บรรดาทูตทหารประเทศต่างๆที่ได้รับเชิญให้มาร่วมฟังการแถลงผลการยึดอาวุธสงครามร้ายแรงนานาชนิดจำนวนมากตลอดช่วง 1 เดือนเศษหลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เข้าควบคุมอำนาจการปกครองประเทศถึงกับตะลึงโดยเฉพาะมะกันอันตรายกับประชาคมยุโรปหรืออียูที่คง
ตาสว่างยอมรับความจริงเสียทีว่า หากคสช.ไม่ออกมารัฐประหาร แผ่นดินไทยจะต้องเกิดการนองเลือดแน่นอนจากอาวุธสงครามมหาศาลเหล่านี้ที่พิสูจน์ชัดแล้วว่าเป็นของขบวนการระบอบทักษิณ
ก่อนหน้านี้หลังรัฐประหาร 22 พ.ค.ที่ผ่านมาใหม่ๆ กำลังทหารและตำรวจบุกจับกุมแกนนำเสื้อแดงสายฮาร์ดคอร์ได้กว่า 10 คนพร้อมอาวุธสงครามร้ายแรงนานาชนิจำนวนมากได้ใน
อพาร์ตเมนท์แห่งหนึ่งที่จ.ขอนแก่นซึ่งแกนนำเสื้อแดงที่ถูกจับสารภาพว่าเตรียมก่อการร้ายต่อต้านคสช.ตามแผนปฏิบัติการ”ขอนแก่นโมเดล” ก่อนที่จะลุกลามไปทั่วประเทศ โดยได้รับท่อน้ำเลี้ยงเบื้องต้น 5 ล้านบาทสำหรับการจัดหาอาวุธโดย นายใหญ่จากแดนไกล
นอกจาก”ขอนแก่นโมเดล” กำลังทหารและตำรวจยังบุกจับคลังแสงมหึกมาที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จ.สมุทรสาคร และอีกหลายแห่ง
สำหรับอาวุธสงครามร้ายแรงส่วนหนึ่งที่นำมาแถลงโชว์ให้บรรดาทูตทหารประเทศต่างๆได้เห็นกับตา อาทิ ปืนเล็กยาวและปืนกลชนิดต่างๆ 144 กระบอก ปืนยาวและปืนลูกซอง 258 กระบอก ปืนพกชนิดต่างๆ 2,490 กระบอก กระสุนปืนชนิดต่างๆกว่า 50,000 นัด กระสุนระเบิดแบบเอ็ม 79 166 นัด เสื้อเกราะ 426 ตัว
คำถามก็คืออาวุธจำนวนมากเหล่านี้ต้องใช้เงินมหาศาลในการจัดหาซึ่งแน่นอนว่าจอมบงการอยู่เบื้องหลังรวมทั้งต่อท่อน้ำเลี้ยงจะต้องเป็นบุคคลไม่ธรรมดา
ขณะที่ พ.อ.วินธัย สุวารี ทีมงานโฆษกคสช. แถลงว่าอายุธที่ยึดได้บางส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเมื่อปี 2553 และเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุช่วงการชุมนุมของมวลมหาประชาชน กปปส. รวมทั้งเตรียมที่จะใช้ก่อการร้ายเพื่อต่อต้านคสช.
ส่วน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ย้ำว่าจากการสอบสวนผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมพร้อมอาวุธสงครามมีการซัดทอด 1 ใน 8 ผู้บงการคือ นายจักรภพ เพ็ญแข หนึ่งในแกนนำคนเสื้อแดง ซึ่งเป็นผู้ต้องหาหนีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและเป็นหนึ่งในคนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และกำลังเคลื่อนไหวร่วมกับ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จัดตั้งองค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย เพื่อต้านคสช. ซึ่งขณะนี้กำลังเตรียมประสานกับทางการฮ่องกงเพื่อขอนำตัว นายจักรภพกลับมาดำเนินคดีในไทยตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน
เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏชัดแล้วว่าขบวนการระบอบทักษิณไม่ต่างอะไรจากขบวนการก่อการร้ายที่มีประวัติโชกเลือดและยังวางแผนก่อการร้ายเพื่อต่อต้านคสช.ที่กำลังสร้างความสุขปฏิรูปประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง จึงเกิดคำถามว่ามะกันอันตรายและอียูจะให้ท้ายขบวนการโจรก่อการร้ายระบอบทักษิณต่อไปอีกหรือไม่ ซึ่งหากใช่มะกันอันตรายและอียูก็ไม่ต่างอะไรจากผู้สมรู้ร่วมคิดกับขบวนการก่อการร้ายทั้งๆที่ตัวเองประณามต่อต้านมาตลอด
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี