อากาศในอเมริกาช่วงนี้เปลี่ยนจากร้อนเป็นเย็นเพราะเป็นช่วงผลัดฤดูจากหน้าร้อนเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง อากาศแบบนี้เล่นเอาผู้คนไม่สบายกันทั่วหน้าเพราะเดือนสิงหาคมนั้นนับเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดในฤดูร้อน แต่พอเข้ากันยายนปุ๊บอากาศเปลี่ยนทันที แต่ท่ามกลางความอึมครึมปรวนแปรของอากาศ คงไม่มีใครหัวใจระส่ำเท่าตาลุงผมเป๋ ที่นอนกระดิกเท้าในทำเนียบขาวแน่นอน
ใจจริงนั้นเบื่อจะเขียนเรื่องตาลุงคนนี้เหลือเกินแล้ว แต่ดูเหมือนว่าลุงแกกลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ทุกอาทิตย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาทิตย์นี้ยิ่งดุเด็ดเผ็ดมันกว่าเดิม แม้จะโดนลูกสาวจอห์น แมคเคนแขวะเอาในงานศพ แต่ดูเหมือนลุงแกยักไหล่ไม่แคร์ ถึงนางแบบเพลย์บอยและดาราหนังโป๊ออกมาแฉเรื่องลึกลับใต้เข็มขัด ให้มะริกันชนฮือฮากันทั้งประเทศ ว่าลุงนั้นบ่มิไก๊ในเรื่องอย่างว่าลุงแกก็ไม่แยแส เพราะมีเรื่องร้อนใจยิ่งกว่าไฟสุมทรวงนั่นคือหนังสือเล่มล่าสุด ที่เขียนแฉเบื้องลึกเบื้องลับในทำเนียบขาวอย่างลากไส้ บรรยายความแปลกประหลาดมหัศจรรย์ ที่ลุงทำต่อเพื่อนร่วมงานระดับสูงในทำเนียบขาวอย่างหมดไส้หมดพุง
แม้จะมีหนังสือแนว “แฉ” โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาหลายเล่มตั้งแต่ดำรงตำแหน่งมา แต่เล่มนี้เป็นเล่มที่มองข้ามไม่ได้เลยเพราะชื่อคนเขียนการันตีว่า “วงใน” มาก บ๊อบวู้ดเวิร์ดเป็นนักข่าวเชิงสืบสวนสอบสวนของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ โด่งดังจากการรายงานคดีวอเตอร์เกตในยุคของอดีตประธานาธิบดีริชาร์ดนิกสัน เล่นเอานิกสันต้องชิงลาออกในทันใดนั้นเลยทีเดียว หนังสือ Fear: Trump in the White House จะออกวางจำหน่ายในบ้านลุงแซมวันที่ 11 กันยายนนี้แหละ เล่นเอามะริกันชนรออ่านกันอย่างใจระทึกทีเดียวความน่าสนใจของเล่มนี้ นอกจากจะมีเครดิตจากชื่อคนเขียนแล้วยังแน่นไปด้วยข้อมูลเชิงลึกจากการสัมภาษณ์บุคคลใกล้ชิดโดนัลด์ ทรัมป์ ในคณะทำงานของทำเนียบขาวหลายสิบคน
และเอกสารข้อมูลการประชุมระดับลับสุดยอดในทำเนียบขาวจำนวนมากนักข่าวอาวุโสรายนี้ เป็นหนึ่งในนักข่าวอเมริกันที่ได้รับการเคารพอย่างสูงในแวดวงการเมืองและสื่อมวลชน ที่ฮาสุดคือโดนัลด์ทรัมป์ เคยเอ่ยปากชมบ๊อบ วู้ดเวิร์ด เมื่อครั้งเขียนหนังสือเกี่ยวกับประธานาธิบดีโอบาม่าในปี 2013 ความแซบของเล่มนี้ไม่ต้องพูดถึงมีการอ้างอิงคำพูดของเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของทำเนียบขาว อย่างจอห์นเคลลี ที่กล่าวว่า “ทรัมป์เป็นคนบ้าและปัญญาอ่อน เราไม่สามารถควบคุมอะไรได้เพราะทุกวันนี้เหมือนอยู่ในเมืองคนวิกลจริต”
นอกจากนี้ยังอ้างถึงคำพูดของพลเอกจิม แมททิส รัฐมนตรีกลาโหม ที่พูดถึงทรัมป์ว่ามีสติปัญญาเท่าเด็กป.5 เท่านั้นเอง และเผยว่าทรัมป์ เคยต่อสายตรงเพื่อบอกว่าต้องการลอบสังหารประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย ซึ่งพลเอกแมททิส บอกผู้ช่วยหลังวางสายจากประธานาธิบดีว่า จะไม่ทำเช่นนั้นแน่ๆ ตาลุงผมเป๋ออกมาทวิตรัวๆ ตามนิสัย ด่าโหวกเหวกไปมาว่าหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือสือห่วยๆ เล่มหนึ่งเท่านั้นสรุปคือไม่ว่าใครจะเขียนถึงลุงอย่างไรทั้งหนังสือพิมพ์และสื่อทั้งหลายทั้งปวง หากไม่อวยหรือไม่เลียลุงลุงทรัมป์ก็จะบอกว่า “เฟคนิวส์” หรือ “เรื่องโกหก” ทั้งสิ้นนั่นเองลุงคงลืมไปแล้วสินะว่าเคยชมคนเขียนไว้ว่าอย่างไร อาการฟาดงวงฟาดงาไม่ได้แตกต่างไปจากวันที่ลุงแกไปเว้งแตกใส่กูเกิ้ลว่า ทำไมถึงไม่เคยเสนอข่าวสารด้านดีของลุงแกเลย เพราะกูเกิ้ลทีไรเจอแต่เรื่องแย่ๆ ทุกที
เรื่องนี้ทำให้คนเขียนอดนึกถึงอดีตนายกรัฐมนตรีประเทศหนึ่งไม่ได้ เพียงแค่พลเมืองประเทศนั้นพิมพ์คำว่า “อีโง่” ลงไปในกูเกิ้ลก็จะปรากฎทั้งภาพและชื่อให้เห็นเป็นร้อยๆ หน้าความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็มาแทรก ลุงผมเป๋ยังหัวฟัดหัวเหวี่ยงไม่หายกับหนังสือแฉแหลกพลันปรากฎจดหมายรักเด้งออกมาทางหน้าหนังสือพิมพ์ที่ทรงอิทธิพลเล่มหนึ่ง นั่นคือ นิวยอร์กไทม์ส คือมีผู้สันทัดกรณีคนวงในเขียนจดหมายเล่าความอึดอัดใจและเรื่องลึกเรื่องลับในทำเนียบขาว ที่สอดคล้องกับหนังสือ Fear: Trump in the WhiteHouse บทความนี้มีชื่อว่า ‘I am Part of The Resistance Inside theTrump Administration’ โดยเผยแพร่เพียง 1 วัน
หลังจากที่วอชิงตันโพสต์ตีพิมพ์เนื้อหาบางส่วนจากหนังสือเล่มใหม่ของบ็อบ วู้ดเวิร์ด ทีเด็ดของจดหมายฉบับนี้อยู่ที่การระบุว่า การต่อต้านทรัมป์ในทำเนียบขาวนั้นรุนแรงยิ่งกว่าในหนังสือบรรยายไว้ถึงขั้นเคยมีการปรึกษากันอย่างเงียบๆ เรื่องการปลดทรัมป์โดยอาศัยอำนาจตามบทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ มาตราที่ 25วรรค 4 ว่าด้วยกระบวนการถอดถอนประธานาธิบดี
ซึ่งไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่าเพิ่งทำหน้างง ไอ้มาตราที่ 25 นี่มันเป็นยังไงหว่า สรุปง่ายๆคือหากรองประธานาธิบดีและเสียงส่วนใหญ่ในคณะรัฐมนตรีเห็นว่า ประธานาธิบดีทำงานไม่ได้ จะด้วยเหตุผลใดก็ตามให้ทำหนังสือยืนยันไปยังประธานวุฒิสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร และเมื่อส่งหนังสืออกไปแล้วรองประธานาธิบดีจะขึ้นทำหน้าที่แทนทันที แต่ขั้นตอนก็ใช่ว่าจะง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก เพราะประธานาธิบดี มีสิทธิ์แย้งว่าตัวเองยังมีความสามารถที่จะบริหารประเทศต่อไป งานนี้คงต้องัดข้อกันแบบช้างชนช้าง
เพราะรองประธานาธิบดีและรัฐมนตรีเสียงส่วนใหญ่จะต้องแสดงจุดยืนอีกครั้ง ด้วยการออกเป็นหนังสือว่าประธานาธิบดีทำงานไม่ได้โดยให้เหตุผลประกอบว่าทำไม เป็นบ้าหรืออะไรก็ว่ามาแต่เรื่องเซ็กส์เสื่อมนกเขาไม่ขันของลุงทรัมป์คงนำมาเป็นเหตุไม่ได้
จากนั้นสภาทั้งสองก็จะลงมติ หากได้เสียง 2 ใน 3 ประธานาธิบดี ก็จะเด้งออกจากเก้าอี้และรองประธานาธิบดีก็จำรำป้อเข้ามาเสียบโดยพลันทันที เรื่องนี้นับเป็นเรื่องไม่ง่ายนักเพราะพรรครีพับลิกันของทรัมป์ ยังครองเสียงข้างมากในทั้งสองสภา แต่ก็ไม่แน่เหมือนกันเพราะทรัมป์เองก็ล่อก้นคนร่วมพรรคไว้ไม่ใช่น้อย ปี่กลองเริ่มตีรัวกันนัวเนียโหมโรงก่อนการเลือกตั้งกลางเทอมที่จะมาถึงในเดือนพฤศจิกายน เวลาก็งวดเข้ามาทุกที แม้ว่าอากาศในอเมริกาจะเริ่มเย็นลง แต่เชื่อว่าลุงทรัมป์คงนั่งเหงื่อแตกพลั่ก จากการพยายามควานหาตัวมือดีผู้ส่งจดหมายรักฉบับฉาวโฉ่ไปให้หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส จนคนอ่านทั้งโลกสูดปากด้วยความแซบไปตามกัน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี