สำหรับคอการเมืองไม่มีอะไรเหนือความคาดหมายคำแถลงของสำนักงานอัยการสูงสุด(อสส.) ที่ยกฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในความผิดละเว้นปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในโครงการรับจำนำข้าวซึ่งสร้างความล่มจมแก่ประเทศเป็นมูลค่ากว่า 5 แสนล้านบาทหลังจากที่ก่อนหน้านี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.) ชื้มูลความผิดส่งเรื่องมาให้ อสส.ตัดสินว่าจะสั่งฟ้องไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือจะยกฟ้อง แล้วตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างอสส.กับป.ป.ช.เพื่อพิจารณาสำนวนคดีใหม่ซึ่งแน่นอนว่าคดีนี้จะถูกลากยาวยืดเยื้อแน่นอน
ภาพพจน์ของ อสส.ติดลบมาตลอดตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทยภายใต้การนำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคุกเรืองอำนาจเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วโดยระบอบทักษิณได้ผลักดันคนของตัวเองเข้าครอบงำ อสส.อย่างฝังรากลึกมาตั้งแต่บัดนั้นและจากจุดยืนของอสส.ตลอดช่วงที่ผ่านมาจากหน่วยงานอันได้ชื่อว่าเป็นทนายของแผ่นดินถูกตั้งข้อสังเกตว่ากลายเป็นทาสรับใช้ระบอบทักษิณหรือเป็นสมบัติตระกูลชินมาตลอด
เท่าที่สังเกตการแถลงข่าวของ นายวันชัย รุจนวงศ์โฆษกอสส. ดูสีหน้าและกิริยาที่สื่อพยายามซูมภาพให้เห็นขณะกำลังเกร็งนิ้วจิกที่เล็บมือเหมือนซ่อนอะไรบางอย่างอยู่ในใจ และข้ออ้างที่สั่งไม่ฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็มีพิรุธไม่ค่อยจะมีน้ำหนัก เพราะหากอ้างว่าสำนวนการสอบสวนของป.ป.ช.ไม่สมบูรณ์เพียงพอ แล้วทำไมช่วงระยะเวลา 30 วันหลังได้รับสำนวน อสส.ถึงไม่ประสานขอข้อมูลเพิ่มเติมจากป.ป.ช.ให้สมบูรณ์
ส่วนที่อ้าง 3 ประเด็น ในการยกฟ้องคือหนึ่ง สำนวนยังไม่ชัดเจนว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีอำนาจยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวหรือไม่ส่อเป็นการตะแบงหาช่องยื้อเกมเตะถ่วง เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นอกจากสถานะนายกฯแล้วยังเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติที่ดูแลโครงการรับจำนำข้าวโดยตรง และอย่าว่าแต่โครงการรับจำนำข้าวเลยในฐานะผู้นำประเทศสามารถยับยั้งทบทวนโครงการอะไรก็ได้
สองอ้างว่าควรไต่สวนพยานและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมซึ่งช่างเผชิญเหมือนกับข้ออ้างของทีมทนายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.ก่อนหน้านี้ไม่มีผิด และสามอ้างประเด็นปลีกย่อยเรื่องรายงานวิจัยของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทยหรือทีดีอาร์ไอที่อยู่ในสำนวนของป.ป.ช.ที่ระบุโครงการรับจำนำข้าวมีการทุจริตและสร้างความเสียหายแก่ประเทศมูลค่ามหาศาลซึ่งมีเพียงหน้าปกรายงานวิจัยที่ขาดความชัดเจน
ซึ่งจากข้ออ้างของ อสส.ทั้งหมด นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการป.ป.ช. ตอบโต้ อสส.โดยย้ำว่า สำนวนการสอบสวนของ
ป.ป.ช.รอบคอบรัดกุม และเป็นการชี้มูลความผิดฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไม่ใช่เรื่องการทุจริตซึ่งเป็นอีกสำนวนคดีหนึ่งที่ยังไม่สรุปผลสอบ และการอ้างผลวิจัยของทีดีอาร์ไอที่มีแต่หน้าปกนั้นเป็นเพียงหนึ่งในตัวอย่างที่ยกให้เห็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงไม่ใช่ประเด็นอันเป็นสาระสำคัญแต่อย่างใด
ที่สำคัญความผิดที่ชัดเจนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็คือก่อนหน้านี้ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายทั้งนักวิชาการ ป.ป.ช. องค์กรระดับโลก สื่อต่างประเทศ หรือแม้แต่ ดร.วีรพงษ์ รามางกูรประธานที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์เคยเตือนหลายครั้งว่าโครงการรับจำนำข้าวเปิดช่องให้มีการทุจริตมโหฬารและจะทำให้ชาติล่มจม ตลอดจนมีชาวนาฆ่าตัวตายไปเกือบ 20 คน เพราะโครงการอัปยศนี้แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับเมินเสียงเตือนตะแบงดันทุรังเดินหน้าโครงการ เพราะฉะนั้นจากตัวตนล่าสุดของอสส.ถูกตั้งข้อสังเกตว่ายังคงไม่สามารถล้างภาพร่างทรงระบอบทักษิณหรือตระกูลชินซึ่งเวลาและผลงานจากนี้ไปจะพิสูจน์ตัวตนที่แท้จริงของอสส.ชัดเจนยิ่งขึ้น
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี