ช่วงหลังมีข่าวจากคนใกล้ชิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิดที่เป็นจำเลยฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ส่อรู้เห็นเป็นใจมหรรมโกงชาติปล้นแผ่นดินโครงการรับจำนำข้าวที่สร้างความล่มจมให้ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ถึง 7 แสนล้านบาท มีอาการเครียดหนักหลังจากที่คดีอาญาเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อย่างสมบูรณ์แบบ
ไม่น่าแปลกใจที่อดีตนายกฯหุ่นเชิดจะเครียดหนักเพราะคดีนี้มีโทษจำคุกสูงสุดถึง 10 ปี ยังไม่ต้องพูดถึงคดีแพ่งที่จะถูกกระทรวงการคลังฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายแก่แผ่นดินอีก 6 แสนล้านบาท ขณะที่แผนคิดหนีก็ถูกบล็อกโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และล่าสุดที่ประชุมใหญ่ผู้พิพากษาศาลฎีกาได้เลือกองค์คณะ 9 ผู้พิพากษาอาวุโส เพื่อมาทำหน้าที่ชี้ชะตา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในโครงการรับจำนำข้าวแล้ว ประกอบด้วย นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานแผนกคดีภาษีอากรในศาลฎีกา นายวิรุฬห์ แสงเทียน ประธานแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจในศาลฎีกา นายธนฤกษ์ นิติเศรณี ประธานแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา นายธนสิทธิ์ นิลกำแพง ประธานแผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกา นายศิริชัย วัฒนโยธิน รองประธานศาลฎีกา นายชีพ จุลมนต์ รองประธานศาลฎีกา นายวีระพล ตั้งสุวรรณ รองประธานศาลฎีกา นางอุบลรัตน์ ลุยวิกกัย ประธานแผนกคดีสิ่งแวดล้อมในศาลฎีกา และ นายธนิศ เกศวพิทักษ์ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าส่วนใหญ่ใน 9 องค์คณะผู้พิพากษาที่จะชี้ชะตา น.ส.ยิ่งลักษณ์ เคยพิพากษา สำเร็จโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคุก และคนในตระกูลชิน ทำให้เห็นแนวโน้มชะตากรรมของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นั้นคงไม่ใช่และเข้าใจผิดอย่างแรง เพราะผู้พิพากษาอาวุโสแต่ละคนล้วนสั่งสมเกียรติประวัติมาชั่วชีวิตราชการจนมีตำแหน่งใหญ่โตทั้งสิ้นซึ่งวัฒนธรรมในหมู่ตุลาการนั้นรักเกียรติประวัติและศักดิ์ศรีในความเป็นตุลาการที่เที่ยงธรรมเหนือสิ่งอื่นใด
นอกจากนี้กระบวนการสรรหาองค์คณะ 9 ผู้พิพากษาอาวุโส เลือกโดยการลงคะแนนลับจากที่ประชุมใหญ่ผู้พิพากษาศาลฎีกาถึง 173 คน จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีการบล็อกโหวตและถ้าไม่น่าเชื่อถือจริงคงไม่ได้รับเลือก
ดังนั้นปัจจัยสำคัญที่สำคัญซึ่งจะกำหนดชะตากรรมของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็คือข้อมูลหลักฐานและข้อเท็จจริง ซึ่งไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า โครงการรับจำนำข้าวสร้างความเสียหายล่มจมแก่ประเทศอย่างมหาศาล โดยล่าสุดกระทรวงการคลังสรุปยอดขาดทุนคิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 7 แสนล้านบาท ยังไม่รวมความเสียหายในด้านอื่นๆ
ที่สำคัญยังต้องดูที่เจตนาเพราะในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่บริหารประเทศนาน 3 ปีนั้น ผู้เชี่ยวชาญจากหลายฝ่ายเคยเตือนให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทบทวนโครงการรับจำนำข้าวเพราะมีการทุจริตมโหฬารและสร้างความหายนะให้ประเทศอย่างรุนแรง แม้แต่ ดร.วีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกฯ ซึ่งเป็นประธานที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถึงกับเตือนว่ารัฐบาลจะพังเพราะโครงการรับจำนำข้าว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่าเคยเตือน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ช่วงที่เป็นนายกฯเช่นกัน แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ฟัง ดึงดันเดินหน้าโครงการรับจำนำข้าว โดยยืนยันว่าจะขอรับผิดชอบผลที่จะตามมาเอง
เพราะฉะนั้นเมื่อพูดเองว่าจะขอรับผิดชอบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ต้องก้มหน้าก้มตารับชะตากรรมที่ตัวเองก่อ ซึ่งทุกอย่างในที่สุดศาลก็ต้องพิจารณาตามพยานหลักฐานข้อเท็จจริง และที่สำคัญคือเป็นไปตามกฎแห่งกรรม ซึ่งหากทำผิดจริงโดยรู้เห็นเป็นใจปล่อยให้มีการโกงชาติปล้นแผ่นดินมโหฬารและสร้างความพินาศล่มจมให้ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ ถือเป็นกรรมที่อุกฤษฏ์ที่ต้องชดใช้สถานหนักและสร้างบรรทัดฐานว่าใหญ่แค่ไหนถ้าทำผิดสร้างความเสียหายแก่ชาติบ้านเมืองขั้นร้ายแรงต้องรับโทษตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมดังเช่นในนานาอารยประเทศ
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี