ใครๆก็อยากเปลี่ยนแปลงโลก เพราะเราคิดว่าเมื่อเปลี่ยนแปลงโลกแล้วเราจะได้รับผลประโยชน์ตอบแทน อาจจะเป็นทรัพย์สินเงินทอง ชื่อเสียงเกียรติยศ คำสรรเสริญ ความยิ่งใหญ่และอำนาจ
ดูตัวอย่างบุคคลที่โลกยกย่องก็ได้ ทุกสาขาอาชีพ โดยเฉพาะสาขาวิทยาศาสตร์ที่มีการค้นพบอะไรใหม่ๆอยู่เสมอมา ไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องการเมือง การปกครองและเรื่องการสงคราม!
ทั้งหมดเป็นเรื่องที่คนกระทำต่อโลก และกระทำต่อคนด้วยกันทั้งนั้น
เป็นการกระทำที่อยู่ภายนอกตัวเอง
เป็นการกระทำต่อสิ่งอื่น – ผู้อื่น ไม่ใช่กระทำต่อตัวเราเอง
สิ่งที่เรากระทำต่อตัวเองก็คือ หาความรู้ ฝึกความชำนาญ หาเป้าหมายและวิธีการบรรลุถึงเป้าหมาย ซึ่งในสมัยนี้เขาใช้คำว่า “ยุทธศาสตร์” และ “กลยุทธ์” เพื่อบรรลุสู่ชัยชนะ ไม่ว่าโลกหรือคนอื่น เพราะชัยชนะนั้นเป็นการยืนยันว่าเราสามารถเปลี่ยนแปลงโลกและคนอื่นได้
เมื่อทุกคนในโลกนี้ต่างก็มุ่งที่จะเปลี่ยนแปลงโลกและคนอื่น โลกและคนอื่น(สังคม)จึงวุ่นวายสับสน และเกิดความขัดแย้ง กระทั่งกลายเป็นสงครามเสมอมา
ไม่มีใครคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างจริงจังอย่างที่คิดจะเปลี่ยนแปลงโลกและคนอื่น
เรามองไปที่ภายนอกตัวเอง ไม่เคยมองเข้ามาข้างในตัวเอง
เราจึงไม่เห็นตัวเอง
เมื่อมองไม่เห็นตัวเองก็ไม่รู้จักตัวเอง และไม่เข้าใจตัวเอง เราจึงกลายเป็นเพียง “ก้อนชีวิต” ที่ดิ้นรนขวนขวายและไขว่คว้าไปตามแรงแห่งความปรารถนาในตัวเองอย่างไม่รู้พอ ยอมเหนื่อยยากและสิ้นแรงจนกว่าจะล้มลง
ล้มลงแล้วก็กลายเป็นสารอินทรียวัตถุให้พืชพันธุ์ต่างๆได้เป็นอาหาร
ก็นับว่าเป็นประโยชน์อยู่หรอก! แต่เป็นประโยชน์ในตอนก้อนชีวิตเน่าเปื่อยผุพังเท่านั้น
แต่ตลอดชีวิตของเรากลับไม่ได้สร้างคุณค่าและประโยชน์อะไรให้ตัวเองนัก ซ้ำกลับทำร้ายและทำลายโลก – ทำลายคนอื่นในนามของการเปลี่ยนแปลงโลกเสียอีก
ชีวิตของเราจึงไม่ได้งอกงามด้วยตัวชีวิตเอง
เมล็ดพันธุ์พืชต่างๆล้วนงอกงาม – แทงหน่อ – ชูช่ออ่อนจากภายในเมล็ดของมัน และเติบโตเป็นลำต้นต่อมา โดยอาศัยสารอาหาร น้ำ ลม แสงตะวัน และแสงเดือนดาวคอยอุปการะ
ชีวิตเราก็เช่นกัน เรางอกงามและเติบโตจากภายในชีวิต แต่เราไม่สนใจ ไม่รู้ ไม่เห็นความงอกงามและงดงามจากภายในชีวิตของเราเอง เราจึงงอกงามและเติบโตแต่เพียงก้อนชีวิตหรือร่างกาย แต่ไม่สามารถเติบโตทางด้านจิตวิญญาณแต่อย่างใด
เราจึงกลายเป็นผู้ทุพพลภาพ แม้ว่าก้อนชีวิตของเราจะมีครบ 32 ประการก็ตาม
จะทำอย่างไรก้อนชีวิตของเราจึงจะงอกงามจากภายใน?
ภายในคือ จิตหรือใจ
เพียงแต่มองเข้าไปในจิตหรือใจ...อย่างอ่อนโยน เราจะเห็นอาการดิ้นรนของจิตหรือใจที่จะงอกงามออกมาสู่แสงตะวันและแสงเดือนดาวมานับแสนนับล้านปีแล้ว ยิ่งมองนานเท่าไรจิตหรือใจก็จะค่อยงอกงามให้เห็นขึ้นมาเอง
งอกงามอยู่ในอาการสงบรำงับ
งอกงามและแทงหน่ออ่อนออกมาเป็นความรักต่อตนเอง ต่อโลก และต่อคนอื่น และจะเติบโตงอกงามเป็นพลังชีวิตที่จะไม่มีวันเสื่อมสลายไปกับสภาพแห่งความไม่แน่นอนของสรรพสิ่ง
การเปลี่ยนแปลงที่แท้คือการเปลี่ยนแปลงโลกภายในตนเอง
เปลี่ยนแปลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป สุดท้ายก็จะเติบใหญ่กลายเป็น “พลังแห่งสันติภาพ” ของชีวิตตนเอง ของโลก และของคนอื่น เช่นเดียวกับต้นกล้าที่งอกงามจากภายในเมล็ดพันธุ์ของมันเอง และเติบโตเป็นไม้ใหญ่ให้เป็นที่พึ่งพิงอิงอาศัยแก่สรรพชีวิตอื่น
การงอกงามจากภายในเป็น “ระเบียบวิธีของกฎธรรมชาติ” หากเราไม่ปฏิบัติตาม...จะด้วยความหลงตนหรือด้วยเหตุผลใดก็ตาม ก็จะนำความหายนะมาสู่ชีวิตของเราและโลก
การงอกงามจากภายใน คือการปฏิวัติชีวิตของเราเองและโลก
มีเพียงการปฏิวัติด้วยระเบียบวิธีนี้เท่านั้นที่จะนำความรักและอิสรภาพมาสู่โลกและมนุษย์โดยสมบูรณ์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี