การประชุมร่วมระหว่างตัวแทนคณะทำงานของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นำโดยนายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการป.ป.ช.กับทีมของสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) นำโดย วุฒิพงศ์ วิบูลย์วงศ์ รองอสส. เพื่อส่งฟ้องหรือไม่ส่งฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิดในความผิดฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบส่อเจตนารู้เห็นเป็นใจปล่อยให้เกิดมหกรรมโกงชาติปล้นแผ่นดินและสร้างความล่มจมให้ประเทศชาติครั้งเลวร้ายที่สุดในโครงการรับจำนำข้าวสุดอัปยศได้มาถึงจุดที่จะต้องพิสูจน์ธาตุแท้แล้วว่าหน่วยงานไหนที่ส่อเจตนาตะบี้ตะบันทำตัวเป็นทาสรับใช้ระบอบทักษิณและตระกูลชิน
การประชุมร่วมระหว่างคณะทำงานป.ป.ช.และอสส. 3-4 ครั้งที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นว่า อสส.เจตนายื้อเกมเตะถ่วงมาตลอดทั้ง ขอเลื่อนประชุมอ้างไม่ว่าง หรืออ้างว่าพยานหลักฐานของป.ป.ช.ไม่สมบูรณ์ โดยการประชุมร่วมสองฝ่ายครั้งล่าสุดยังจบลงด้วยข้อสรุปคือตกลงกันไม่ได้โดยอสส.ยื่นเงื่อนไขเดิมๆ คือให้ป.ป.ช.สอบพยานเพิ่มโดยเฉพาะในประเด็นเรื่องขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจีที่ถูกระบุว่ามีการทุจริต
หากมีการสอบพยานเพิ่มทั้งๆ ที่คณะอนุกรรมการของป.ป.ช.ที่ชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ใช้เวลาสอบมานานนับปีและสอบพยานครบทุกฝ่ายมาอย่างสมบูรณ์แล้ว หากมีการสอบพยานเพิ่มตามคำขอของอสส.อีก คดีนี้ก็อาจใช้เวลาอีกนานไม่รู้ว่าจะสรุปได้เมื่อไหร่
นายสรรเสริญ ในฐานะตัวแทนป.ป.ช.ถึงต้องออกมาดักคอโดยให้เห็นจะจะว่า ประเด็นเรื่องขายข้าวจีทูจีนั้นเป็นคนละเรื่องคนละคดีกับคดียื่นฟ้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ และในสำนวนคำฟ้องของป.ป.ช.ที่ฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องทุจริตข้าวจีทูจีแม้แต่นิดเดียว เพียงแต่ชี้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ยับยั้งความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวทั้งๆ ที่มีอำนาจ จึงสงสัยว่าทำไม อสส.ถึงอยากให้สอบเพิ่มเติมในประเด็นนี้
การโยงประเด็นเรื่องจีทูจีซึ่งเป็นอีกคดีหนึ่งที่ขณะนี้ ป.ป.ช.ยังไม่ได้สรุปปิดคดีเข้ามาปะปนกับคดีชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงอาจเป็นเล่ห์ของอสส.ที่ต้องการใช้เป็นเงื่อนไขข้ออ้างยื้อเวลาเพื่อรอให้คดีมหกรรมโกงจำนำข้าวจีทูจีมีบทสรุปถึงที่สุดก่อน รวมทั้งอาจเป็นแผนหาช่องโหว่เบี่ยงเบนประเด็นสำนวนการสอบสวนของป.ป.ช.มาเป็นเรื่องการทุจริตแทนที่จะเป็นข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งหากเบี่ยงเบนมาเป็นคดีทุจริตจะทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีโอกาสพ้นผิด
สำหรับคดีมหกรรมโกงชาติปล้นแผ่นดินจีทูจีนั้นล่าสุด ศ.วิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช.ในฐานะประธานอนุกรรมการสอบสวนคดีนี้เตรียมบินด่วนไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการตรวจสอบของจีนเพื่อขอข้อมูลลับสุดยอดมัดขบวนการโกงจีทูจี โดย ศ.วิชา ยืนยันว่าคดีนี้จะปิดสำนวนได้แน่นอนภายในเดือนนี้ เพราะฉะนั้นต้องรอดูว่าเมื่อประเด็นจีทูจีปิดคดีอย่างสมบูรณ์แล้ว อสส.จะมีข้ออ้างอะไรอีก
แม้ล่าสุด อสส.ส่งสัญญาณค่อนข้างชัดเจนว่าต้องการยื้อเกมให้ถึงที่สุด แต่สองฝ่ายยังจะมีการประชุมนัดสุดท้ายอีกครั้งซึ่งยังไม่รู้ว่าจะมีขึ้นเมื่อไหร่ แต่ไม่ว่าการประชุมครั้งสุดท้ายนี้จะมีผลลงเอยอย่างไร แต่ล่าสุด นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานป.ป.ช. แสดงท่าทีชัดเจนว่า หากยังตกลงกันไม่ได้อีกก็คงถึงจุดที่ ป.ป.ช.ต้องเดินหน้าฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเองโดยไม่สนใจเกมเตะถ่วงของอสส.อีกต่อไป
เพราะฉะนั้นสาธารณชนขอให้จับตาการประชุมระหว่างตัวแทนป.ป.ช.และอสส.นัดชี้ชะตาซึ่งจะเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะพิสูจน์ธาตุแท้อสส.ว่าเป็นทนายของแผ่นดินหรือเป็นทนายตระกูลชินกันแน่
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี