พอถูกจับได้ว่าศิษย์มือขวาโกงเงินเหล่าผู้สูงอายุตาดำๆ นับหมื่นคนที่ฝากเงินกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นแล้วยักย้ายถ่ายเทเล่นแร่แปรธาตุเงินบาปเกือบ 1,000 ล้านบาท มาให้ตัวเองและสำนักจานบิน และยังซุกเงินโกงไว้อีกจำนวนมาก ล่าสุดพอจวนตัวถูกเปิดโปงทำท่าจนมุมเพราะเรื่องแดงและลุกลามใหญ่โตจนขบวนการโกงเงินคนชราส่อเค้าจะถูกลากเข้าคุกยกแก๊งทำให้ในที่สุดตัวแทนสำนักจานบินของธัมมชโยติดต่อขอประนีประนอมโดยพร้อมคืนเงิน 933 ล้านบาท ที่อมเงียบไว้ 2 ปี ให้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น
ธัมมชโย ใช้ลูกไม้เดียวกับที่เคยใช้เมื่อปี 2542 กรณียักยอกทรัพย์สินวัดพระธรรมกายมาเป็นสมบัติส่วนตัว ซึ่งพอถูกจับได้และมีการฟ้องร้องจนเรื่องบานปลายใกล้เข้าคุกและพ้นความเป็นพระก็เลยยอมคายทรัพย์ที่ยักยอกเพื่อเอาตัวรอดโดยอ้างหน้าตาเฉยว่าเมื่อคืนแล้วไม่มีความผิด
ในกรณีเงินบาปสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นที่ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น และเป็นมือขวาของธัมมชโย โกงจากประชาชนนับหมื่นคนมูลค่าถึงกว่า 12,000 ล้านบาท และส่วนหนึ่งถูกเล่นแร่แปรธาตุไปยังเครือข่ายสำนักจานบินซึ่งไม่ใช่แค่เกือบ 1,000 ล้านบาท เท่าที่ตรวจพบอย่างที่เป็นข่าว แต่จากการคุมงานขยายผลสืบสวนของ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ยังชี้ว่าเงินบาปที่มาจากการโกงสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ซึ่งซุกอยู่ในเครือข่ายสำนักจานบินยังมีอีกมูลค่ามหาศาล โดยเฉพาะสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคลเศรษฐีที่ตั้งอยู่ในวัดพระธรรมกายเป็นแหล่งฟอกเงินโกงที่สำคัญ ยังไม่รวมแหล่งอื่นๆ ทั้งในและนอกวัดพระธรรมกาย
การที่ ธัมมชโย ยอมคืนเงินก้อนโตเท่ากับสารภาพบาปโดยปริยาย และถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว ซึ่ง ธัมมชโย และแก๊งจะอ้างไม่รู้ว่าเงินที่ได้จากศิษย์เอกเป็นเงินที่โกงมาคงไม่ได้ เพราะเงินไม่ใช่จำนวนน้อยๆ แต่เกือบ 1,000 ล้านบาท โดยเฉพาะ ธัมมชโยคนเดียวกับรับไปหลายร้อยล้านบาท อีกทั้งข่าวอื้อฉาวการโกงสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นจนเกิดการฟ้องร้องก็ตกเป็นข่าวครึกโครมมาตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าแล้วทำไม ธัมมชโย ถึงไม่คิดที่จะคืนเงินตั้งแต่ตอนนั้น ทำไมถึงกอดเงินเงียบไว้ถึง 2 ปีพอกำลังจะถูกจับได้ไล่ทันถึงยอมเอาเงินมาคืนแบบง่ายๆ ในขณะนี้
ความจริงตามพระธรรมวินัย ธัมมชโย ปาราชิกพ้นผ้าเหลืองไปแล้วตั้งแต่ปี 2542 ตามพระลิขิตสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่ชี้ว่า ธัมมชโย ทำผิดพระธรรมวินัยร้ายแรงฐานยักยอกเงินวัดมาเป็นของส่วนตัวและเผยแพร่ลัทธิที่ไม่เป็นไปตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา
ยิ่งคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นยิ่งสาวลึกก็ยิ่งชัดและร้ายแรงกว่าคดีเมื่อปี 2542 มาก ซึ่ง ธัมมชโย ก็เอาตัวรอดแบบน้ำขุ่นๆ ด้วยเล่ห์ศรีธนญชัยแบบเดิมๆ คือยอมคืนเงินโจรแล้วอ้างว่าไม่ผิด
การที่ผู้อยู่ในสมณเพศพอถูกจับได้ว่าโกงก็ใช้เล่ห์คืนเงินบาปแล้วอ้างว่าไม่ผิดถือเป็นแบบอย่างอันชั่วร้ายส่งเสริมให้เกิดอลัชชีในคราบผ้าเหลืองเพิ่มมากขึ้นเป็นดอกเห็ดโดยไม่กลัวประพฤติชั่วเพราะหากจับไม่ได้ไล่ไม่ทันก็รวยไป แต่หากถูกจับได้ว่าโกงหรือรับทรัพย์โจรก็ยอมคืนของกลางแล้วอ้างว่าไม่ผิดรอดตัวอย่างลอยนวล
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี