มติสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ลงมติด้วยเสียง 175 ต่อ 39 ฉีกหน้านายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองประธานสปช.และตัวเต็งประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญรวมทั้งคณะกรรมการประสานงาน (วิป)สปช.ที่นำโดยนายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตสส. รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อย่างยับเยิน และเป็นจุดเริ่มต้นของรอยร้าวภายใน สปช. ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มการปฏิรูปประเทศที่ส่อเค้าดุเดือดแน่นอน
ท่าที นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสปช. นายบวรศักดิ์ รวมทั้งวิปสปช.ถูกตั้งข้อสังเกตว่ารับธงมาจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่พยายามผลักดันให้มีโควตาคนนอกซึ่งพุ่งเป้าไปที่ตัวแทนกลุ่มการเมืองคู่ขัดแย้งทุกสีพรรคการเมือง 5 คน ร่วมเป็นกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญจากโควตาของสปช.ทั้งหมด 20 คน ภายใต้ธงของคสช.ที่ต้องการโยนหินถามทางตามแผนสร้างความปรองดองโดยเฉพาะกับระบอบทักษิณ
นายบวรศักดิ์อภิปรายอย่างดุเดือดอ้างว่าการที่ต้องการให้คนนอกร่วมเป็นกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญก็เพื่อไม่ให้รัฐธรรมนูญฉบับถาวรที่จะคลอดออกมาถูกตราหน้าว่าเป็นรัฐธรรมนูญของผู้ชนะ ขณะที่ นายอลงกรณ์ ยกเหตุผลไม่อยากให้รัฐธรรมนูญฉบับถาวรถูกครหาว่าเป็นผลพวงจากต้นไม้พิษจากรัฐประหาร
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ทางการเมืองมองว่าการมีตัวแทนพรรคการเมืองร่วมยกร่างรัฐธรรมนูญไม่ได้มีหลักประกันอะไรเลยว่าจะนำไปสู่การปรองดอง เพราะพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ หรือกลุ่มเสื้อแดง ปฏิเสธร่วมขบวนการปฏิรูปประเทศมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว อีกทั้งการสร้างความปรองดองขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายมติ
ความพยายามที่จะสร้างความปรองดองในชาติโดยคสช.ด้วยการเจรจากับระบอบทักษิณนั้นมีข่าวในทางลึกมาตลอดว่า มีการเจรจาเพื่อหย่าศึกกับระบอบทักษิณโดยอยู่ระหว่างการต่อรองเงื่อนไข โดยฝ่ายระบอบทักษิณตั้งข้อเรียกร้อง ว่าหากจะสร้างความปรองดองทุกอย่างต้องนับหนึ่งใหม่ หรือ “Set Zero” ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคุก เคยเรียกร้องมาตลอด นั่นหมายถึงการนิรโทษกรรมไม่มีการยึดทรัพย์ 46,000 ล้านบาท รวมทั้งคดีอื่นทั้งหมดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตลอดจนเหล่าแกนนำเครือข่ายระบอบทักษิณทั้งหลาย ขณะที่ฝ่ายคสช.ต้องการให้เครือญาติตระกูลชินทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ วางมือทางการเมืองรวมทั้งเครือข่ายระบอบทักษิณทั้งหมดโดยเฉพาะกลุ่มเสื้อแดงต้องยุติการเคลื่อนไหวอย่างสิ้นเชิง
ข่าวการเจรจาระหว่างตัวแทนคสช. กับตัวแทนระบอบทักษิณยังดำเนินต่อไปโดยที่แต่ละฝ่ายพยายามสร้างเงื่อนไขกดดันเพื่อสร้างอำนาจต่อรอง ซึ่งการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวรถือเป็นเครื่องมืออันหนึ่งในการกดดันต่อรองของฝ่ายคสช. ซึ่งหากระบอบทักษิณยอมตามเงื่อนไขก็อาจมีการ “Set Zero” และยกเลิกแผนขุดราถอนโคนระบอบทักษิณตามแผนปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่ผ่านร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวร
แต่ปัญหาก็คือแผนการสร้างความปรองดองตามแนวคิดของคสช.กำลังถูกจับตาและเตรียมคัดค้านจากมวลมหาประชาชนฝ่ายที่ต่อต้านระบอบทักษิณ ซึ่งแกนนำของมวลมหาประชาชนหลายคนเป็นสมาชิกสปช. ซึ่งจากมติสปช.ที่ล้มแผนตั้งกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญจากคนนอกเพื่อนำไปสู่การสร้างความปรองดองถือเป็นสัญญาณเริ่มต้นที่ชี้ให้เห็นถึงรอยร้าวในสปช.ระหว่างกลุ่มสปช.ที่เป็นร่างทรงของคสช.กับสปช.ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับการปรองดองอันเป็นการทำลายหลักนิติรัฐและปล่อยให้ขบวนการอันชั่วร้ายที่เป็นต้นตอสร้างความพินาศล่มจมให้ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ลอยนวล โดยต้องการให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวรเป็นเครื่องมือขุดรากถอนโคนระบอบทักษิณอันเป็นตัวแทนธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ในคราบประชาธิปไตยอย่างจริงจัง ซึ่งจากรอยร้าวในสปช.เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าการยกร่างรัฐธรรมนูญเพื่อปฏิรูปครั้งใหญ่มีสิทธิล่มและเสียงของหากยังมีความพยายามที่จะปรองดองแบบยื่นหมูยื่นแมวกับระบอบทักษิณ
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี