คดีเอาผิดอดีตนายกฯ หุ่นเชิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ฐานส่อรู้เห็นเป็นใจปล่อยให้เกิดมหกรรมโกงชาติปล้นแผ่นดินโครงการรับจำนำข้าวสุดอื้อฉาวที่ยืดเยื้อมานานหลายเดือนจากการส่อเจตนาเล่นเกมยึกยักของสำนักงานอัยการสูงสุด(อสส.)ได้มาถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่ต้องจับตาอีกครั้งเมื่อล่าสุด นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ออกมาประกาศจุดยืนของ ป.ป.ช.
คำประกาศของประธานป.ป.ช.มีสาระสำคัญใน 2 ประเด็นคือ 1. ป.ป.ช.จะไม่สอบพยานบุคคลเพิ่มตามข้อเสนอของอสส.ที่ส่อเจตนายื้อเกมเตะถ่วง เพราะที่ผ่านมามีการสอบพยานเพิ่มตามคำขอของทีมทนายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มามากพอแล้ว แต่ก็ยินดีส่งเอกสารที่อสส.ร้องขอมา อาทิ ข้อมูลการอภิปรายไม่วางใจของพรรคประชาธิปัตย์กรณีโครงการรับจำนำข้าวในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ งานวิจัยของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ) และ 2.มีการนัดประชุมระหว่าง ป.ป.ช.กับอสส.ครั้งหน้าวันที่ 16 ธ.ค. ซึ่งจะได้รู้ดำรู้แดงกันเสียทีว่า อสส.จะเอาไงกันแน่ จะยึกยักเตะถ่วงหรือจะยื่นฟ้องโทษทางอาญา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ซึ่งอย่างหลังคงเป็นไปได้ยาก เพราะ นายวุฒิพงศ์ วิบูลย์วงศ์ รองอสส.ในฐานะหัวหน้าทีมสำนักงานอสส.ที่ประชุมร่วมกับป.ป.ช. แสดงท่าทีส่อเตะถ่วงและดักคอ ป.ป.ช.ว่า ตราบใดที่ อสส.กับป.ป.ช.ยังตกลงกันไม่ได้ ป.ป.ช.จะฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเองไม่ได้ ซึ่งนี่ก็คือเล่ห์ศรีธนญชัยของสำนักงานทนายแผ่นดินที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นสำนักงานทนายตระกูลชินที่หาช่องกฎหมายเพื่อทำให้ ป.ป.ช.ไม่สามารถฟ้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเองได้ ตราบใดที่ยังไม่มีมติร่วมกันระหว่างคณะทำงานฝ่าย ป.ป.ช.และสำนักงานอสส.อย่างเป็นทางการว่า ไม่สามารถตกลงกันได้
คดีอื้อฉาวโครงการรับจำนำข้าวนอกจากจะสร้างความล่มจมให้ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์โดยเฉพาะในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ก่อหนี้ให้ประเทศเพื่อละเลงไปกับโครงการรับจำนำข้าวเกือบ 1 ล้านล้านบาท ในช่วงระยะเวลาเพียง 3 ปี โดยมีผลขาดทุนถึง 5.19 แสนล้านบาท และที่เลวร้ายคือมีการทุจริตอย่างมโหฬารคาดว่าเป็นมูลค่าหลายแสนล้านบาทเข้ากระเป๋าสร้างความร่ำรวยให้กับใครบางคนท่ามกลางความวิบัติของชาติ
แต่ข้อน่าเคลือบแคลงก็คือคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ(คสช.)ซึ่งมีอำนาจพิเศษอยู่ในมือและมีโยบายขจัดการทุจริตคอร์รัปชั่นซึ่งเป็นหนึ่งในประเด็นหลักของการปฏิรูปประเทศ แต่กลับปล่อยให้สำนักงาน อสส.ซึ่งอยู่ภายใต้อำนาจของคสช.ส่อดึงเกมเตะถ่วงการเอาผิดทางอาญากับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ทั้งๆที่คสช.ประกาศตั้ง นายตระกูล วินิจฉัยภาค เป็นอสส.คนใหม่มากับมือ เช่นเดียวกับสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ภายใต้คอนโทรลของคสช.เช่นกันโดยเฉพาะสนช.สายทหารและตำรวจส่อพฤติการณ์ซื้อเวลาหาหาทางช่วยเหลือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ด้วยข้ออ้างเพื่อสร้างความปรองดอง
เพราะฉะนั้นเวลาจะพิสูจน์จุดยืนที่แท้จริงของคสช.ชัดเจนยิ่งขึ้นในไม่ช้า แต่สำหรับธาตุแท้สำนักงานอสส.นั้นรู้เช่นเห็นชาติมานานแล้ว
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี