ขณะที่ความจริงหายนะล่มจมของมหกรรมโกงชาติปล้นแผ่นดินครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์จากโครงการรับจำนำข้าวนับวันถูกตีแผ่มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการแถลงอย่างเป็นทางการของนายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวที่ชี้ว่าโครงการรับจำนำข้าวตั้งแต่ยุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคุกผู้พี่มาจนถึงรัฐบาลนังดอกไม้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯผู้น้องสร้างความวิบัติล่มจมให้เป็นประเทศด้วยทุ่มงบแผ่นดินและก่อหนี้ก้อนมหึมารวมถึง 1.1 ล้านล้านบาท และขาดทุนเบื้องต้นเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 6.82 แสนล้านบาทโดยเฉพาะในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์แค่ 3 ปี กู้หนี้ทำชาติขาดทุนป่นปี้จากโครงการรับจำนำข้าวถึง 5.19 ล้านบาท ซึ่งหนี้ทั้งหมดประชาชนทุกคนต้องแบกภาระใช้หนี้ไปอีกกว่า 30 ปีถึงจะใช้หนี้หมด และที่สุดชั่วร้ายก็คือขณะที่ชาติหายนะล่มจม แต่แก๊งระบอบทักษิณเพียงไม่กี่คนร่ำรวยมหาศาล
ทั้งที่ทำลายประเทศจนย่อยยับขนาดนี้ แต่บรรดาสาวกแม้วทั้งหลายยังมีหน้าออกมาตะแบงบิดเบือนจากดำเป็นขาวจากขาวเป็นดำหวังกลบเกลื่อนความเลวร้ายของโครงการรับจำนำข้าวภายใต้การบริหารของสองอดีตนายกฯตระกูลชินผู้อื้อฉาว ทำให้นึกถึงพุทธพจน์ท่ีว่า คนที่โกหกไม่ทำชั่วเป็นไม่มี
อย่าง นายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาบิดเบือนประเด็นอ้างว่ายุครัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์สร้างความหายนะให้ประเทศมากกว่าโครงการรับจำนำข้าวยุค“ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์”เสียอีกกรณีองค์กรเพื่อการปฏิรูปสถาบันการเงิน(ปรส.) ทั้งๆ ที่ความจริง ปรส.ตั้งขึ้นมาหลังจากประเทศล่มจมจากวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้งยุครัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกฯและมีรองนายกฯที่กำกับดูแลด้านเศรษฐกิจที่ชื่อพ.ต.ท.ทักษิณ โดยที่รัฐบาลชุดต่อมาคือรัฐบาลนายชวน หลีกภัย ต้องรับภาระเช็ดสิ่งปฏิกูลที่ “บิ๊กจิ๋ว”กับ“แม้ว” ทิ้งเรี่ยราดไว้
การแก้ตัวของ นายพานทองแท้ จึงเหมือนประจานตัวเองด้วยวิธีการกลบเกลื่อนว่า “ถ้าข้าชั่วเองก็เลว”
นอกจากนี้เหล่ารัฐมนตรีสาวกระบอบแม้วยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ทั้งหลายแทนที่จะสำนึกในกรรมที่ก่อไว้กลับยังดาหน้าออกมาบิดเบือนลวงโลกไม่ว่าจะเป็น นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯและอดีตรมว.คลัง“จอมไวท์ไล” นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกฯและอดีตรมว.พาณิชย์ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ และบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทยอีกหลายคนพยายามชักแม่น้ำทั้ง 5 โกหกแบบน้ำขุ่น โดยมีเป้าหมายคือกลบเกลื่อนสิ่งเลวร้ายจากโครงการรับจำนำข้าวโดยอดีตนายกฯสองพี่น้องตระกูลชิน
โดยเฉพาะ นายกิตติรัตน์ ยังพยายามไวท์ไลแต่ไม่เนียนและคงลืมไปว่ากระทรวงการคลังยุคนายกิตติรัตน์ กำกับดูแลเคยเตือน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้ทบทวนวิธีการรับจำนำข้าวเพราะรัฐบาลหมดตูดกู้จนชนเพดานไม่มีเงินจ่ายค่าจำนำข้าวให้ชาวนาแล้ว แต่นายกฯนังดอกไม้ไม่แยแสความหายนะล่มจมของชาติด้วยการหาช่องกู้แบบไม่อั้นเพื่อเดินหน้าโครงการตามใบสั่งพี่ชาย
นอกจากนี้เหล่าสาวกระบอบทักษิณยังพยายามบิดเบือนแบบลามปามมั่วซั่วอ้างว่ายุครัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ก็ดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเหมือนกันทั้งๆ ที่ความจริงยุครัฐบาล“ป๋าเปรม”นั้นจำนำข้าวอย่างตรงไปตรงมาโดยยึดประโยชน์ของชาวนาและประเทศชาติเป็นที่ตั้ง ด้วยการรับซื้อข้าวในราคาต่ำกว่าราคาตลาด แต่ยุครัฐบาลทักษิณและรัฐบาลยิ่งลักษณ์รับซื้อข้าวในราคาสูงกว่าตลาดกว่าเท่าตัวซึ่งผิดหลักการรับจำนำอย่างสิ้นเชิงและเปิดช่องให้มีการทุจริตมโหฬารจากส่วนต่างราคา
เพราะฉะนั้นเหล่าทาสรับใช้ระบอบทักษิณทั้งหลายหยุดบิดเบือนกลบเกลื่อนความเน่าเฟะของโครงการรับจำนำข้าวเสียที เพราะความจริงยังไงก็เป็นความจริงวันยังค่ำและถ้าสังเกตดูจะพบว่าเหล่าสาวกระบอบแม้วไม่เคยตอบคำถามชัดๆ เลยว่า ไม่ได้เกิดความหายนะล่มจมและไม่มีการโกงชาติปล้นแผ่นดินจากโครงการรับจำนำข้าว
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี