ยิ่งนานวันรัฏฐาธิปัตย์ภายใต้อำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะเผชิญกับแรงเสียดทานและปัญหาท้าทายหนักหน่วงเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ โดยชนวนระเบิดเวลาทางการเมืองอย่างน้อย 4 ลูก ซึ่งจะเป็นพลังกดดันคสช.และรัฐบาลเฉพาะกาล ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช.และนายกฯ จากนี้เป็นต้นไป
ระเบิดเวลาลูกแรกก็คือ การถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิด ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ปล่อยให้เกิดมหกรรมทุจริตโครงการรับจำนำข้าวมูลค่ามหาศาลที่สร้างความเสียหายครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ และการถอดถอน นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร รวมทั้ง นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา ฐานรวบรัดผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของสมาชิกวุฒิสภา(สว.) โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โดยเฉพาะกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ นอกจากต้องถูกถอดถอนอันจะมีผลต่อการถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ตามมาหรืออาจถูกตัดสิทธิ์ตลอดชีวิตหากรัฐธรรมนูญฉบับถาวรมีผลบังคับใช้แล้วยังต้องเจอโทษทางอาญาและอาจถูกฟ้องให้ชดใช้เงินแก่แผ่นดินในความเสียหายที่เกิดจากโครงการรับจำนำข้าวด้วย
ก่อนหน้านี้บรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทย กลุ่มเสื้อแดงออกมาขู่ว่า หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกลงโทษเท่ากับการปรองดองล้มเหลวและบ้านเมืองจะเกิดความไม่สงบจากการลุกฮือของมวลชนระบอบทักษิณ
ระเบิดเวลาลูกที่สอง ก็คือปัญหาสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ซึ่งแม้ว่าสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)จะมีมติด้วยเสียงข้างมากให้รัฐบาลและกระทรวงพลังงานทบทวนการเปิดสัมทปทานให้เอกชนเข้ามาขุดเจาะน้ำมันรอบที่ 21 เพราะอาจเอื้อต่อผลประโยชน์ของคนบางกลุ่มโดยให้ใช้ระบบเจรจาแบ่งปันผลประโยชน์แทนระบบสัมปทานเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติ แต่ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศเดินหน้าการให้สัมปทานต่อไปซึ่งสร้างความไม่พอใจต่อกลุ่มองค์กรภาคประชาชนที่เตรียมออกมาเคลื่อนไหวอันเป็นการท้าทายกฎอัยการศึกและคำประกาศอย่างแข็งกร้าวของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ห้ามมีการชุมนุมอย่างเด็ดขาด
ระเบิดเวลาลูกที่สาม คือปัญหาเศรษฐกิจและราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ โดยภาวะเศรษฐกิจชะงักงันฝืดเคืองอย่างหนัก อันเกิดจากปัจจัยทั้งเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยและปัจจัยภายในประเทศจากการที่ประชาชนไม่มีเงินจับจ่ายใช้สอยซึ่งเป็นปัญหาท้าทายที่อาจก่อให้เกิดวิกฤติศรัทธาของประชาชนต่อรัฐบาลและคสช.มากขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำที่สำคัญคือ ข้าว ยางพารา และปาล์มน้ำมันที่ก่อนหน้านี้เกษตรกรขู่จะออกมาชุมนุมเพื่อเรียกร้องความช่วยเหลือจากรัฐบาลโดยไม่สนใจกฎอัยการศึก
ระเบิดเวลาลูกที่สี่ คือปัญหาความขัดแย้งภายในภายใต้อำนาจของคสช.เอง ทั้งระหว่างผู้คุมอำนาจสูงสุดในคสช. และระหว่างรัฐบาลกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) หรือระหว่างรัฐบาลกับสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)
ข่าวการขบเหลี่ยมระหว่างผู้มีอำนาจในคสช.ที่ต้องจับตาก็คือระหว่างพล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม พี่ใหญ่นายทหารกลุ่มบูรพาพยัคฆ์ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นน้องคนกลาง โดย พล.อ.ประยุทธ์ ดูจะไม่ค่อยจะพอใจผลงานการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯที่กำกับดูแลด้านเศรษฐกิจ แต่ดูเหมือนจะเชื่อฝีมือ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของคสช.มากกว่า ขณะที่ พล.อ.ประวิตร มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ในฐานะศิษย์เก่าร่วมสถาบันเดียวกันคือโรงเรียนเซนต์คาเบรียลจนกลายเป็น “เซนต์คาเบรียลคอนเน็กชั่น”
จุดยืนที่ดูเหมือนแตกต่างระหว่างสองพี่น้องบูรพาพยัคฆ์ยังสะท้อนผ่านพฤติกรรมของสนช.ในกรณีถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพวกซึ่ง สนช.สายนายทหารและตำรวจกลุ่ม “วงษ์สุวรรณคอนเน็กชั่น” นำโดย พล.อ.นพดล อินทปัญญา เพื่อนสนิทของ พล.อ.ประวิตร กับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) น้องชายของ พล.อ.ประวิตร พยายามล็อบบี้สนช.ให้อุ้ม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ด้วยข้ออ้างเพื่อสร้างความปรองดอง ซึ่งสวนทางกับท่าทีของพล.อ.ประยุทธ์ ที่ต้องการให้ยึดข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง คนผิดก็ต้องถูกลงโทษตามกฎหมายไม่ควรนำมาปะปนกับเรื่องการสร้างความปรองดอง
จากระเบิดเวลาทั้งจากการข่มขู่ของขบวนการระบอบทักษิณในกรณีชะตากรรมของน.ส.ยิ่งลักษณ์และพวก ปัญหาการต่อต้านสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 รวมทั้งปัญหาม็อบเกษตรกรที่มีแนวโน้มดุเดือดเข้มข้นมากขึ้นทุกขณะ พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศอย่างแข็งกร้าวว่า ภายใต้กฎอัยการศึกห้ามมีการออกมาชุมนุมต่อต้านใดๆ อย่างเด็ดขาด ดังนั้นจึงถือเป็นแนวโน้มสถานการณ์ที่ต้องจับตาและเป็นปัญหาที่ท้าทาย คสช.ที่จะต้องฝ่าฟันสารพัดมรสุมที่รุมเร้าเพื่อไปให้ถึงฝั่งนั่นคือการปฏิรูปประเทศให้สำเร็จ
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี