เครือข่ายสำนักจานบินทยอยเปิดตัวเรียงหน้าออกมาเคลื่อนไหวส่งสัญญาณเชิงปกป้องสร้างความชอบธรรมให้ธัมมชโย และพระเถระผู้ใหญ่กลุ่มหนึ่งในมหาเถรสมาคม(มส.)ที่อุ้มธัมมชโย ขณะที่อีกด้านหนึ่งก็ก่อกระแสต้านฝ่ายที่ออกมาเปิดโปงความไม่ชอบมาพากลเพื่อปฏิรูปสิ่งเลวร้ายของสำนักจานบิน
เครือข่ายแก๊งผ้าเหลืองที่ออกมาเคลื่อนไหวโดยอ้างว่าเพื่อปกป้องพุทธศาสนาและมส.ไม่เกี่ยวข้องกับสำนักจานบิน อาทิ กลุ่มที่นำโดย พระเมธีธรรมาจารย์(ประสาร จันทสาโร) รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในฐานะที่ปรึกษาสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา(สนพ.) โดยกดดันขู่ให้รัฐบาลและสนช.ยุบคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการป้องกันพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) ที่มีนายไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นประธานภายในเส้นตาย 15 วัน ซึ่งหากยังไม่มีคำตอบม็อบพระและฆราวาสจะออกมาชุมนุมวันที่ 12 มี.ค.นี้
สำหรับ พระเมธีธรรมาจารย์นี่หลายคนอาจคุ้นหน้าเพราะเดิมขณะเป็นฆราวาสก็คือ นายประสาน หนองพร้าว หนึ่งในแกนนำเสื้อแดงภาคอีสาน ที่เคยเข้าร่วมการเคลื่อนไหวและถ่ายภาพคู่กับอดีตนายกฯนักโทษหนีคุกและแกนนำคนสำคัญระบอบทักษิณหลายต่อหลายคนไม่ใช่หรือ แล้วไปไงมาไงถึงมาบวชเป็นพระและไม่รู้ว่ามีวัตถุประสงค์แอบแฝงอะไรหรือไม่ และอดชวนให้สงสัยไม่ได้ว่า ระบอบทักษิณอาจส่งคนของตัวเองมายึดหัวหาดที่สถาบันการศึกษาของสงฆ์เพื่อเคลื่อนไหวคู่ขนานกับสำนักจานบินซึ่งเป็นพวกเดียวกัน
สำหรับกลุ่มธรรมทูตต่างประเทศที่ออกมาเคลื่อนไหวปลุกระดมให้สงฆ์ในประเทศไทยลุกฮือออกมาปกป้อง ธัมมชโย และ มส. นั้นถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นกลุ่มเครือข่ายคนห่มผ้าเหลืองที่รับท่อน้ำเลี้ยงจากสำนักจานบินมาตลอดหรืออาจเรียกว่าเป็นสาขาสำนักจานบินในต่างแดน
จากนี้ไปความเคลื่อนไหวของเครือข่ายป้อง ธัมมชโย ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมเชื่อว่าจะเข้มข้นและชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยจะมีกลุ่มสงฆ์ชื่อแปลกๆผุดเป็นดอกเห็ดออกมาเคลื่อนไหวเพื่อสร้างความชอบธรรม โดยไฮไลท์ให้จับตาดูการรวมพลแก๊งผ้าเหลืองและฆราวาสที่จะถูกระดมมาในวันที่ 12 มี.ค.นี้ให้ดี เพราะนี่คือการท้าทายกฎอัยการศึกที่ห้ามมีการชุมนุมเกินกว่า 5 คน
ขณะเดียวกันต้องจับตาท่าทีที่ชักทะแม่งๆ ของสำนักงานอัยการสูงสุด(อสส.) หลังจากที่ หลวงปู่พุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐมเดินทางไปเรียกร้องให้ อสส.รื้อคดียักยอกเงินวัดพระธรรมกายของ ธัมมชโย ขึ้นมาพิจารณาใหม่หลังจากที่เมื่อปี 2549 อสส.ภายใต้อำนาจระบอบทักษิณครองเมืองยุคนั้นเปลี่ยนทีมอัยการแล้วถอนฟ้องเอาผิด ธัมมชโย ดื้อๆ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นทีมอัยการชุดเดิมเป็นโจทย์สั่งฟ้องเอาผิด ธัมมชโย และเหลือสอบพยานอีกแค่สองปาก ซึ่งหลังจากรับคำร้องของ หลวงปู่พุทธะอิสระ นายพรศักดิ์ ศรีณรงค์อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญาพูดส่อไปในทางซื้อเวลาว่า คดีนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว อัยการชุดเดิมก็เกษียณราชการหมด ดังนั้นคงต้องใช้เวลาเพราะตอนนี้ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเอกสารเก่าอยู่ที่ไหนและที่สำคัญคดีนี้จะรื้อฟื้นหรือไม่ต้องรอให้ นายตระกูล วินิจนัยภาค อสส. เป็นผู้สั่งการ
สำหรับคดีธัมมชโยยักยอกทรัพย์วัดพระธรรมกายมาเป็นของตัวเอง จะหมดอายุความในปีหน้านี้แล้วเพราะฉะนั้นต้องจับตาท่าทีของสำนักงาน อสส.ซึ่งหากสำนักงานอสส.เตะถ่วงอ้างหาหลักฐานไม่เจอเพราะนานแล้วหรือเกียร์ว่างยื้อเวลาไปเรื่อยๆ จนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และรัฐบาลเฉพาะกาลชุดนี้หมดอำนาจก็มีแนวโน้มที่คดีอาจหมดอายุความนั่นเท่ากับธัมมชโยพ้นผิดลอยนวล
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี