ภายใต้สถานการณ์ที่ตึงเครียดเมื่อ 14 นักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ยืนกรานไม่ขอประกันตัว ขณะที่บุคคลสำคัญในคสช.และรัฐบาลคือ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบกและเลขาธิการคสช. และพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ยืนยันจะไม่มีการปล่อยตัว14 นักศึกษาที่ทำผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด ทำให้หลายฝ่ายวิตกว่าสถานการณ์จะลุกลามบานปลายจากน้ำผึ้งหยดเดียวเข้าแผน 14 ตุลาฯ โมเดลของระบอบทักษิณที่เชื่อว่าชักใยอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของ14 นักศึกษา ล่าสุดมีการเสนอทางออกเพื่อยุติปัญหาและเป็นการวัดความบริสุทธิ์ใจระหว่างฝ่ายรัฐกับนักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่
โดย ศ.จรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เสนอแนวคิดว่ารัฐควรมีทัศนะเหมือนพ่อแม่ปฏิบัติต่อเด็กโดยอย่าคิดแต่การใช้อำนาจมากเกินไป ทั้งนี้ การที่ 14 นักศึกษาถูกพิจารณาคดีในศาลทหารถือเป็นจุดอ่อนเปิดช่องให้กลุ่มผู้ไม่หวังดีใช้เป็นข้ออ้างสวมรอยยกระดับการเคลื่อนไหวทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลาย เพราะฉะนั้นรัฐควรปิดข้ออ้างสร้างสถานการณ์ด้วยการแก้กฎหมายเพื่อให้ 14 นักศึกษามาขึ้นศาลพลเรือนแทนศาลทหาร ขณะเดียวกันก็เฝ้าจับตาดูซึ่งหากยังมีการเคลื่อนไหวในลักษณะที่ใช้ความรุนแรงถ้าอย่างนี้ต้องใช้มาตรการเด็ดขาดขึ้นศาลทหารอย่างเดียว
“อย่าปล่อยให้ประเทศเดินไปสู่ทางตันเพราะประเด็นเรื่องกฎหมาย เพราะนั่นจะเป็นช่องทางให้คนไม่หวังดีต่อบ้านเมืองหยิบยกขึ้นเป็นเหตุจูงใจโจมตีบรรยากาศในปัจจุบัน”
ข้อเสนอแนะฉันกัลยาณมิตรของ ศ.จรัญ เป็นสิ่งที่รัฐควรรับฟังและพิจารณาเพราะไม่ได้ทำให้รัฐหมดความขลังของอำนาจและการบังคับใช้กฎหมายตรงกันข้ามกลับจะสร้างความชอบธรรมให้กับรัฐที่พยายามหลีกเลี่ยงการใช้อำนาจอย่างถึงที่สุดแล้ว
ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของเกมช่วงชิงความชอบธรรมซึ่งขบวนการป่วนเมืองวางหลุมพรางพยายามยั่วยุรัฐให้ฟิวส์ขาดใช้อำนาจกับนักศึกษา ซึ่งหากรัฐยิ่งใช้อำนาจกับนักศึกษารุนแรงเท่าไหร่ก็ยิ่งสนับสนุนความชอบธรรมให้ขบวนการป่วนเมืองจุดติดจนกลายเป็นกระแสต้านอำนาจเผด็จการทหารลุกลามไปทั่วประเทศในวงกว้าง
แต่หากรัฐยอมปฏิบัติต่อนักศึกษาอย่างละมุนละม่อมที่สุดแล้ว จากนั้นรอดูท่าทีว่าจะมีการเคลื่อนไหวในลักษณะที่เป็นการยั่วยุท้าทายอะไรอีกหรือไม่ ซึ่งจะเป็นการพิสูจน์เจตนาที่แท้จริงของนักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ว่าเมื่อได้รับการให้โอกาสแล้วกลับเนื้อกลับตัวหรือไม่ รวมทั้งจะเป็นการพิสูจน์โฉมหน้าที่แท้จริงของขบวนการตีรวนป่วนเมืองที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง ซึ่งหากยังสุมไฟไม่เลิกแสดงว่าจงใจที่จะสร้างสถานการณ์หวังให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟ
หากเป็นอย่างนั้นรัฐย่อมมีความชอบธรรมที่จะจัดการขั้นเด็ดขาดอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะพวกผู้ใหญ่เลวที่เป็นตัวการชักใยอยู่เบื้องหลังขบวนการซ้ำเติมบ่อนทำลายชาติโดยหลอกใช้เด็กเป็นเครื่องมือในยามที่บ้านเมืองอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเปลี่ยนผ่านเพื่อปฏิรูปชำระล้างประเทศให้สะอาดพ้นจากวงจรอุบาทว์น้ำเน่าอันเลวร้ายของธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ในคราบประชาธิปไตย
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี