การก้าวขึ้นนั่งเก้าอี้นายกฯ คนที่ 29 ของประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ถือเป็นการแบกรับภาระความรับผิดชอบในฐานะผู้นำประเทศอย่างเป็นทางการเต็มตัว และถือเป็นการนับหนึ่งสำหรับรัฐบาลเฉพาะกาลที่มีอำนาจเต็มซึ่งประชาชนคาดหวังว่าจะเข้ามาขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของประเทศอย่างจริงจังเสียทีโดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ
แม้หลังการเข้าควบคุมอำนาจการบริหารประเทศของคสช.ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศที่เคยชะงักงันอย่างสิ้นเชิงเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับ แต่ก็ยังอยู่ในภาวะซบเซาเหมือนคนป่วยหนักในช่วงพักฟื้น
อย่างไรก็ตาม คาดหมายว่าหลังจากที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 วงเงิน 2.5 ล้านล้านบาท และรัฐบาลเฉพาะกาลที่จะตั้งขึ้นเร่งผลักดันโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ เชื่อว่าเม็ดเงินที่จะเข้าสู่ระบบจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในระดับหนึ่ง
แต่สิ่งที่น่ากังวลก็คือ ขณะที่คสช.มีนโยบายเร่งผลักดันให้มีการใช้จ่ายงบประมาณและก่อหนี้เพื่อผลักดันโครงการต่างๆ มูลค่ามหาศาล แต่รัฐกลับหารายได้ต่ำกว่าเป้าจนน่าวิตกต่อสถานะการคลังของประเทศ
โฉมหน้าคณะรัฐมนตรีประยุทธ์ 1 ที่คาดว่าจะเผยโฉมได้ในต้นเดือน ก.ย.จะเป็นอีกหนึ่งตัวแปรชี้วัดความเชื่อมั่นในรัฐบาลเฉพาะกาลในช่วงเปลี่ยนผ่าน โดยเฉพาะทีมรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจซึ่งมีข่าวว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกฯและอดีตรมว.คลัง จะมีบทบาทสำคัญ
ในทีมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่สำคัญกว่าก็คือ นโยบายที่ชัดเจนในการขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลเฉพาะกาลที่จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนไทยและต่างชาติ
ปัญหาสำคัญที่ท้าทาย คสช.อีกประการหนึ่งก็คือการปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่ในทุกด้านอันเป็นเป้าหมายสำคัญในการเข้าควบคุมอำนาจปกครองประเทศของคสช.ให้สำเร็จตามเป้าหมาย
แต่การปฏิรูปประเทศเพื่อขจัดสิ่งชั่วร้ายของระบอบธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ในอดีตย่อมจะถูกต่อต้านขัดขวางทุกวิถีทางทั้งบนดินและใต้ดินจากพรรคธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ซึ่งก็คือระบอบทักษิณและเหล่าแนวร่วม
พ.ต.ท.ทักษิณ ทักษิณ ชินวัตร นายใหญ่ระบอบทักษิณ ที่ล่าสุดมาปักหลักอยู่ที่ฮ่องกง
กล่าวกับบรรดาผู้ใกล้ชิดที่บินไปพบโดยประเมินว่า คสช.คงอยู่ในอำนาจได้ไม่เกิน 1 ปี เพราะแรงกดดันเยอะมาก อีกทั้งมีปัญหาด้านเศรษฐกิจ ส่วนการปฏิรูประเทศคงทำได้ยากซึ่งเหมือนเป็นการสบประมาทคสช.ว่า ในที่สุดคสช.ก็ล้มเหลวไปไม่รอดจากสารพัดปัญหาที่รุมเร้า
ปัญหาอันจะเป็นระเบิดเวลาลูกใหญ่ของคสช.อีกเรื่องหนึ่งก็คือ ความไม่โปร่งใสของคสช.ทำให้มีเสียงเตือนด้วยความหวังดีไปยังคสช.อย่างน้อยจาก 2 อดีตนายกฯคือ นายอานันท์ ปันยารชุน ที่ให้ความเห็นว่า คสช.ต้องไม่เดินกลับไปสู่จุดเดิมหรือกลับไปสู่สาเหตุของการรัฐประหารไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น การรวบอำนาจเพราะประชาชนจะตั้งคำถามว่าแล้วทำไมทหารเข้ามาแล้วยังเหมือนเดิม ขณะที่ อดีตนายกฯ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ชี้ว่าความโปร่งใสคือจุดเปราะบางอันตรายที่สุดสำหรับ คสช.
เพราะฉะนั้น คสช.ต้องไม่ทำให้สาธารณชนรู้สึกว่า คสช.ไม่โปร่งใส อาทิ กรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)เรียกร้องให้สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)แสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน แต่กลับมีสมาชิกสนช.บางคนพยายามหาช่องทางหลีกเลี่ยงไม่แสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน เรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องขจัดข้อเคลือบแคลงของสาธารณชนด้วยการประกาศจุดยืนของคสช.อย่างจริงจังโดยให้แกนนำคสช. คณะรัฐมนตรี สมาชิกสนช. แสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเพื่อความโปร่งใส ซึ่งจะสร้างการยอมรับได้ใจจากประชาชน และไม่ถูกฝ่ายตรงข้ามหยิบยกเป็นประเด็นโจมตีหวังบ่อนทำลายคสช.
ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผู้นำสูงสุดจะต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดข่าวทุจริตคอร์รัปชั่นโดยคนใกล้ชิดขึ้นอย่างเด็ดขาดไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม
อีกปัญหาหนึ่งสำหรับคสช.ก็คือเครือข่ายระบอบทักษิณและแนวร่วมที่ยังคงเคลื่อนไหวต่อต้านบ่อนทำลายคสช.ทั้งบนดินและใต้ดินอย่างต่อเนื่องถึงกับมีการนำใบปลิวโจมตีคสช.ไปโปรยหน้ากองบัญชาการกองทัพบกซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการใหญ่ของคสช. ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ยอมรับว่าจนขณะนี้ฝ่ายต่อต้านคสช.ยังมีอยู่เพียงแต่รอเวลาเคลื่อนไหวใหญ่เท่านั้น
ทั้งนี้ คสช.ต้องตระหนักว่าแม้จะมีอำนาจเด็ดขาดอยู่ในมือ แต่หากไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชนก็ไม่สามารถเดินหน้าแก้ไขปัญหาของประเทศได้ ดังนั้น คสช.ต้องพิสูจน์ความโปร่งใสและสร้างผลงานพิสูจน์ตัวเองโดยไม่ทำให้รัฐประหารเสียของโดยเฉพาะต้องผลักดันการปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่ให้สำเร็จตามความต้องการของมวลมหาประชาชนเพื่อเป็นหลักประกันว่าประเทศจะไม่กลับไปสู่วงจรอุบาทว์ของธุรกิจการเมืองทุนสามานย์อีกต่อไป
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี