คนไทยทั้งประเทศที่จงรักภักดีข้องใจว่าทำไมจนวันนี้ขบวนการบ่อนทำลายสถาบันยังเคลื่อนไหวอย่างเหิมเกริมทั้งในและนอกประเทศ ขณะที่บรรดาหัวโจกแก๊งโจมตีเบื้องสูงยังคงลอยนวลทั้งๆ ที่อยู่ภายใต้ยุคอำนาจพิเศษของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
หัวโจก อาทิ นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีหนึ่งในสมุนคนสนิทของนายใหญ่ในต่างแดน นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล นักวิชาการเสื้อแดงแนวคิดซ้ายสุดขั้วสังกัดสถาบันแม่โดม นายชูพงศ์ ถี่ถ้วน นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ “โกตี๋” นายเอกภพ เหลือรา หรือ “ตั้ง อาชีวะ” นางฉัตรวดี อมรพัฒน์ หรือ “โรส” ซึ่งล้วนเป็นตัวการสำคัญของกลุ่มเสื้อแดงในสังกัดระบอบทักษิณโดยมีพฤติกรรมจาบจ้วงใส่ร้ายสถาบันเบื้องสูงอย่างหยาบช้ามาอย่างต่อเนื่อง และแก๊งนี้ปัจจุบันยังเคลื่อนไหวลอยนวลเสพสุขอยู่ในต่างแดน
แก๊งนี้ได้รับการช่วยเหลือจากข้าราชการทาสรับใช้ระบอบทักษิณโดยเฉพาะตำรวจมะเขือเทศพาหลบหนีออกนอกประเทศหลังถูกออกหมายจับ โดยบางคนรู้ตัวล่วงหน้าได้รับการช่วยเหลือจากคนสีกากีพาหนีตั้งแต่ก่อนถูกออกหมายจับด้วยซ้ำ ขณะเดียวกันก็ได้รับการเลี้ยงดูจาก นายใหญ่ ณ แดนไกล เป็นอย่างดี มิฉะนั้นคนอย่าง “โกตี๋” หรือ “ตั้ง อาชีวะ” ซึ่งไม่มีทุนและไม่มีความรู้เรื่องภาษาคงไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างสบายในต่างแดนมาได้จนทุกวันนี้
การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ประกาศกร้าวตามล่าแก๊งหมิ่นเจ้าอย่างถึงที่สุด ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ขึงขังจะล่าสุดขอบฟ้าไม่ว่าอยู่ที่ไหนในโลก ส่วน พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ย้ำให้สำนักงานอัยการสูงสุดหาช่องประสานต่างประเทศล่าตัว หรืออย่างพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่เคยประกาศเอาจริงจับแก๊งหมิ่นเจ้าไม่ไว้หน้าไม่ว่าใหญ่แค่ไหนก็จับ
แต่สาธารณชนกลัวว่าจะเป็นคำพูดขึงขังสร้างภาพแบบไฟไหม้ฟางเหมือนที่ผ่านๆ มา เพราะหากจะจับตัวมาดำเนินคดีจริงเหล่าแก๊งบ่อนทำลายสถาบันพวกนี้คงไม่ลอยนวลมาจนทุกวันนี้
ข้ออ้างเรื่องข้อจำกัดกฎหมายแต่ละประเทศไม่เหมือนกันเพราะประเทศอื่นไม่มีกฎหมายบทลงโทษเกี่ยวกับการบ่อนทำลายสถาบันยังพอเข้าใจได้ แต่ก็ยังมีช่องทางอีกมากมายที่จะล่าแก๊งอุบาทว์พวกนี้ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม ปัญหาอยู่ที่ว่าคสช. รัฐบาลตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามเต็มที่หรือยัง และที่น่าสงสัยก็คือบางหน่วยราชการหรือข้าราชการบางคนอาจเกียร์ว่างหรือซ้ำร้ายแอบช่วยเหลือแก๊งอุบาทว์นี้
วิธีการหนึ่งที่จะนำตัวแก๊งมาดำเนินคดีฐานหมิ่นสถาบันก็คือ กระทรวงการต่างประเทศสามารถยกเลิกพาสปอร์ตเพื่อไม่ให้แก๊งอุบาทว์บินหลบหนีไปประเทศโน้นประเทศนี้ได้ตามใจชอบ หรืออีกวิธีหนึ่งประสานไปยังตำรวจสากลเพราะเป็นคดีอาญาเพื่อขอความร่วมมือควบคุมตัวไว้ หรืออาจจะใช้ความสัมพันธ์ทางการทูตแบบพิเศษเจรจากับประเทศที่แก๊งหมิ่นสถาบันไปพำนักและใช้เป็นฐานในการเคลื่อนไหวเพื่อขอให้อำน;ยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ของไทยบินไปควบคุมตัวก็ได้
เรื่องนี้คสช.และรัฐบาลต้องจี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าใส่เกียร์ว่างเด็ดขาดและต้องมีการประเมินผลงาน ซึ่งเชื่อว่าหากทุ่มเทคงไม่ยากเกินกว่าความตั้งใจจริงของคสช.และรัฐบาล
เพราะฉะนั้นการล่าแก๊งบ่อนทำลายสถาบันครั้งนี้จะพิสูจน์ฝีมือคสช.และรัฐบาลว่าจะทำสำเร็จหรือแค่ท่าดีทีเหลว
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี