ภายหลังกรณีถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ผ่านพ้นไป พร้อมกับแง่งามของมนุษยชาติบนผืนพิภพนี้ ที่เผยให้เห็นถึงจิตใจช่วยเหลือเกื้อกูลเพื่อนมนุษย์ด้วยกันที่ประสบภัยพิบัติ โดยไม่แบ่งชาติ ศาสนาและวรรณะ รวมทั้งแง่งามแห่งความรัก ความสามัคคีและศักยภาพของคนไทยในยามที่ต้องทำงานฟันฝ่าอุปสรรคด้วยจุดมุ่งหมายอันมีร่วมกัน
ภายหลังภาพความดีงามเหล่านี้ปรากฏตัวขึ้นและผ่านพ้นไป การเมืองไทยก็กลับเข้าสู่โหมดแห่งความชั่วร้ายของมันอีกครั้งหนึ่ง !
ข่าวการเดินสายประชุม ครม.สัญจรของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ในเขตจังหวัดภาคอีสานตอนล่าง และการหว่านเงินงบประมาณของรัฐกว่าหมื่นล้านบาทลงไปยังพื้นที่ต่างๆ ที่สัญจรไป ดำเนินไปอย่างขมีขมัน พร้อมเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการหาเสียงและดูด สส. ในพื้นที่ ไม่ต่างอะไรกับที่รัฐบาลของกลุ่มทักษิณเคยทำมา
ขณะเดียวกัน ตัวทักษิณเอง ก็ฉวยโอกาสใช้งานวันเกิดครบรอบ 69 ปีของตน ออกมาถล่ม คสช. ว่าไม่ใช่สุภาพบุรุษ พยายามยื้อการเลือกตั้ง เพื่อสร้างคะแนนนิยม พร้อมคุยโวว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคเพื่อไทยจะชนะยิ่งกว่าแลนด์สไลด์
ในวันเดียวกันนั้น นายนคร มาฉิม อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร จังหวัดพิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้ออกมามอบของขวัญวันเกิดชิ้นใหญ่ให้ทักษิณ ด้วยการโพสต์เฟซบุ๊ก ขอโทษ ทักษิณ - ยิ่งลักษณ์ ที่ตนเคยร่วมล้มรัฐบาลของพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย ทั้งยังเล่าถึงสารพัดวิธีในการกำจัดรัฐบาลของกลุ่มทักษิณ โดยอ้างว่ามีการร่วมมือกันระหว่างฝ่ายการเมือง ฝ่ายทหาร ฝ่ายข้าราชการประจำ และฝ่ายตุลาการระดับสูงบางคน สุดท้ายนายนครได้ฝากเนื้อฝากตัวกับนายทักษิณโดย “ขออนุญาตมาร่วมอุดมการณ์เดียวกันกับท่าน ขอร่วมสู้กับท่าน”
แน่นอนว่า คนในพรรคประชาธิปัตย์ต่างออกมาตอบโต้เปิดโปงพฤติกรรมของนายนครอย่างเผ็ดร้อน พร้อมกับเตรียมฟ้องดำเนินคดี ในขณะที่คนในพรรคเพื่อไทยและแกนนำ นปช. ต่างออกมาตีปีกชื่นชมการกระทำของนายนครดุจวีรบุรุษผู้กล้า
โอ๊ค พานทองแท้ กล่าวว่าท่ามกลางกระแสดูดอย่างรุนแรงที่มีผลประโยชน์และอำนาจรัฐเป็นเครื่องมือ ก็ยังมีคนที่ไม่หวั่นไหว พร้อมจะยืนอยู่บนหลักการแห่งความถูกต้องอย่างนายนคร และว่าเครื่องมือที่ใช้ในการดูด คือ พลังเงิน พลังองค์กรอิสระ และพลังข้าราชการ
ซึ่งเครื่องมือทั้งหมดที่ว่ามานี้ พ่อนายโอ๊คกับคนในตระกูลของนายโอ๊คก็เคยใช้มาหมดแล้ว !
เห็นบรรยากาศการเมืองแบบนี้แล้วก็น่าเศร้าใจ
จะหาเรื่องราว ความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่สร้างสรรค์สักชิ้นก็ไม่มี
ผู้เล่นสำคัญบนเวทีการเมืองไทยเป็นเช่นนี้ อนาคตเมืองไทยจะเป็นเช่นไร ?
ด้านหนึ่ง เรามีกลุ่มการเมืองที่มีทหารกลุ่มใหญ่สนับสนุน กลุ่มการเมืองที่เคยออกมาเป็นกรรมการห้ามทัพ แต่ต่อมาเปลี่ยนใจขอเป็นผู้เล่นเสียเอง จะด้วยเพราะขี่หลังเสือแล้วลงไม่ได้ หรือเพราะหลงใหลกลิ่นอายของอำนาจอันกำซาบอยู่ในใจ ก็ยากจะเดา
และคนเราลงตัดสินใจเล่นการเมืองแบบเทไพ่หมดหน้าตักในสถานการณ์เช่นนี้แล้ว เขาก็มักจะทำอะไรได้ทุกอย่างเพื่อคะแนนเสียงของเขา ไม่เว้นแม้จะกลืนน้ำลาย ตระบัดสัตย์ ไม่เว้นแม้จะกระทำซ้ำในสิ่งที่นักการเมืองเลวที่เขาปรามาสมาแล้วเคยทำกัน
อีกด้านหนึ่ง เรามีกลุ่มการเมืองที่บงการโดยทักษิณ กลุ่มการเมืองที่ทุจริตคอร์รัปชัน กอบโกยโกงกิน เบียดบังผลประโยชน์ของชาติมาเป็นของตนเองและเครือญาติ ติดต่อกันมายาวนานนับสิบปี แม้จะทรยศ แม้จะหักหลัง เอาตัวเองและครอบครัวรอด ปล่อยให้ลูกน้อง คนสนิทชิดเชื้อต้องนอนคุกนอนตะรางคนแล้วคนเล่า แต่ด้วยอำนาจเงิน ก็ยังมีคนชื่นชอบ มีคนพร้อมจะสวามิภักดิ์รับใช้ สนับสนุนให้กลับมามีอำนาจอีก
นี่ยังไม่ได้พูดถึงกลุ่มการเมืองอื่น ที่ปัจจุบันยากจะมีอิทธิพลถึงขั้นเปลี่ยนแปลงคุณภาพหรือทิศทางการเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ พรรคของกลุ่ม กปปส. หรือพรรคที่ประกาศตัวเป็นคนรุ่นใหม่ทั้งหลายทั้งปวง
เมื่อผู้เล่นสำคัญบนเวทีการเมืองไทยเป็นเช่นนี้ หลังการเลือกตั้ง ไม่ว่ากลุ่มไหนจะขึ้นมาบริหารประเทศ การเมืองไทยก็จะยังไม่ก้าวไปไหน จะยังวนเวียนย่ำเท้าอยู่ในวงจรอุบาทว์เหมือนเดิม
ถ้ากลุ่มทักษิณชนะเลือกตั้ง กลุ่มนี้โกงต่อแน่
ถ้ากลุ่มทหารชนะ กลุ่มนี้ก็ใช่จะไม่โกง ทุกวันนี้มีกี่เรื่องที่ยังอึมครึม ไม่สะสาง
แล้วรัฐประหารโดยทหารกลุ่มใหม่ก็จะกลับมาอีก พูดไว้ตรงนี้ แล้วคอยดูกันว่าจริงหรือไม่ !
คำถามคือ พวกเราเสียเวลากันมาเท่าไรแล้ว กับการเมืองแบบนี้ และเราจะต้องเสียเวลากันอีกต่อไปเท่าไร การเมืองบ้านเราจึงจะพัฒนากับเขาเสียที ?
ประชาชนเรา จะอดทนให้การเมืองพัฒนาไปแบบนี้หรือ ?
ในอดีต ไม่มีใครกวักมือเรียกทหารออกมายึดอำนาจอย่างที่พวกเสื้อแดงชอบกล่าวหา
การทุจริตคอร์รัปชั่น โกงบ้านกินเมืองนั่นแหละ ที่กวักมือเรียกทหารเอารถถังออกมาวิ่ง
แต่น่าเสียดายที่ทหารทุกวันนี้มีความสามารถแค่ยึดอำนาจ แต่ไม่มีความสามารถที่จะยึดกุมความซื่อสัตย์สุจริตให้ธำรงไว้ในตนได้ตลอดไป
เพราะเมืองไทยเรา นับแต่สิ้นพระยาพหลฯ ทหารดีก็ยังไม่มาเกิด
ณรงค์ฤทธิ์ ศรีรัตโนภาส
สำนักที่ปรึกษาร้อยชักสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี