รัฐบาลเฉพาะกาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)และนายกรัฐมนตรี ถูกจ้องจับผิดและเฝ้าจับตาทั้งจากกลุ่มที่ต่อต้านคสช.โดยเฉพาะเครือข่ายระบอบทักษิณ รวมทั้งสื่อทันทีที่เข้ามาบริหารประเทศอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางข่าวอื้อฉาวเรื่องการจัดซื้อไมโครโฟนที่ติดตั้งในห้องประชุมคณะรัฐมนตรีที่แพงเกินเหตุจนกลายเป็นรอยด่างและการเริ่มต้นที่ไม่ดีนักสำหรับคณะรัฐมนตรีประยุทธ์ 1
กรณีอื้อฉาวเรื่องไมโครโฟนราคามหาแพงจนถูกเรียกว่าเป็น “ไมโครโฟนเทวดา” ที่ติดตั้งในห้องประชุมคณะรัฐมนตรีประยุทธ์ 1 จำนวน 181 ตัว มูลค่าราว 26 ล้านบาท รวมทั้งอุปกรณ์อื่นๆ อีกหลายอย่างซึ่งดำเนินการโดยกรมโยธาธิการและผังเมืองและฝ่ายการคลังของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีทำให้รัฐบาลประยุทธ์ 1 ตกเป็นเป้าถูกวิพากษ์วิจารณ์ท่ามกลางข้อเคลือบแคลงของสังคม ซึ่งเหตุการณ์อื้อฉาวที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องเล็ก และแม้จะมีการลดราคาไมโครโฟนเทวดาจากเดิมสูงถึงตัวละ 145,000 บาท เหลือ 90,000 กว่าบาท แต่ก็ไม่สามารถลบข้อครหาเพราะส่อเจตนาไม่โปร่งใสซึ่งขัดกับนโยบายสำคัญของรัฐบาลประยุทธ์ 1 ที่ชูเรื่องการขจัดทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นวาระแห่งชาติ
กรณีอื้อฉาวที่เกิดขึ้นรัฐบาลประยุทธ์ 1 ต้องรีบทำความจริงให้ปรากฏและต้องมีผู้รับผิดชอบก่อนที่ปัญหาจะลุกลามบานปลาย เพราะข่าวอื้อฉาวที่เกิดขึ้นถูกฝ่ายที่ต่อต้านคสช.คือเหล่าเครือข่ายระบอบทักษิณฉวยโอกาสนำไปขยายผลเพื่อบ่อนทำลายคสช. เพราะรู้ว่าปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นประเด็นสำคัญและอ่อนไหวที่ทำให้ทุกรัฐบาลมีอันเป็นไปมานักต่อนัก
ขณะเดียวกันรัฐบาลประยุทธ์ 1 ยังถูกเฝ้าจับตาในเรื่องผลงานการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและพืชผลการเกษตรหลายชนิดที่ราคายังตกต่ำโดยเฉพาะยางพารา และข้าว ตลอดจนภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงซบเซาซึ่งหากภาวะเช่นนี้ยังดำเนินต่อไปก็อาจสั่นคลอนวิกฤติศรัทธาของประชาชนทั้งต่อคสช.และรัฐบาลประยุทธ์ 1
ขณะที่รัฐบาลประยุทธ์ 1 ต้องเดินหน้าแก้ปัญหาของประเทศยังต้องเผชิญกับการบ่อนทำลายทุกรูปแบบจากเครือข่ายระบอบทักษิณที่นับวันจะเข้มข้นท้าทายมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งขบวนการในและนอกประเทศ โดยช่วงหลังแกนนำพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงไม่ว่าจะเป็น นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯและ อดีตรมว.ต่างประเทศ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรมว.ศึกษาธิการ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานคนเสื้อแดง รวมทั้งบรรดาสส.พรรคเพื่อไทย ต่างกล้าออกมาวิพากษ์วิจารณ์คสช.และรัฐบาลประยุทธ์ 1 อย่างไม่เกรงกลัวอำนาจเหมือนในช่วงแรกที่คสช.ยึดอำนาจการบริหารประเทศใหม่ๆ
ขณะเดียวกันเครือข่ายระบอบทักษิณยังพยายามก่อคลื่นใต้น้ำสร้างแรงกระเพื่อมบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูงและคสช.อย่างต่อเนื่องผ่านโซเชียลมีเดีย ขณะที่ขบวนการระบอบทักษิณที่นำโดย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายจักรภพ เพ็ญแข นายสุนัย จุลพงศธร นางกริชสุดา คุณะแสน ที่หลบหนีหมายจับเคลื่อนไหวอยู่นอกประเทศพยายามปลุกระดมคนไทยในประเทศต่างๆ รวมทั้งชักศึกเข้าบ้านด้วยการพยายามร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน และสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ตลอดจนกลุ่มประเทศตะวันตกให้ต่อต้านคสช.
ขณะเดียวกันก็พยายามเดินเกมเสี้ยมให้เกิดความแตกแยกหวาดระแวงและสร้างข่าวที่สับสนบ่อนทำลายเสถียรภาพของประเทศ อาทิ กรณีนายวรชัย เหมะ อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย พยายามปล่อยข่าวอ้างว่า ผู้มีบารมีขัดแย้งอย่างหนักกับคสช.ถึงกับมีแผนที่จะล้มคสช.และรัฐบาลประยุทธ์ 1
แผนบ่อนทำลายล้มคสช.และรัฐบาลประยุทธ์ 1ของระบอบทักษิณก็เพื่อหยุดยั้งการปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่และพลิกสถานการณ์ให้ระบอบทักษิณมีโอกาสฟื้นคืนชีพกลับมามีอำนาจยึดครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดอีกครั้ง
นอกจากศึกภายนอกที่รุมเร้ากดดันแล้วสิ่งที่คสช.และรัฐบาลประยุทธ์ 1 ต้องระวังก็คือ การวางยาหรือก่อปัญหาจากบรรดาข้าราชการประจำ ทั้งนี้เนื่องจากยังมีข้าราชการประจำที่เป็นทาสรับใช้ระบอบทักษิณอีกจำนวนไม่น้อยที่ทำทีเป็นแกล้งตายและฝังตัวอยู่ในแทบทุกหน่วยราชการโดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)
กระทรวงมหาดไทย
การบริหารประเทศของรัฐบาลประยุทธ์ 1 ท่ามกลางเส้นทางวิบากอันท้าทายซึ่งเวลาและผลงานจะเป็นบทพิสูจน์ชี้ขาดว่า รัฐบาลเฉพาะกาลซึ่งเป็นเงาของคสช.ชุดนี้จะสามารถฝ่าฟันสารพัดมรสุมที่รุมเร้าไปสู่เป้าหมายการปฏิรูปประเทศได้หรือไม่ โดยเฉพาะปัญหาที่อ่อนไหวอันตรายที่สุดก็คือปมทุจริตคอร์รัปชั่นซึ่งหากเกิดขึ้นนั่นหมายถึงการรัฐประหารโดยคสช.เพื่อปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่คงล้มเหลวเสียของและอาจเป็นชนวนนำประเทศไปสู่วิกฤติรอบใหม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี