เกือบสองเดือนหลังรัฐประหารโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมาคืนความสุขให้กับคนทั้งประเทศได้ไม่น้อยด้วยการกวาดล้างขยะอันเน่าเฟะเหลวแหลกที่ถูกซุกอยู่ใต้พรมโดยรัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณ ขณะเดียวกันก็รุกคืบเดินหน้าฟื้นฟูประเทศในทุกด้านทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม โดยเฉพาะสิ่งที่สังคมคาดหวังเป็นอย่างมากจากคสช.ก็คือการปฏิรูปผ่าตัดประเทศครั้งใหญ่เพื่อทำให้บ้านเมืองเดินไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงอย่างยั่งยืนด้วยการขจัดระบอบธุรกิจการเมืองทุนสามานย์เผด็จการในคราบประชาธิปไตยอันเป็นต้นตอแห่งความชั่วร้ายทั้งปวงที่บ่อนทำลายประเทศ
ระบอบทักษิณผ่านพรรคและรัฐบาลหุ่นเชิดคือตัวแทนของธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ที่บ่อนทำลายชาติบ้านเมืองมาตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมาด้วยการทุ่มเงินซื้อพรรคการเมือง ซื้อ ส.ส.
และซื้อเสียงเอาชนะการเลือกตั้งเพื่อเป็นรัฐบาลไม่ต่างอะไรจากซื้ออำนาจรัฐซื้อประเทศ ซื้อประชาธิปไตยทางอ้อม และเมื่อได้เป็นรัฐบาลก็ถอนทุนบวกกำไรมหาศาลด้วยการทุจริตคอร์รัปชั่นมโหฬารอย่างย่ามใจ โดยอาศัยเสียงข้างมากไม่ต่างจากเผด็จการในคราบประชาธิปไตยเหมือนพรรคนาซีของอดีตจอมเผด็จการทรราชย์อดอล์ฟ ฮิตเล่อร์ของเยอมมันนีที่ใช้อำนาจตามใจชอบ ขณะเดียวกันก็ใช้อำนาจรัฐซื้อผู้บริหารหน่วยราชการและรัฐวิสาหกิจผูกขาดอำนาจหวังยึดครองประเทศเบ็ดเสร็จเด็ดขาดอย่างถาวร ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อความมั่นคงและระบอบการปกครองประเทศในอนาคต
ดังนั้นการปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่จึงต้องมุ่งขจัดระบอบธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ในคราบประชาธิปไตย โดยเฉพาะการใช้ยาแรงในการป้องปรามและลงโทษพรรคธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ที่โกงการเลือกตั้งทุกรูปแบบทั้งทางตรงทางอ้อม ทั้งการซื้อสิทธิขายเสียงหรือการใช้นโยบายโครงการประชานิยมสุดโต่งเกินจริงหาเสียงมอมเมาประชาชนและทำลายประเทศซึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือโครงการรับจำนำข้าว
ขณะที่พรรคระบอบธุรกิจการเมืองทุนสามานย์เป็นปัญหาหลักของกระบวนการเลือกตั้ง
แต่แนวคิดปฏิรูปกระบวนการเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ที่เสนอต่อคสช.กลับให้น้ำหนักไปที่การแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุมากกว่าการขจัดรากเหง้าต้อตอขบวนการเลือกตั้งที่ฉ้อฉลซึ่งไม่ได้สะท้อนความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงตลอดช่วงที่ผ่านมา
โดยข้อเสนอของ กกต. อาทิ ให้เปลี่ยนระบบการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต เขตเดียวเบอร์เดียวที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเป็นระบบเขตใหญ่หลายเบอร์ ให้ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อมาจากกลุ่มสาขาอาชีพที่หลากหลาย ให้ส.ส.มีวาระดำรงตำแหน่งไม่เกิน 2 วาระหรือ 8 ปี ในกรณีหากมีการยุบสภาให้ปลัดกระทรวงต่างๆรักษาการแทนคณะรัฐมนตรี หรือข้อห้ามไม่ให้เครือญาติใกล้ชิดของผู้สมัคร ส.ส.หรือสมาชิกวุฒิสภา(สว.)ไม่ว่าจะเป็นบุพการี บุตร บุตรบุญธรรม คู่สมรสตามกฏหมายหรืออดีตคู่สมรสลงสมัครในวาระเดียวกัน
ทั้งนี้ กกต.กลับไม่ได้เสนอแนวคิดที่ชัดเจนเพื่อขจัดพรรคระบอบธุรกิจการเมืองทุนสามานย์โดยเฉพาะระบอบทักษิณซึ่งที่ผ่านมาใช้เงินและผลประโยชน์ทุกรูปแบบซื้ออำนาจรัฐและ
ซื้อประเทศอันเป็นต้นเหตุของวิกฤติทำลายประเทศ
อีกทั้งการเลือกตั้งทุกครั้งในอดีตไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า กกต.ล้มเหลวและไร้ประสิทธิภาพในการป้องกันและลงโทษพรรคธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ที่ทุจริตการเลือกตั้ง โดย
กกต.ตรวจสอบพบการทุจริตเลือกตั้งได้เพียงส่วนน้อยปล่อยให้พรรคธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ยังคงลอยนวลซื้อประเทศได้สำเร็จภายใต้การเลือกตั้งที่ฉ้อฉล
จึงไม่แปลกที่นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีตรมช.มหาดไทย พรรคภูมิใจไทย ให้ความเห็นว่า กกต.ไม่เคยจับคนซื้อสิทธิ์ขายเสียงได้อย่างจริงๆจังๆทั้งๆที่เป็นหน้าที่สำคัญที่สุดของกกต.ที่ควรจะทำ ทั้งนี้โดยความเห็นส่วนตัวหากจะป้องกันและปราบปรามการซื้อสิทธิ์ขายเสียงอย่างได้ผลต้องใช้ยาแรงด้วยการกำหนดบทลงโทษพวกทุจริตเลือกตั้ง อาทิ พรรคการเมืองที่ปล่อยให้สมาชิกซื้อเสียงหากถูกจับได้ต้องยุบพรรคและตัดสิทธิ์ห้ามคณะกรรมการบริหารพรรคลงสมัครเลือกตั้งไปตลอดชีวิต ขณะที่นักการเมืองที่กระทำผิดนอกจากโทษถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิตแล้วควรได้รับโทษทางอาญาถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต รวมถึงประชาชนที่ขายเสียงก็ต้องรับโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิตเช่นกัน ซึ่งหากใช้ยาแรงเช่นนี้เชื่อแน่ว่าคงไม่มีใครกล้าซื้อเสียงขายสิทธิ์
ดังนั้นการปฏิรูปกระบวนการเลือกตั้งเพื่อขจัดระบอบธุรกิจการเมืองทุนสามานย์อันเป็นต้นตอของวิกฤติชาติทั้งปวงตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมาจึงถือเป็นปัญหาอันท้าทายที่จะพิสูจน์ผลงานและความจริงจังของคสช.ว่าจะสามารถคลี่คลายปัญหาใหญ่ของประเทศได้อย่างยั่งยืน หรือการรัฐประหารครั้งล่าสุดนี้จะเป็นเพียงการซื้อเวลาชะลอปัญหาไว้แค่ชั่วคราว จนเมื่อคสช.พ้นจากอำนาจลอยตัวก็ปล่อยให้ประเทศกลับสู่วงวันของวงจรอุบาทว์อันชั่วร้ายแบบเดิมๆตามยถาธรรม
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี