หลังจากที่ก่อนหน้านี้แสดงท่าทีให้ท้ายระบอบทักษิณอย่างชัดเจน ขณะเดียวกันก็ต่อต้านกดดันคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)และรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช.หลังการเข้าควบคุมอำนาจการปกครองประเทศของคสช.เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ปีที่แล้วด้วยการลดความสัมพันธุ์ระหว่างรัฐบาลมะกันอันตรายกับรัฐบาลนายกฯลุงตู่ แต่หลังการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของผู้นำหมีขาวนายดมิทรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีสหพันธรัฐรัสเซียเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปีเมื่อสัปาดห์ที่แล้วทำให้ล่าสุดประธานาธิบดีบารัค โอบามาของมะกันอันตรายถึงกับเต้นประกาศเตรียมตั้งนายกลิน เดวี่ส์ อดีตนักการทูตผู้เชี่ยวชาญนโยบายเกาหลีเหนือให้มาดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตมะกันอันตรายประจำเทศไทยคนใหม่หลังจากที่ว่างเว้นมานานถึง 6 เดือน
ตั้งแต่อดีตทูตเสื้อแดงนางคริสตี้ เคนนี่ย์ พ้นวาระไปเมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้วโดยมีเพียงนายแพททริค เมอร์ฟี่ ทำหน้าที่อุปทูตมะกันอันตรายประจำประเทศไทย
ก่อนหน้านี้มะกันอันตรายนอกจากไม่ตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยอันเป็นการส่งสัญญาณต่อต้านรัฐบาล นายกฯลุงตู่ ที่มาจากการรัฐประหารแล้วยังแสดงความเหิมเกริมแทรกแซงกิจการภายในของไทยให้ท้ายระบอบทักษิณโดยส่ง นายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศ บุกมาหยามไทยถึงถิ่นด้วยการแถลงปกป้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิด ที่ถูกดำเนินคดีฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ปล่อยให้มีเกิดมหกรรมโกงชาติปล้นแผ่นดินโครงการรับจำนำข้าวที่สร้างความล่มจมให้ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยอ้างว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองและถึงกับดูหมิ่นศาลไทยว่ามีปัญหาด้านความยุติธรรม นอกจากนี้ยังพยายามกดดันรัฐบาล นายกฯลุงตู่ ให้มีการเลือกตั้งทั่วไปโดยเร็วที่สุดอันเป็นการสร้างโอกาสให้ระบอบทักษิณกลับมามีอำนาจยึดครองประเทศเพื่อเป็นทาสรับใช้มะกันอันตราย
สำหรับรัฐบาลไทยตลอดช่วงครึ่งศตวรรษที่ผ่านมาแทบจะเรียกได้ว่าดำเนินนโยบายการทูตแบบสุดขั้วตามก้นเป็นลิ่วล้อมะกันอันตรายมาตลอด ก็เพิ่งมารัฐบาลคสช.โดย นายกฯลุงตู่ นี่แหละที่เริ่มปรับนโยบายการทูตให้เกิดความสมดุล ด้วยการดำเนินกุศโลบายที่ชาญฉลาดหันไปกระชับความสัมพันธุ์กับจีนภายใต้การนำของประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง และรัสเซียเพื่อปรามและถ่วงดุลมะกันอันตรายไม่ให้เหิมเกริมข่มขู่กดดันรัฐบาลคสช.มากเกินไป
จากการเยือนไทยอย่างเป็นทางการในรอบ 25 ปีของผู้นำระดับสูงของรัสเซียเหมือนฟางเส้นสุดท้ายซึ่งทำให้มะกันอันตรายเริ่มตระหนักว่ากำลังจะสูญเสียมหามิตรอย่างไทยที่หันไปกระชับมิตรกับจีนและรัสเซียชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการแผ่ขยายอิทธิพลของมะกันอันตรายในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิค
จึงไม่น่าแปลกใจที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ออกมาแถลงว่าเตรียมตั้งนักการทูตสายพิราบอย่าง นายกลิน เดวี่ส์ ซึ่งมีบุคคลิกประนีประนอมแทนที่จะเป็นสายเหยี่ยวเหมือน นางคริสตี้ เคนนี่ย์ อดีตทูตคนก่อนที่มีภาพลักษณ์แดงแจ๋และแสดงท่าทีหนุนระบอบทักษิณแบบโฉ่งฉ่าง เพื่อเป็นสัญญาณคงความสัมพันธ์กับมหามิตรอย่างไทยอย่างน้อยไม่ให้เลวร้ายไปกว่าที่เป็นอยู่
ทั้งหลายทั้งปวงจากการเดินเกมการเมืองระหว่างประเทศของมะกันอันตรายด้วยการตั้งทูตประจำประเทศไทยคนใหม่ไม่มีอะไรมากไปกว่าการเล่นเกมตีสองหน้าตบหัวแล้วลูกหลังไทยของมะกันอันตราย โดยหวังคานมหาอำนาจขั้วตรงข้ามคือรัสเซียและจีนโดยมะกันอันตรายหวังรักษาอิทธิพลความเป็นอันธพาลโลกของตัวเองในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิคไว้ให้นานที่สุด
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี