ขณะที่สังคมแต่ตั้งข้อสงสัยในพฤติกรรมไม่ชอบมาพากลแฝงด้วยผลประโยชน์ทับซ้อนของมหาเถรสมาคม(มส.) และธัมมชโย เจ้าสำนักพระธรรมกาย แต่กลับเกิดขบวนการที่เหมือนร้อนตัวออกมาแสดงบทองครักษ์พิทักษ์ขบวนการฝนตกขี้หมูไหลโดยสงฆ์และฆราวาสกลุ่มหนึ่งที่นำโดยพระเมธีธรรมาจารย์ รองอธิการบดีประชาสัมพันธ์และเผยแผ่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย(มจร.) ที่ปรึกษาสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนาซึ่งอ้างชื่อว่าเป็นประธานสงฆ์สังฆสามัคคี ได้เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์สั่งการไปยังสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ระงับพฤติกรรมล่วงละเมิดมส.และธัมมชโยของคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนาที่มีนายไพบูลย์ นิติตะวันเป็นประธาน
อาการเหมือนร้อนตัวแทนมส.และเจ้าสำนักจานบินไม่ได้ตอบข้อสงสัยของสังคมในประเด็นผิดถูกชั่วดีแม้แต่น้อยว่าทำไมมส.ถึงแข็งข้อไม่ปฏิบัติตามพระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯที่ชี้ว่าธัมมชโยปาราชิกตั้งแต่ปี 2542 เพราะเอาที่ดินสำนักพระธรรมกายมาเป็นสมบัติส่วนตัวและเผยแพร่ลัทธิที่ผิดเพี้ยนจากคำสอนของพระพุทธเจ้าและไม่ได้ตอบข้อสงสัยที่ว่า ธัมมชโยโกงจริงหรือไม่ และที่สำคัญคือไม่ได้ตอบข้อสงสัยเบื้องหลังผลประโยชน์ระหว่าง ธัมมชโย กับพระเถระผู้ใหญ่ในมส.หลายรูป
พอตกเป็นข่าวก็อ้างว่าเป็นเรื่องการเมืองเหมือนระบอบทักษิณที่พอถูกจับได้ว่าทำชั่วก็อ้างว่าเป็นเรื่องกลั่นแกล้งทางการเมืองไม่ผิดเพี้ยน
แต่ที่น่าสนใจก็คือปูมหลังของพระเมธีธรรมาจารย์ ผู้นี้พบว่ามีความใกล้ชิดกับขบวนการระบอบทักษิณโดยเคยถ่ายภาพกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และบุคคลสำคัญของพรรคเพื่อไทยจำนวนมาก และเคยร่วมพิธีเปิดทีวีเสื้อแดงและร่วมออกรายการหลายครั้ง และที่สำคัญที่สุด พระเมธีธรรมาจารย์ เดิมชื่อนายประสาน หนองพร้าว หนึ่งในแกนนำคนเสื้อแดงภาคอีสาน ซึ่งไม่น่าแปลกใจเพราะการชุมนุมของม็อบเสื้อแดงที่ผ่านมาเคยมีเหตุการณ์โล้นในคราบผ้าเหลืองมาร่วมชุมนุมแล้วซดเบียร์เมาแอ๋โดยมีกระป๋องเบียร์อยู่ข้างตัวเกลื่อนกลาด
ระบอบทักษิณนั้นก็อย่างที่รู้กันอยู่ว่าสมคบกับสำนักจานบินของ ธัมมชโย มานานแล้วและเคลื่อนไหวคู่ขนานกันมาตลอดโดยฝ่ายหนึ่งวางแผนมุ่งยึดอำนาจฝ่ายอาณาจักร ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งมุ่งยึดศาสนจักร
หลังจากที่ข่าวมส.มีมติอุ้ม ธัมมชโยลุกลามบานปลายอื้อฉาวมาหลายวัน ล่าสุดเกิดปรากฏการณ์อัปยศด้วยการกลับลำหลอกคนทั้งประเทศของมส.เมื่อ นายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ในฐานะเลขานุการมส. ออกมาแถลงอ้างหน้าตาเฉยว่า ที่ประชุมมส.เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมายังไม่ได้ลงมติอุ้ม ธัมมชโย ทั้งๆ ที่หากยังจำกันได้หลังการประชุมมส.วันนั้น พระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมมจารี) กรรมการและโฆษกมส. ออกมาแถลงอย่างเป็นเรื่องเป็นราวรับรู้กันทั้งประเทศว่าที่ประชุมมส.มีมติชี้ว่า ธัมมชโย ไม่ปาราชิก นั่นแสดงว่าไม่ นายพนม โกหกก็ พระพรหมเมธี มุสาหลอกคนทั้งประเทศซึ่งผิดพระธรรมวินัยร้ายแรง
ที่น่าสงสัยคือหากมส.ยังไม่มีการลงมติแล้วทำไมไม่ออกมาชี้แจงตั้งแต่แรกหลัง พระพรหมเมธี แถลงปล่อยให้เรื่องลุกลามใหญ่โตมา 3 วันแล้วเพิ่งมาแก้ตัวแบบน้ำขุ่นๆ
แต่ไม่ว่าใครโกหกก็ตามทำให้นึกถึงพุทธพจน์ที่ว่า “ผู้ที่กล่าววาจาโปปดมดเท็จ ไม่ทำชั่วเป็นไม่มี” ซึ่งปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการตอกย้ำสะท้อนถึงเบื้องหลังที่ไม่ชอบมาพากลในมส.ที่เกี่ยวกับธัมมชโยเพราะฉะนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) เลิกใส่เกียร์ว่างแล้วรีบตรวจสอบขุมทรัพย์มหาศาลของสำนักพระธรรมกายโดยเร็วและจริงจังเพราะเชื่อได้เลยว่าจะต้องพบความชั่วร้ายระดับชาติที่โยงใยหลายฝ่าย และเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่เพราะเป็นภัยต่อพระพุทธศาสนาและความมั่นคงของชาติในอนาคต แต่น่าแปลกที่ปัญหาร้ายแรงระดับนี้กลับถูกปล่อยปละละเลยโดยหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องมานานนับสิบปี
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี