เชื้อร้ายขบวนการมหากาพย์โคตรโกงโครงการรับจำนำข้าวยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังไม่ตายพยายามดิ้นรนเพื่อที่จะหนีโทษความผิดและปกปิดความชั่วร้ายของขบวนการโกงชาติปล้นแผ่นดินที่สร้างความพินาศล่มจมให้ประเทศครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์มูลค่ากว่า 7 แสนล้านบาท
ขณะที่ขบวนการถอดถอนและดำเนินคดีกับขบวนการโคตรโกงเดินหน้าใกล้จะถึงจุดไคลแม็กซ์เข้าไปทุกขณะเพื่อสาวลึกลากตัวขบวนการปล้นแผ่นดินมาลงโทษอย่างสาสมไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง แต่ผู้บริหารหน่วยราชการบางแห่งกลับทำตัวพิรุธโดยพยายามปิดบังอำพรางไม่ยอมเปิดเผยความจริงอันชั่วร้ายยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์
ล่าสุด นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว
ยอมรับว่า อนุกรรมการฯไม่สามารถปิดบัญชีความเสียหายของโครงการรับจำนำข้าวได้เสร็จตามที่ตั้งเป้าไว้เพราะองค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ส่งตัวเลขข้าวที่เหลือในสต๊อกให้ไม่ครบแม้จะขยายเวลามาหลายครั้ง ขณะที่มีรายงานข่าวว่า นายรังสรรค์ ได้รายงานปัญหาที่เกิดขึ้นไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ หัวหน้าคสช. เพื่อให้พิจารณาดำเนินการแล้ว
ก่อนหน้านี้ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ อดีตรองปลัดกระทรวงการคลัง และเป็นอดีตประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นข้าราชการจอมตงฉินเคยชี้ผลขาดทุนเบื้องต้นในโครงการรับจำนำข้าวว่ามีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 3.3 แสนล้านบาท ในขณะนั้น และมีข้าวสารหายไปกว่า 2 ล้านตัน จน น.ส.สุภาถูกกลั่นแกล้งจนขอลาออกจากราชการ และในที่สุดได้รับเลือกเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
จากการที่ไม่สามารถปิดบัญชีผลขาดทุนโครงการรับจำนำข้าวได้ผลที่ตามมาก็คือจะทำให้คดีที่เกี่ยวข้องกับมหกรรมโคตรโกงโครงการรับจำนำข้าวจะมีปัญหาตามมาเพราะยังไม่สามารถระบุความเสียหายได้
สำหรับคดีมหกรรมโคตรโกงโครงการรับจำนำข้าวนั้นก่อนหน้านี้ ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติส่อเจตนารู้เห็นและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ปล่อยให้เกิดการทุจริตอย่างมโหฬาร ทั้งๆ ที่หลายฝ่ายได้เตือนให้ทบทวนโครงการเพราะมีการทุจริตและสร้างความล่มจมให้ประเทศ แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งเป็นนายกฯหุ่นเชิดกลับเมินและดันทุรังเดินหน้าทุ่มงบประมาณมหาศาลไปกับโครงการ และจากกรณีนี้ป.ป.ช.ยังได้ยื่นเรื่องถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งจะมีผลต่อการถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตามมาในอนาคต
นอกจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ป.ป.ช.ยังชี้มูลความผิด นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ นายยรรยง พวงราช อดีตรมช.พาณิชย์ และแก๊งรวม 100 คนเศษส่อเจตนาสมคบกันทุจริตโครงการรับจำนำข้าวซึ่งในบรรดาตัวการสำคัญที่ถูกชี้มูลความผิดล้วนเป็นผู้ใกล้ชิดหรือเกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคุกคดีทุจริต ไม่โดยทางตรงก็ทางอ้อม
ดังนั้นจากพฤติการณ์แทงกั๊กของผู้บริหารอคส.และอ.ต.ก.ส่อเจตนา ปกปิด เตะถ่วงซื้อเวลา และน่าสงสัยว่าอาจมีส่วนร่วมขบวนการมหกรรมโคตรโกงจำนำข้าวจึงควรย้ายผู้บริหารสองหน่วยงานนี้พ้นจากตำแหน่งโดยด่วนเพื่อไม่ให้เป็นจระเข้ขวางคลองและเปิดทางสะดวกในการค้นหาความจริง ซึ่งสอดคล้องกับข้อเสนอของ ดร.นิพนธ์ พัวพงศธร นักวิชาการเกียรติคุณสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องข้าวที่ให้ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้อำนาจเด็ดขาดจัดการให้มีการเปิดเผยข้อมูลการรับจำนำข้าวออกมาให้ได้โดยไม่ปล่อยให้ขบวนการชั่วร้ายทำลายชาติลอยนวล
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี