พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีนายเอกภพ เหลือรา หรือ “ตั้ง อาชีวะ” ผู้ต้องหาหนีหมายจับคดีหมิ่นเบื้องสูงและคดีไม่มารายงานตัวตามคำสั่งคสช.ซึ่งมีข่าวขอลี้ภัยการเมืองในกัมพูชาว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานกับทางการกัมพูชาเพื่อกลับมาดำเนินคดีในไทย ส่วนจะได้ตัวหรือไม่ต้องไปถามฝ่ายกัมพูชา
หลังการรัฐประหารของคสช.เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ทางการกัมพูชาโดยเฉพาะ สมเด็จฮุนเซ็น นายกฯ กัมพูชา เป็นผู้นำประเทศเพื่อนบ้านของไทยชาติแรกๆ ที่แสดงจุดยืนสนับสนุนและพร้อมร่วมมือกับคสช.ในทุกด้าน และที่สำคัญผู้นำกัมพูชาประกาศชัดเจนแสดงท่าทีตัดเยื่อใยระบอบทักษิณที่เคยมีความสัมพันธ์กับระบอบฮุนเซ็นอย่างแนบแน่น โดยย้ำว่าจะไม่ยอมให้ขบวนการระบอบทักษิณหรือกลุ่มการเมืองใดก็ตามเข้ามาใช้กัมพูชาเป็นแหล่งเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างเด็ดขาด
นอกจากนี้กัมพูชายังส่งตัวแทนรัฐบาลกัมพูชานำทีมโดย พล.อ.เตีย บันห์ รองนายกฯและรมว.กลาโหม รวมทั้ง พล.ท.ฮุน มาเน็ต ผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งเป็นบุตรชายและทายาททางการเมืองของ สมเด็จฮุนเซ็น ในอนาคตเดินทางมาเยือนไทยและพบกับ พล.อ.ประยุทธ์ อันเป็นการให้การรับรองสถานะและกระชับความสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่าง คสช.กัมพูชา ขณะที่ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกฯและรมว.ต่างประเทศ ก็นำคณะไปเยือนกัมพูชาก่อนหน้านี้โดยได้พบกับสมเด็จฮุนเซ็น ซึ่งมีข่าวว่าตัวแทนฝ่ายไทยได้ทวงถามกรณี นายเอกภพ ด้วย
นายเอกภพ นั้นกล่าวจาบจ้างสถาบันเบื้องสูงอย่างเหิมเกริมบนเวทีคนเสื้อแดงที่มีรัฐมนตรีและแกนนำพรรคเพื่อไทยร่วมอยู่แล้วจนถูกประชาชนแจ้งความทำให้ นายเอกภพ หนีหมายจับออกนอกประเทศไปกบดานอยู่ที่เมืองสีหนุวิลล์ของกัมพูชามาตั้งแต่ก่อนการรัฐประหารของคสช. ขณะที่ระบอบทักษิณเดินเกมทำทุกวิถีทางช่วยเหลือ นายเอกภพ ทั้งในเรื่องท่อน้ำเลี้ยงให้อยู่อย่างสุขสบายในกัมพูชา และล่าสุดมีการประสานไปยังสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอชซีอาร์ให้เข้าไปช่วยเหลือ นายเอกภพ เพื่อให้ได้ลี้ภัยทางการเมือง
สำหรับกัมพูชาภายใต้ระบอบฮุนเซ็นนั้นถูกมองว่ากะล่อนปลิ้นปล้อนซ่อนสารพัดเล่ห์เพทุบายและเล่นบทตีสองหน้ามาตลอด โดยก่อนหน้านี้เป็นที่รู้กันว่าระบอบฮุนเซ็นมีสัมพันธ์แนบแน่นกับระบอบทักษิณถึงขนาดสาบานเป็นพี่น้องกันและยอมให้เครือข่ายคนเสื้อแดงและกองกำลังก่อการร้ายระบอบทักษิณใช้กัมพูชาเป็นแหล่งเคลื่อนไหวทางการเมือง
แต่หลังจากที่ คสช.ยึดอำนาจ ระบอบฮุนเซ็นกลับเปลี่ยนจุดยืนจากหน้ามือเป็นหลังเท้าโดยตัดเยื่อใยระบอบทักษิณแล้วหันมาสนับสนุนคสช.แทน
เพราะฉะนั้นเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันแล้วว่ากำลังรอคำตอบจากกัมพูชาในกรณีของ “ตั้ง อาชีวะ” เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จะเป็นการวัดใจพิสูจน์ธาตุแท้ของสมเด็จฮุนเซ็นว่าจริงใจร่วมมือกับทางการไทยด้วยการยอมให้มีการส่งตัวนายเอกภพซึ่งเป็นผู้ต้องหาหมิ่นเบื้องสูงและหนีรายงานตัวตามคำสั่งคสช.กลับมาดำเนินคดีในไทยตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี