นับเป็นความคืบหน้าที่ต้องจับตาเป็นอย่างยิ่งเมื่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)มีมติเห็นชอบร่างข้อบังคับการประชุมสนช.ซึ่งประเด็นที่น่าสนใจก็คือไฟเขียวให้มีการถอดถอนนักการเมืองและบุคคลที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ชี้มูลความผิดได้
ผลจากการเห็นชอบร่างข้อบังคับการประชุมสนช.ดังกล่าวต้องจับตาต่อไปว่าสนช.จะหยิบยกเรื่องที่ ป.ป.ช.เคยมีมติให้ถอดถอนนักการเมืองซึ่งคั่งค้างมาจากรัฐสภาชุดที่แล้วขึ้นมาพิจารณาดำเนินการหรือไม่ ประกอบด้วย กรณีถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯในความผิดต่อหน้าที่ปล่อยให้มีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวที่สร้างความเสียหายแก่ประเทศมูลค่ากว่า 5 แสนล้านบาท รวมทั้งกรณีถอดถอนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธาตวุฒิสภา และอดีตงส.ส.ตลอดจนอดีตสมาชิกวุฒิสภา(สว.)รวมประมาณ 310 คนที่เคยรวมหัวกันรวบรัดฉ้อฉลแม้กระทั่งเสียบบัตรแทนกันในการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นที่มาของสว.
เรื่องการถอดถอนออกจากตำแหน่งคงไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไรเพราะบรรดาผู้ที่ถูกยื่นถอดถอนต่างพ้นจากตำแหน่งไปแล้วหลังคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ(คสช.)ยึดอำนาจ
เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่ความสำคัญอยู่ที่ผลข้างเคียงที่ตามมานั่นคือโทษการถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปีหากเสียงส่วนใหญ่ของสนช.มีมติเห็นชอบให้มีการถอดถอน ซึ่งนั่นหมายความว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์และบรรดาอดีต ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลยิ่งลักษณ์และเหล่าสว.ซึ่งเป็นเครือข่ายระบอบทักษิณทั้งหลายจะล่มสลายพากันตายหมู่ทางการเมืองแบบยกก๊วน
แต่ปัญหาก็คือสนช.จะกล้าหยิบยกประเด็นร้อนซึ่งเหมือนระเบิดเวลาลูกใหญ่นี้ขึ้นมาดำเนินการหรือไม่ ซึ่งเมื่อดูจากท่าทีของ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. ออกอาการเหมือนจะลังเลโดยกล่าวว่าเรื่องนี้ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพราะยังมีปัญหาข้อกฏหมาย โดยกรณีการยื่นถอดถอนนักการเมืองเป็นคดีค้างเก่าภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับที่แล้วซึ่งสิ้นสภาพไปแล้วจึงมีปัญหาว่าจะนำกรณีค้างเก่าขึ้นมาพิจารณาได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม สมาชิกสนช.จำนวนไม่น้อยซึ่งเป็นสว.ชุดที่แล้ว อาทิ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม นายสมชาย แสวงการ นายตวง อันทะชัย เรียกร้องให้หยิบยกกรณีการถอดถอนค้างเก่าขึ้นมาดำเนินการต่อไปให้เสร็จสิ้นเพราะแม้รัฐธรรมนูญฉบับที่แล้วจะสิ้นสภาพไปพร้อมกับรัฐสภาแต่รัฐธรรมนูญชั่วคราวมาตรา 6 บัญญัติให้สนช.ทำหน้าที่แทนสภาผู้แทนราษฏรและวุฒิสภาจึงมีอำนาจที่จะนำเรื่องค้างเก่าขึ้นมาพิจารณาได้โดยใช้เสียง 3 ใน 5 ในการลงมติถอดถอน
บรรดานักการเมืองเครือข่ายระบอบทักษิณที่ถูกยื่นถอดถอนนั้นในยุคที่ตัวเองมีอำนาจใช้ความเป็นเผด็จการเสียงข้างมากในคราบประชาธิปไตยก่อกรรมทำสิ่งเลวร้ายสารพัดต่อชาติบ้านเมืองตามอำเภอใจโดยไม่คำนึงถึงหลักนิติรัฐและความถูกต้องชอบธรรมใดๆทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นน่าจะถึงเวลาที่ขบวนการอันเลวร้ายเควรจะชดใช้กรรม ไม่ควรปล่อยให้ลอยนวลเย้ยกฏแห่งกรรมและความถูกต้อง ตลอดจนมีโอกาสก่อกรรมทำเข็ญให้ชาติบ้านเมืองอีก
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี