ขึ้นสัปดาห์ที่สองหลังการเข้าคุมอำนาจการปกครองแผ่นดินโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกได้รับกระแสตอบรับสนับสนุนมากพอสมควรจากประชาชนทุกภาคส่วนโดยเฉพาะภาคธุรกิจเอกชนและข้าราชการที่ต่างเชื่อมั่นว่า คสช.จะคืนความสุขให้กับประเทศเสียทีหลังจากที่บอบฃ้ำอย่างหนักจากวิกฤติการณ์ทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา
หลังเข้าคุมอำนาจของประเทศอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด คสช.ก็เริ่มเดินหน้าฟื้นฟูประเทศทันทีตามลำดับความสำคัญก่อนหลังได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพเป็นอย่างยิ่งโดยมีภารกิจหลัก 3 ประการคือ 1.รักษาความสงบเรียบร้อยและแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ 2. การปฏิรูปประเทศในทุกมิติทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต 3. การตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติและมีธรรมนูญการปกครองชั่วคราว
ในภารกิจรักษาความสงบเรียบร้อยและแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศนับว่า คสช.
ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายโดยสามารถขจัดเงื่อนไขที่จะนำไปสู่การต่อต้านจุดเปลี่ยนผ่านอำนาจการปกครองประเทศโดยคสช.ครั้งนี้ ด้วยการตรวจค้นกวาดล้างกองกำลังใต้ดินติดอาวุธซึ่งเป็นเครือข่ายระบอบทักษิณในหลายจังหวัดทั่วประเทศ โดยสามาระจับกุมการ์ดกลุ่มคนเสื้อแดงได้หลายสิบคนพร้อมอาวุธสงครามร้ายแรงจำนวนมาก อันเป็นการปฏิบัติการเชิงรุกสลายกองกำลังติดอาวุธที่เตรียมก่อการร้ายแบบตัดไฟตั้งแต่ต้นลม
ขณะเดียวกันก็อาศัยกฏอัยการศึกและคำสั่งของคสช.เตือนจะใช้มาตรการทางกฏหมายขั้นเด็ดขาดภายใต้ศาลทหารกับบรรดามวลชนจัดตั้งของระบอบทักษิณที่พยายามออกมาชุมนุมต่อต้านการรัฐประหารเพื่อสร้างความปั่นป่วนทำลายความเชื่อมั่นและเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจ ตลอดจนพยายามยั่วยุหวังให้เกิดความรุนแรงเพื่อใช้เป็นเครื่องมือจุดกระแสต่อต้านคสช.ทั้งจากในประเทศและจากนานาประเทศทั่วโลกโดยหวังดำเนินยุทธศาสตร์ใช้”โลกล้อมประเทศไทย”เพื่อให้คสช.อยู่ไม่ได้
ส่วนการแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจ คสช.ได้เรียกประชุมผู้บริหารหน่วยงานด้านเศรษฐกิจภาครัฐและผู้บริหารภาคธุรกิจเอกชนทั่วประเทศประชุมหารือแนวทางฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งทุกฝ่ายเชื่อมั่นว่า คสช.จะสามารถทำให้เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวได้อย่างแน่นอน เนื่องจากคสช.เป็นผู้บริหารประเทศที่มีอำนาจเต็มและมุ่งมั่นจริงใจที่จะแก้ไขปัญหาของชาติ ขณะที่เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงชิ้นแรกซึ่งประสบความสำเร็จอย่างงดงามและฉับไวจนสร้างความสุขให้กับชาวนาทั่วประเทศของคสช.ก็คือ การจ่ายหนี้ค่ารับจำนำข้าวที่รัฐบาลทรราชหุ่นเชิดระบอบทักษิณติดค้างชาวนาทั่วประเทศกว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งทำให้ชาวนามีเงินการจับจ่ายใช้สอยส่งผลให้เกิดการกระตุ้น
สร้างการขยายตัวของเศรษฐกิจตามมา
สำหรับการปฏิรูปประเทศในทุกมิตินั้นคงจะมีการตั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติที่ประกอบด้วยตัวแทนจากทุกฝ่ายทุกภาคส่วนเพื่อวางแนวทางรายละเอียดการขจัดรากเหง้าต้อตอที่แท้จริงของวิกฤติประเทศตลอดช่วงที่ผ่านมาโดยเฉพาะวงจรอุบาทว์ของธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ เผด็จการทรราชในคราบประชาธิปไตยที่ลุแก่อำนาจ การทุจริตคอร์รัปชั่นโกงชาติปล้นแผ่นดินอย่างย่ามใจของนักธุรกิจการเมือง ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม
ด้านการตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติและธรรมนูญการปกครองประเทศชั่วคราวนั้นมีเป้าหมายหลักเพื่อรองรับแผนการปฏิรูปประเทศ การสร้างความปรองดองในชาติ โดยสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเชื่อว่าจะประกอบไปด้วยตัวแทนจากคู่ขัดแย้งทุกฝ่ายในชาติ รวมทั้งตัวแทนองค์กรระดับชาติตลอดจนผู้มีความรู้ความสามารถจากทุกภาคส่วน
ความเคลื่อนไหวที่ทั่วโลกหรือแม้แต่คนไทยทั่วประเทศกำลังจับตาก็คือใครจะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาล ซึ่งจากการตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าวแบบแบ่งรับแบ่งสู้ก่อนหน้านี้ทำให้เห็นแนวโน้มว่า พล.อ.ประยุทธ์ น่าจะรับหน้าที่นายกฯเฉพาะกาลด้วยตัวเองเพื่อที่จะ
บริหารประเทศในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อให้เป็นไปด้วยความราบรื่นและสำเร็จตามเป้าหมายที่คสช.ต้องการ
เพราะฉะนั้นจากนี้ไป คสช.คงต้องทำงานแข่งกันตัวเองเพื่อคืนความสุขให้กับประเทศและไม่ทำให้ประชาชนผิดหวังอย่างที่ประกาศไว้ให้ได้ ซึ่งหากทำได้สำเร็จก็จะเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่ารัฐบาลเฉพาะกาลที่มาจากแนวทางนอกรัฐธรรมนูญแต่บริหารประเทศได้กีกว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแต่ล้มเหลวและเต็มไปด้วยสิ่งชั่วร้าย
อย่างไรก็ตามอุปสรรคสำคัญสำหรับ คสช.ก็คือ แผนร้ายของขบวนการระบอบทักษิณที่แน่นอนว่าจะต้องพยายามดิ้นอย่างสุดฤทธิ์เพื่อบ่อนทำลายคสช.หวังช่วงชิงอำนาจกลับมายึดครองประเทศอีกครั้ง ด้วยการสร้างความระส่ำระสายปั่นป่วนทั้งบนดินและใต้ดินทั้งในและนอกประเทศ โดยขณะนี้อยู่ในช่วงตั้งหลักเพื่อเตรียมระดมสรรพกำลังทำศึกขั้นแตกหัก พร้อมทั้งความพยายามที่จะตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น หรือแม้แต่แนวคิดการแยกประเทศโดยอาศัยภาคเหนือและภาคอีสานเป็นฐานบัญชาการ เพราะฉะนั้นภายใต้สถานการณ์ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อขณะนี้จึงต้องจับตาเพราะสภาพ
เหมือนเงียบสงบก่อนที่พายุใหญ่ที่รอโหมกระหน่ำ
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี