การที่ 60 นักวิชาการเข้าชื่อค้านคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)กรณีที่กำลังตำรวจและทหารบุกระงับการเสวนาที่อ้างว่าเป็นเรื่องทางวิชาการที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิตเมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมาโดยมีการควบคุมตัวนายนิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการอิสระ และนักวิชาการบางคนรวมทั้งแกนนำนักศึกษากลุ่มหนึ่งถือเป็นการคุกคามสิทธิเสรีภาพทางวิชาการอย่างชัดเจนและเป็นการกระทำที่ยอมรับไม่ได้อย่างยิ่ง กลายเป็นประเด็นทางการเมืองที่ถูกจับตาว่าจะลุกลามบานปลายไปหรือไม่แค่ไหน
การออกมาเคลื่อนไหวประท้วงคสช.ของกลุ่มนักวิชาการครั้งนี้อาจจะไมใช่เรื่องแปลกเพราะส่วนใหญ่รวมทั้ง นายนิธิ ถูกตั้งข้อสังเกตุว่าล้วนคนหน้าเดิมและมีภาพความเป็นนักวิชาการเสื้อแดงที่สนับสนุนระบอบทักษิณ
ที่ผ่านมาเป็นที่รู้กันอยู่ว่ามีการอาศัยข้ออ้างการเสวนาทางวิชาการบังหน้า แต่เป้าหมายที่แท้จริงก็คือใช้วงเสวนาเป็นเครื่องมือปลุกระดมสร้างความแตกแยกในชาติและบางครั้งมีการพาดพิงไปถึงสถาบันเบื้องสูง
ข้อน่าสังเกตุก็คือทำไมต้องจัดเสวนาทั้งๆที่รู้อยู่ว่าบ้านเมืองอยู่ในภาวะไม่ปกติต้องการความสงบเรียบร้อย และอยู่ระหว่างการประกาศใช้กฏอัยการศึกที่ห้ามชุมนุมเกินกว่า 5 คนเพื่อเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่ก็ยังดันทุรังจัดเสวนา จึงถูกตั้งคำถามและข้อสังเกตุว่าอาจเป็นหลุมพรางทางการเมืองที่ต้องการยั่วยุท้าทายอำนาจคสช. เพื่อให้จับกุม แล้วใช้เป็นข้ออ้างสุมไฟให้ลุกลามใหย่โตเกิดกระแสต่อต้านเผด็จการและเชิดชูประชาธิปไตยในวงกว้างทั้งในและนอกประเทศ
ทั้งนี้หากยอมให้มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองโดยอ้างเรื่องวิชาการบังหน้าในลักษณะนี้ก็เท่ากับคสช.และกฏอัยการศึกไร้ความหมาย และจะเป็นแบบอย่างให้กลุ่มการเมืองอื่นๆใช้เป็นข้ออ้างออกมาเคลื่อนไหวบ้างเพื่อความเท่าเทียม ซึ่งหากเป็นอย่างนี้บ้านเมืองก็คงเต็มไปด้วยความระส่ำระสายอันเป็นอุปสรรคต่อการเดินหน้าปฏิรูปประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. และล่าสุด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม พยายามทำความเข้าใจและผ่อนปรนโดยไม่อยากใช้กฏอัยการศึกอย่างเต็มรูปแบบ โดยหากบริสุทธิ์ใจและเป็นการเสวนาทางวิชาการจริงก็ควรทำเรื่องขออนุญาตมายังคสช.ซึ่งคสช.จะพิจารณาความเหมาะสมเป็นรายกรณีไป ไม่ใช่จู่ๆก็จัดเสวนาตามใจชอบ
โดยไม่รับอนุญาตและฝ่าฝืนกฏอัยการศึก ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็จำเป็นต้องรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของกฏหมาย
และช่างเผอิญการเคลื่อนไหวของนักวิชาการหน้าเดิมถูกมองว่าสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของเครือข่ายระบอบทักษิณนอกประเทศไม่ว่าจะเป็น นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ นายสุนัย จุลพงศธร นายจักรภพ เพ็ญแข หรือ นางกริชสุดา คุณะเสน ที่ล้วนเป็นผู้ต้องหาหนีหมายจับและพยายามเดินสายปลุกระดมคนไทยในต่างแดนรวมทั้งชักศึกเข้าบ้านยุให้นานาชาติต่อต้านคสช.และรัฐบาลเฉพาะกาล
ดังนั้นจากการเคลื่อนไหวของนักวิชาการกลุ่มนี้ทำให้อดตั้งข้อสงสัยไม่ได้ว่ามีวาระแฝงเร้นกำลังเดินเกมคู่สอดกับแผนบ่อนทำลาย คสช. ขณะเดียวกันหวังปูทางเพื่อฟื้นระบอบทักษิณกลับมามีอำนาจยึดครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดอีกครั้ง
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี