คดีก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเมื่อปี 2553 ถูกบิดเบือนจากขาวเป็นดำ จากดำเป็นขาวมาเกือบ 4 ปี ภายใต้อำนาจรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเป็นผู้นำหุ่นเชิดระบอบทักษิณ โดยเฉพาะการที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมดีเอสไอในขณะนั้น พลิกลิ้นกลืนน้ำลายตัวเองด้วยการบิดสำนวนคดีจากหน้ามือเป็นหลังเท้า อ้างว่าไม่มีกองกำลังชุดดำที่สมคบกับม็อบเสื้อแดงร่วมก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมือง ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นในยุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายธาริตคนเดียวกันนี่แหละที่ยืนยันหนักแน่นว่ามีกองกำลังชุดดำอยู่จริง และล่าสุดจากการที่ตำรวจยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำโดย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ว่าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)แถลงผลจับกุม 5 ผู้ก่อการร้ายชุดดำที่ร่วมในเหตุการณ์ยิงถล่มกำลังทหารที่รักษาความสงบอยู่บริเวณสี่แยกคอกวัวเมื่อวันที่ 10 เม.ย.2553 ถือเป็นการจับโกหกกระบวนการยุติธรรมที่บิดเบือนโดยรัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณ ซึ่งจะต้องมีการรื้อสำนวนคดีใหม่ทั้งหมดเพื่อทำความจริง ให้ปรากฏ

นายถาวร เสนเนียม อดีตแกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุข (กปปส.) เรียกร้องให้กรมดีเอสไอยุคคสช.ที่มี พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร เป็น อธิบดีกรมดีเอสไอ ต้องรื้อคดีก่อการร้ายเผาเมืองปี 2553 ขึ้นมาสอบสวนใหม่ทั้งหมดโดยร่วมมือกับ พล.ต.อ.สมยศ และ นายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด คนปัจจุบันที่แต่งตั้งโดยคสช.เพราะปรากฏความจริงใหม่แล้วว่ามีกองกำลังชุดดำอยู่จริง ไม่ใช่การบิดเบือนสำนวนคดีว่าไม่มีกองกำลังชุดดำโดยดีเอสไอยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์

ในเหตุการณ์ก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเมื่อปี 2553นั้นเป็นการสร้างสถานการณ์ของขบวนการระบอบทักษิณเพื่อช่วงชิงอำนาจรัฐหวังเปลี่ยนแปลงประเทศโดยอาศัยแก้ว 3 ประการ เป็นเครื่องมือประกอบด้วย พรรคการเมืองในระบอบทักษิณ มวลชนคือม็อบเสื้อแดง และกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งก็คือกองกำลังก่อการร้ายทั้งที่ใส่ชุดดำและไม่ได้ใส่ชุดดำ

การสร้างสถานการณ์เพื่อชิงอำนาจรัฐล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ โดยม็อบเสื้อแดงเริ่มก่อตัวมาตั้งแต่ปี 2552 ด้วยการก่อจลาจลทั่วกทม.และบุกล้มการประชุมสุดยอดผู้นำชาติอาเซียนและผู้นำชาติมหาอำนาจคู่เจรจาที่พัทยา แต่แผนการร้ายครั้งนั้นล้มเหลวเพราะรัฐบาลอภิสิทธิ์ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ จนปีถัดมาขบวนการระบอบทักษิณปฏิบัติการก่อการร้ายเพื่อช่วงชิงอำนาจรัฐขั้นแตกหักอีกครั้ง โดยใช้กองกำลังก่อการร้ายใต้ดินลอบก่อวินาศกรรมและก่อเหตุร้ายตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในกทม.และปริมณฑลแทบจะรายวัน ก่อนที่จะม็อบเสื้อแดงจะรุกคืบยึดย่านราชประสงค์เป็นที่ชุมนุมโดยเคลื่อนไหวคู่ขนานกับกองกำลังก่อการร้าย ซึ่งส่วนหนึ่งก็คือกลุ่มก่อการร้ายชุดดำที่พยายามสร้างสถานการณ์ให้เกิดสงครามกลางเมืองนองเลือดหวังจนนำไปสู่การเปลี่ยแปลงประเทศจากสงครามประชาชน

แผนก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองปี 2553 ไม่ใช่การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอย่างที่อ้าง แต่เป็นการก่อการร้ายเพื่อช่วงชิงอำนจรัฐหวังฟื้นระบอบทักษิณกลับมามีอำนาจยึดครองประเทศอีกครั้ง โดยไม่คำนึงถึงกลียุคมิคสัญญีที่สร้างความหายนะแก่ชาติบ้านเมือง

เพราะฉะนั้นคดีก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองที่ถูกบิดเบือนมานานเกือบ 4 ปี จึงต้องทำความจริงให้ปรากฏและนำตัวขบวนการอันเลวร้ายที่ทำผิดกฎหมายมาลงโทษให้ได้โดยเฉพาะตัวจอมบงการและเหล่าแกนนำ

ทีมข่าวการเมือง