สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ได้ฤกษ์ชี้ชะตาถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิดฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ส่อรู้เห็นเป็นใจกับมหกรรมโคตรโกงโครงการรับจำนำข้าวเสียที โดย นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. บรรจุเรื่องเข้าสู่การประชุมสนช. วันที่ 12 พ.ย.นี้ หลังได้รับเรื่องขอให้ถอดถอนจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)
แม้ผลถอดถอนจะไม่มีผลต่อตำแหน่งทางการเมืองของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่ประเด็นอยู่ที่ผลซึ่งจะตามมาหากถูกถอดถอน
นั่นคือถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี และที่สำคัญกว่านั้นรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวได้บัญญัติกรอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวรไว้ในมาตรา 35 ว่าผู้ที่เคยถูกถอดถอนหรือถูกดำเนินคดีทุจริตหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบจะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองไปตลอดชีวิต
สำหรับปัญหาในเรื่องข้อกฎหมายที่บางฝ่ายพยายามอ้างว่า รัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 สิ้นสภาพไปแล้วจากการยึดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เพราะฉะนั้นการถอดถอนจึงสิ้นสภาพไปด้วย ทั้งๆ ที่ความจริงความผิดสำเร็จแล้วตั้งแต่ก่อนมีการยึดอำนาจโดยคสช.ดังนั้นจึงต้องดำเนินการไปตามกระบวนการจนได้ข้อยุติ และแม้รัฐธรรมนูญปี 2550 จะสิ้นสภาพก็ไม่มีผลต่อกระบวนการถอดถอนอยู่ดีเพราะคำร้องให้ยื่นถอดถอนของป.ป.ช.นอกจากอ้างอิงรัฐธรรมนูญปี 2550 แล้วระบุความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตามพ.ร.บ.บริหารราชการแผ่นดินและพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการปราบปรามการทุจริตซึ่งไม่ได้
สิ้นสภาพจากการรัฐประหาร อีกทั้งยังมีคำสั่งของคสช.ที่ให้พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญทั้งหลายยังคงมีผลบังคับใช้
ซึ่งยิ่งช่วยตอกฝาโลงฝัง น.ส.ยิ่งลักษณ์
ส่วนที่ นายสมชาย แสวงการ สมาชิกสนช. เกรงว่าสนช.จะไม่สามารถถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ เนื่องจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ เมื่อครั้งนั่งเก้าอี้นายกฯซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ(กขช.)โดยตำแหน่งใช้เล่ห์ศรีธนญชัยไม่ร่วมประชุมกขช.แม้แต่ครั้งเดียวเพื่อใช้เป็นข้ออ้างหนีความรับผิดชอบจากมหกรรมโกงชาติปล้นแผ่นดินในโครงการรับจำนำข้าวที่สร้างความล่มจมให้ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์นั้น ประเด็นเรื่องนี้ไม่น่าจะมีปัญหาเพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะนายกฯถึงอย่างไรไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้อยู่แล้ว อีกทั้งน.ส.ยิ่งลักษณ์ เองให้สัมภาษณ์หลายครั้งที่แสดงให้เห็นว่ารับรู้การประชุม กขช.มาตลอด และที่สำคัญหลายฝ่ายแม้แต่หน่วยราชการคือกระทรวงการคลัง และสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเคยมีหนังสืออย่างเป็นทางการเตือน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้ทบทวนโครงการเพราะมีการทุจริตและจะสร้างความล่มจมต่อฐานะการคลังของประเทศ ขณะที่มีชาวนาฆ่าตัวตายไปกว่า 10 ราย จากพิษโครงการรับจำนำข้าว แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับเมินและดันทุรังเดินหน้าละเลงงบแผ่นดินมหาศาลซึ่งมาจากการก่อหนี้ต่อไปโดยไม่แคร์คำเตือนใดๆ ทั้งสิ้น
ผลงานอัปยศทำลายชาติจากพิษโครงการรับจำนำข้าวยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ถูกประจานตอกย้ำโดย นายสมหมาย ภาษี
รมว.คลัง ที่ชี้มูลค่าความเสียหายสูงถึงราว 7 แสนล้านบาท ซึ่งคนรุ่นต่อไปต้องแบกภาระใช้หนี้อีกกว่า 30 ปีถึงจะหมด
สำหรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กรรมเป็นเครื่องบ่งชี้เจตนา เพราะฉะนั้นคงต้องวัดใจสนช.ในการประชุมวันที่ 12 พ.ย.นี้ จะกล้าลงดาบเชือด น.ส.ยิ่งลักษณ์ หรือจะยื้อเกมส่อเป้าหมายแอบแฝงเหมือนกรณีถอดถอนสองทาสรับใช้ระบอบทักษิณคือ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา และ นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภาฐานฉ้อฉลหักดิบผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาสมาชิกวุฒิสภา(สว.)โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี