ช่วงนี้ขบวนการต้านรัฐประหารออกมาเคลื่อนไหวกันอย่างคึกคักซึ่งก็แค่ป่วนเมืองและชิงพื้นที่ข่าวได้บ้าง แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยให้ความสำคัญนักเพราะพวกที่ออกมาเคลื่อนไหวล้วนคนหน้าเดิมๆ เพียงแค่หยิบมือ โดยสิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่สนใจอย่างแท้จริงก็คือปัญหาปากท้องเรื่องใกล้ตัวมากกว่า
ยิ่งขบวนการป่วนเมืองออกมาเคลื่อนไหวมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเข้าทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ที่จะใช้เป็นเหตุผลยืดการประกาศใช้กฎอัยการศึกออกไปไม่มีกำหนด และจะยิ่งสร้างความชอบธรรมในการเร่งผลักดันพ.ร.บ.ควบคุมม็อบให้ออกมาบังคับใช้โดยเร็ว
เพราะฉะนั้นปัญหาสำคัญสำหรับคสช.และรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกฯและหัวหน้าคสช.อย่างแท้จริงไม่ใช่ขบวนการป่วนเมืองเพียงไม่กี่คน แต่อยู่ที่คสช.และรัฐบาลต้องสู้กับตัวเองด้วยการสร้างผลงานให้เข้าตามหาชน โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ขณะนี้อยู่ในภาวะชะงักงันแทบจะสิ้นเชิง รวมทั้งปัญหาของแพง
แม้รัฐบาลจะพยายามทุ่มงบประมาณอัดฉีดโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ ขนานใหญ่รวมทั้งเพิ่มรายได้ให้ข้าราชการหวังกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการจับจ่ายใช้สอยอันจะทำให้วงรอบเศรษฐกิจของประเทศทั้งระบบคึกคักแต่ดูเหมือนจะยังไม่ได้ผลเท่าที่ควรซึ่งคงต้องรอดูไตรมาสแรกของปีหน้าว่าแผนกระตุ้นเศรษฐกิจจะได้ผลหรือไม่แค่ไหน
สาเหตุที่การกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยยังไม่ได้ผลปัญหาอย่างหนึ่งเกิดจากการที่เม็ดเงินค้างท่อขาดการเร่งรัด อีกทั้งหน่วยงานต่างๆ ระมัดระวังในเรื่องการใช้งบประมาณเนื่องจากเกรงเกิดปัญหาคอร์รัปชั่นตามมาซึ่งรัฐบาลต้องเร่งแก้ไขโดยเร็วโดยให้ทุกหน่วยราชการเร่งใช้จ่ายงบไปก่อนโดยไม่ต้องเกร็งหากทำหน้าที่ด้วยความบริสุทธิ์ ส่วนการป้องกันปัญหาทุจริตนั้นต้องคาดโทษล่วงหน้าว่าหากพบทุจริตค่อยไปเช็คบิลภายหลัง
นอกจากนี้ยังมีปัญหาราคาข้าวและยางพาราตกต่ำอย่างหนัก ขณะที่รัฐบาลแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น
ปัญหาเศรษฐกิจฟุบขณะนี้น่าเห็นใจคสช.และรัฐบาลชุดนี้ซึ่งนอกจากเข้ามาบริหารประเทศในช่วงที่เศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงขาลงย่ำแย่กันถ้วนหน้าทำให้การส่งออกของไทยซบเซาอย่างหนัก ขณะเดียวกันก็เข้ามารับความเน่าเฟะ อันเป็นผลงานอัปยศที่รัฐบาลหุ่นเชิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ชินวัตร ทิ้งไว้ให้แก้ โดยเฉพาะบรรดาโครงการประชานิยมซึ่งที่สำคัญคือโครงการรถยนต์คันแรก และโครงการรับจำนำข้าวทำให้ชาวนาทั่วประเทศแทบสิ้นเนื้อประดาตัวและผู้ซื้อรถคันแรกกว่าล้านคนต้องแบกภาระหนี้ผ่อนรถยนต์ทำให้กำลังซื้อของประชาชนหายวูบไปมหาศาล
ส่วนปัญหาอีกเรื่องหนึ่งซึ่งสำคัญมากและจะชี้ชะตาคสช.และรัฐบาลก็คือการปฏิรูปประเทศต้องไม่เสียของ ทั้งนี้ที่สำคัญรัฐบาลต้องไม่ทำให้มวลมหาประชาชนผิดหวังเพราะเริ่มมีข่าวลือสะพัดว่ามีความพยายามเจรจากับนายใหญ่ระบอบทักษิณผ่านสองอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทยคือ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ผู้นำเงาพรรคชาติพัฒนา คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์เพื่อฮั้วกันทางการเมืองภายใต้ข้ออ้างเพื่อสร้างความปรองดองด้วยการหาทางทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพวกพ้นผิดจากมหกรรมโกงชาติปล้นแผ่นดินครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ในโครงการรับจำนำข้าวเพื่อแลกกับคนตระกูลชินยุติบทบาททางการเมืองชั่วคราว
เพราะฉะนั้นปัญหาสำหรับคสช.และรัฐบาลที่แท้จริงไม่ใช่บรรดาเกิดจากขบวนการป่วนเมืองหน้าเดิมๆ แต่คือการต้องสู้กับตัวเองด้วยการแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องชาวบ้านให้สำเร็จและอย่าทำให้ประชาชนผิดหวังในการปฏิรูปประเทศขจัดธุรกิจการเมืองทุนสามานย์เผด็จการทรราชในคราบประชาธิปไตยอันเป็นต้นตอวิกฤติชาติตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมาให้หมดสิ้นไปไม่อย่างนั้นคสช.และรัฐบาลมีสิทธิ์พังเพราะตัวเอง
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี