กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจของญี่ปุ่นควบคุมตัว พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ได้ดีเพราะพี่ให้คาสนามบินนาริตะในข้อหามีอาวุธปืนและกระสุนไว้ในครอบครองขณะกำลังจะบินกลับประเทศไทยทำให้เกิดข้อสงสัยว่าปืนในกระเป๋าเดินทางของพล.ต.ท.คำรณวิทย์เล็ดลอดการตรวจสอบจากสนามบินสุวรรณภูมิมาได้อย่างไร
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งโดยปกติก่อนขึ้นเครื่องบินผู้โดยสารและกระเป๋าเดินทางจะต้องถูกตรวจสอบอย่างละเอียด แต่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นสนามบินแห่งชาติของไทยกลับปล่อยให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์นำปืนพกขึ้นเครื่องบินเดินทางไปญี่ปุ่นจนถูกเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นจับกุมตัวได้ซึ่งสร้างความอับอายขายหน้าในระบบรักษาความปลอดภัยของสนามบินแห่งชาติของไทยเป็นอย่างมาก
นายศิโรตม์ ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ออกอาการปัดสวะอ้างว่าจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่ามีการตรวจค้นร่างกายและกระเป๋าเดินทางของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ก่อนขึ้นเครื่องแล้วไม่พบอาวุธแต่อย่างใด ซึ่งขัดแย้งกับคำแถลงของ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่แถลงว่า “พล.ต.ท.คำรณวิทย์รับว่าปืนเป็นของท่านจริง ลืมไว้ในกระเป๋าใส่ยา ตอนเดินทางไปญี่ปุ่นได้โหลดใส่ไว้ใต้เครื่อง แต่พอขากลับนำมาใส่กระเป๋าสะพายจนเป็นที่มาของการถูกจับกุม”
คำแถลงของโฆษกสตช.เท่ากับยืนยันว่าปืนถูกนำขึ้นเครื่องโดยเล็ดลอดระบบตรวจสอบความปลอดภัยของสนามบินสุวรรณภูมิไปจนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นตรวจพบและจับกุม พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ที่สนามบินนาริตะ
ส่วนปืนจะเล็ดลอดที่สนามบินสุวรรณภูมิไปได้อย่างไรนั้นมีความเป็นไปได้ 2 ประการคือประการแรก ระบบตรวจสอบความปลอดภัยของสนามบินสุวรรณภูมิไร้ประสิทธิภาพทั้งบุคลากรและอุปกรณ์ตรวจจับอาวุธ หรือประการที่สอง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ใช้ความเป็นอภิสิทธิ์ชนหรือเส้นสายในฐานะอดีตนายตำรวจใหญ่หรืออาจเป็นคนของระบอบทักษิณที่ยังมีอิทธิพลอยู่ในการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไม่น้อยช่วยเหลือให้นำอาวุธขึ้นเครื่องโดยไม่ต้องผ่านระบบตรวจสอบ
แต่ไม่ว่าปืนของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ จะเล็ดลอดออกไปด้วยสาเหตุใดก็ตาม เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ร้ายแรงและอาจกลายเป็นสาเหตุทำให้องค์กรการบินระหว่างประเทศใช้เป็นหนึ่งในเหตุประกาศลดมาตรฐานการบินของไทย ซึ่งจะสร้างความหายนะต่อธุรกิจการบินของชาติอย่างรุนแรง ซึ่งแม้แต่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ถึงกับกล่าวว่าหากปืนหลุดออกไปจากสนามบินสุวรรณภูมิจริงแสดงว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องห่วยแตก
ระบบอภิสิทธิ์ชนเป็นวัฒนธรรมเลวที่ฝังรากลึกในสังคมไทยมาช้านานซึ่งถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีการปฏิรูปโดยใช้กรณีของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เชือดไก่ให้ลิงดูเพื่อเป็นบรรทัดฐานว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐคนใดก็ตามทุจริตในหน้าที่ต้องถูกลงโทษตามน้ำหนักของความผิดเพราะหากปล่อยให้ซุกปืนขึ้นเครื่องบินได้ก็สามารถกระทำสิ่งชั่วร้ายอื่นๆ ได้เช่นกัน ทั้งนี้จากปัญหาร้ายแรงที่เกิดขึ้นต้องมีการสอบสวนอย่างจริงจังตรงไปตรงมา และต้องมีคนรับผิดชอบโดยเฉพาะคนในการท่าอากาศยานฯที่น่าสงสัยว่าเป็นทาสระบบอภิสิทธิ์ชน
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี