การเคลื่อนไหวของนักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ส่อเจตนาแอบแฝงหวังสร้างสถานการณ์ยั่วยุให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)จับกุมเพื่อใช้เป็นข้ออ้างสุมไฟขยายผลให้พลังมวลชนจัดตั้งที่ชักใยโดยระบอบทักษิณออกมาแสดงพลังครั้งใหญ่จนลุกลามบานปลายเหมือนเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516
ภายใต้แผนปฏิบัติการ 14 ตุลาฯ โมเดลอาศัยนักศึกษากลุ่มเล็กๆ เป็นหัวหอกในการเคลื่อนไหวด้วยการยั่วยุท้าทายคสช. จนนำไปสู่การจับกุม จากนั้นขยายผลจากเล็กไปสู่ใหญ่ด้วยการใช้การถูกคุกคามเสรีภาพโดยอำนาจเผด็จการเป็นข้ออ้างในการสร้างความชอบธรรมเพื่อปลุกระดมให้พลังมวลชนทั่วประเทศลุกฮือออกมารวมตัวกันกลายเป็นม็อบขนาดใหญ่และในที่สุดก็นำไปสู่การโค่นล้มคสช.และล้มการปฏิรูปประเทศที่มุ่งขจัดระบอบธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ในคราบประชาธิปไตยซึ่งเป็นต้นตอแห่งความแตกแยกและความชั่วร้ายทั้งปวงในชาติโดยปริยาย
ท่าทียั่วยุท้าทายของนักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่สะท้อนให้เห็นชัดเจนหลังถูกออกหมายจับไปคุมตัวในเรือนจำโดยทั้งหมดปฏิเสธการยื่นประกันตัวโดยให้เหตุผลว่า ไม่ยอมรับอำนาจของคสช. ซึ่งเท่ากับนักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่มีเป้าหมายจุดยืนขัดแย้งแตกหักชัดเจนในการไม่ยอมรับอำนาจรัฐที่เกิดจากการรัฐประหารของคสช.
ผลจากการเคลื่อนไหวของนักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่นอกจากส่อเจตนามุ่งโค่นล้มคสช.แล้ว ในทางกลับกันเป็นการเปิดทางให้ระบอบทักษิณมีโอกาสกลับมามีอำนาจยึดครองประเทศอีกครั้ง
ความเคลื่อนไหวที่ต้องจับตาต่อไปก็คือนักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ตีรวนด้วยการขยายข้อเรียกร้องเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อดึงแนวร่วมมวลชนกลุ่มต่างๆ ให้ลุกฮือ โดยเฉพาะกลุ่มชาวนาที่ขณะนี้กำลังประสบปัญหาความเดือดร้อนทั้งจากราคาข้าวตกต่ำและวิกฤติภัยแล้ง ขณะเดียวกันระบอบทักษิณก็พร้อมที่จะจัดตั้งระดมกลุ่มคนเสื้อแดงในภาคอีสานและภาคเหนือเข้าร่วมผสมโรงม็อบ 14 ตุลาฯ โมเดล
คสช.เฝ้าจับกุมและติดตามความเคลื่อนไหวของเครือข่ายระบอบทักษิณและนักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่มาตลอดจึงไม่แปลกที่ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบกและเลขาธิการคสช. ออกมาส่งสัญญาณปรามขบวนการที่วางแผนป่วนเมืองให้หยุดการเคลื่อนไหว เพราะขณะนี้มีรายชื่อคนที่บงการชักใยอยู่เบื้องหลังนักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่หมดแล้ว ซึ่งหากไม่หยุดเคลื่อนไหวก็จำเป็นต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด
แม้ คสช.จะรู้ทันแผน 14 ตุลาฯ โมเดลของนักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ภายใต้การชักใยของนักการเมืองและนักวิชาการเครือข่ายระบอบทักษิณ และหลุมพรางที่พยายามยั่วยุให้คสช.จับกุม 14 นักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ที่ออกมาเคลื่อนไหว แต่คสช.ก็จำเป็นต้องจับกุมโดยใช้มาตรการจากเบาไปหาหนักและยึดกฎหมายเป็นหลัก ทั้งนี้เพื่อรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายและอำนาจของคสช. ขณะเดียวกันเป็นการชิงตัดไฟแต่ต้นลมก่อนที่สถานการณ์จะลุกลามบานปลายและเป็นการป้องปรามเตือนนักศึกษาที่อาจหลงผิดไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือเข้าร่วมกับขบวนการที่ชักใยโดยเครือข่ายระบอบทักษิณ
จากแผน 14 ตุลาฯโมเดลที่ชักใยโดยระบอบทักษิณดูเหมือนจะไม่ได้รับการสนับสนุนหรือแม้แต่สนใจจากพลังนักศึกษาส่วนใหญ่หรือประชาชนทั่วไป ซ้ำยังมีประชาชนส่วนหนึ่งออกมาต่อต้านการเคลื่อนไหวของนักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ที่ออกมาตีรวนป่วนเมืองอย่างไม่มีเหตุผลขณะที่ประเทศกำลังจะเดินไปข้างหน้า ซึ่งการที่นักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ไม่เป็นที่ยอมรับจากคนส่วนใหญ่ของประเทศเพราะภาพที่ขุ่นมัวไม่ใช่พลังที่สะอาดบริสุทธิ์และมีอุดมการณ์ชัดเจนเพื่อส่วนรวมเหมือนขบวนการนักศึกษาในอดีต โดยถูกตั้งข้อสงสัยว่าถูกชักใยโดยเครือข่ายระบอบทักษิณเพื่อเป้าหมายทางการเมืองแอบแฝง โดยที่ผ่านมานักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ไม่เคยออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านระบอบทักษิณทั้งๆ ที่ทำสิ่งชั่วร้ายไว้กับชาติบ้านเมืองมากมาย แต่กลับออกมาต่อต้านคสช.ซึ่งเข้ามากอบกู้ประเทศในภาวะที่กลายเป็นรัฐล้มเหลวและสถานการณ์บ้านเมืองมาถึงทางตันซึ่งจำเป็นต้องปฏิรูปครั้งใหญ่ให้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงและยั่งยืน ทั้งนี้สถานการณ์ที่ต้องจับตาต่อไปหากแผน 14 ตุลาฯ โมเดลล้มเหลวก็คือเครือข่ายระบอบทักษิณคงไม่ละความพยายามที่จะโค่นล้มคสช.และการปฏิรูปประเทศด้วยการสร้างสถานการณ์ทั้งบนดินหวังดิ้นรนเอาตัวรอดในยามที่ระบอบทักษิณนับวันจะเสื่อมและใกล้ล่มสลายเข้าไปทุกขณะจากวิบากกรรมที่ตัวเองก่อไว้กับชาติบ้านเมือง
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี