์ ทรัมป์จะไปในหน้าที่ “ประธานาธิบดี” แต่ยังซิกแซกหาผลประโยชน์เข้าพกเข้าห่อตัวเองจนได้ ตอนที่ไปเยือนอังกฤษนั้น ลุงผมเป๋พักที่โรงแรมทรัมป์ เทิร์นเบอร์รี ซึ่งเป็นโรงแรมของลุงแกเอง โดยรัฐบาลอเมริกาต้องจ่ายเงินถึง 237,500 ดอลลาร์ โดยเงินจำนวนนี้มาจากเงินภาษีประชาชนพลเมืองอเมริกาลอยไปเข้ากระเป๋าของครอบครัวทรัมป์อย่างสวยๆ
ข้ามเรื่องภาษีไปก่อน หลังจากที่ลุงผมเป๋ไปเยือนอังกฤษแล้ว ก็ทำปากดีจิกกัดอียูว่าทำตัวเป็นศัตรูทางการค้าไม่ต่างไปจากจีนและรัสเซีย ซึ่งระดับผู้นำไม่ควรจะกล่าวถ้อยคำทำนองนี้ออกมา แต่ลุงแกไม่แคร์สื่ออยู่แล้ว ประกาศปังไปว่า
“ผมคิดว่าสหภาพยุโรปก็คือศัตรู เมื่อมองจากสิ่งที่พวกเขาทำต่อเราในเรื่องการค้า”
เล่นเอาอียูเต้นผาง โดนัลด์ ทัสก์ ประธานคณะมนตรียุโรปเลยเอาคืนด้วยการทวีตข้อความโดยใช้สำนวนของทรัมป์เกี่ยวกับ “ข่าวปลอม” ว่า
“อเมริกากับสหภาพยุโรปเป็นมิตรที่ดีที่สุด ดังนั้น คนที่บอกว่าเราเป็นศัตรูกันกำลังเผยแพร่ fake news”
หลังจากลุงทรัมป์ปากดีใส่ชาวโลกไปทั่ว แต่พอสบตาปูติน ลุงแกถึงกับอ่อนระทวยราวต้องมนต์ดำ จนชาวโลกแทบไม่เชื่อสายตาตนเอง ทั้งที่รัสเซียถูกลากเข้าไปมีเอี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีหนที่ผ่านมา นั่นคือ คณะลูกขุนใหญ่ของอเมริกาประกาศตั้งข้อหาเจ้าหน้าที่ข่าวกรองรัสเซีย 12 คนฐานแฮกอีเมลพรรคเดโมแครต และเผยแพร่ข้อมูลทำลายชื่อเสียงนางฮิลลารี คลินตัน ในช่วงโค้งสุดท้ายของศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี ค.ศ. 2016
ลุงผมเป๋บินไปเฮลซิงกิเพื่อพบปะหารือกับประธานาธิบดีปูตินเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ผลออกมาโอละพ่อ และสร้างความไม่พอใจให้กับสมาชิกสภาคองเกรสและชาวอเมริกันอย่างยิ่ง เพราะลุงทรัมป์ใช้คำพูดแบบไม่ถนอมน้ำใจและอ่อนโอนไปเข้าข้างรัสเซียอย่างเห็นได้ชัด ร้ายไปกว่านั้นคือมีการเออออห่อหมกกับปูตินที่ปฏิเสธว่ารัสเซียไม่ได้แทรกแซงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี ค.ศ. 2016 เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างอึงคะนึงในรั้วบ้านลุงแซม
แต่เรื่องที่ทำให้ไฟลุกท่วมสภาคองเกรสคือ ทรัมป์บอกว่าตนเองนั้นไม่มีเหตุผลที่จะเชื่อข้อสรุปของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ มากไปกว่าคำยืนยันของผู้นำหมีขาวว่ารัสเซียไม่เคยก้าวก่ายศึกเลือกตั้งในอเมริกา
แปลแบบบ้านๆ คือ ทรัมป์ไม่เชื่อหน่วยข่าวกรองของอเมริกา แต่เชื่อว่าพี่หมีขาวไม่เคยก้าวก่ายการเลือกตั้งที่ผ่านมา
เดี๋ยวนะ..ลุงทรัมป์ พูดแบบนี้นี่เหมือนลากคณะลูกขุนใหญ่และหน่วยข่าวกรองทั้งระบบมาตบหน้าประจานกลางสี่แยกปากหมาเลยนะ ตกลงลุงถือสัญชาติอะไรกันแน่เนี่ย อยู่ๆ ก็ทำตาปรอยแล้วเอนไปซบอกหมีขาวซะงั้น
สมาคองเกรสได้ฟังก็แทบถล่มทลายด้วยเสียงกระทืบเท้ารัวๆ อย่างโกรธแค้น บางคนชี้นิ้วใส่ทรัมป์แล้วตะโกนว่า “ขี้ขลาด” และ “อ่อนแอ” หนักสุดคือ สว.จอห์น แมคเคน พรรคเดียวกับลุงทรัมป์นั่นแหละคือรีพับลิกัน แกโกรธจนตัวสั่นทั้งที่ร่อแร่จะลาโลกอยู่รอมร่อ เพราะเป็นมะเร็ง ถึงกับลุกขึ้นแผดเสียงด่าใส่แบบไม่เกรงหน้าอินทร์
หน่วยข่าวกรองก็นั่งไม่ติด ที่อยู่ๆ ท่านผู้นำออกมาพูดแบบนี้ เท่ากับดูถูกกันชัดๆ แดต โคตส์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ ซึ่งทรัมป์ แต่งตั้งเองกับมือ ถึงกับออกมายืนยันข้อสรุปอีกหนว่า
“เราได้ข้อสรุปอย่างชัดเจนว่ารัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งปี ค.ศ. 2016 และยังพยายามที่จะบั่นทอนระบอบประชาธิปไตยของเราเรื่อยมา”
ผลสำรวจของรอยเตอร์/อิปซอสพบว่า ชาวอเมริกันโดยรวม 55% ไม่พอใจแนวทางจัดการความสัมพันธ์รัสเซียของทรัมป์ ขณะที่ 37% ตอบว่าพอใจ
หลังจากโดนกระแสด่าถล่มรอบด้าน ลุงผมเป๋ก็เริ่มแก้ตัวน้ำขุ่นๆ แบบเอาสีข้างเข้าถู โดยบอกว่าตนนั้นพูดผิดไป พร้อมยืนยันว่าตัวเองมั่นใจในหน่วยข่าวกรองของอเมริกันแบบสุดลิ่มทิ่มประตู อ้าว..ลุง วันก่อนเพิ่งด่าไปหมาดๆ ว่า หน่วยข่าวกรองมะริกันยกเมฆเรื่องรัสเซียแฮคอีเมล์ และมีเอี่ยวเรื่องทุจริตการเลือกตั้งในอเมริกา มาวันนี้ออกมาแถแบบไม่รับผิดชอบว่า “อั๊วพูดผิด” เสียแล้ว
แต่ด้วยความที่ทรัมป์คือทรัมป์ ผู้ไม่แยแสหรือแคร์สื่อใดๆ ในโลก แถมปากไม่มีหูรูด สงบปากสงบคำไปได้สักพัก ก็ทะลุกลางปล้องขึ้นมาอีกว่า พวกที่วิพากษ์วิจารณ์ตนเป็นพวกบ้าคลั่ง ทรัมป์ลุกผางมาโพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์ คุยโม้โอ้อวดตามแบบที่เคยทำ แล้วตบท้ายว่า ซัมมิตคราวนี้มีความสำคัญมาก จากนั้นก็ด่าคนวิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์ว่า “บ้าคลั่ง” เพราะทำใจไม่ได้ที่เห็นตนเข้ากันได้ดีกับปูติน
ดูเหมือนว่าเรื่องจะไม่จบง่ายๆ ล่าสุด คริสโตเฟอร์ เรย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ออกมายืนยันข้อสรุปว่า รัสเซียแทรกแซงศึกเลือกตั้งเมื่อปี ค.ศ. 2016 อย่างแน่นอน แม้ปูตินจะปฎิเสธหน้าตาย แทนที่ผู้นำอเมริกาจะเข้าข้างคนของตัวเอง กลับกางปีกปกป้องปูติน ด้วยการชื่นชมว่า ปูตินปฏิเสธข้อครหาอย่างแข็งแกร่งและทรงพลัง
นาทีนี้ทั้งสายเดโมแครตและรีพับลิกัน รวมทั้งสำนักข่าวกรองแห่งชาติต่างลุกเป็นไฟ สิ่งที่ชาวโลกรับรู้จากถ้อยคำของลุงทรัมป์ ทำให้เกิดการประมวลในสมองว่า ระหว่างเฒ่าทรัมป์ปากเสียกับปูตินจะต้องมีอะไรในกอไผ่อย่างแน่นอน เพราะลุงแกเห่าใส่ชาวโลกไปทั่ว แต่มาอ่อนหวานจ๊ะจ๋ากับปูตินอย่างผิดปกติ นอกจากจะไม่จัดหนักยังปกป้องอีกต่างหาก
การกระทำของทรัมป์หนนี้ทำให้นึกถึงสำนวนไทยที่ว่า “เห็นขี้ดีกว่าไส้” ส่วนจากนี้ต่อไปจะเป็นอย่างไร คงต้องปูเสื่อนั่งชมข่าว “ปากเสียรายวัน” เพราะบอกตรงๆ ว่าไม่อาจเดาใจตาลุงคนนี้ได้เลย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี