ท่าทีช่วงหลังของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธถึงแนวโน้มกระแสข่าวที่จะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐมนตรีในหลายกระทรวงผลงานไม่เข้าตามหาชนโดยเฉพาะในกระทรวงด้านเศรษฐกิจจนกลายเป็นตัวถ่วงฉุดศรัทธาของรัฐบาล
แนวโน้มการปรับครม.บิ๊กตู่ 1 เกิดจากกระแสกดดันของสังคมและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของสื่อ รวมทั้งผลงานของรัฐมนตรีหลายคนพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไร้ประสิทธิภาพจน พล.อ.ประยุทธ์ เองก็เริ่มอึดอัดที่ต้องแบกรับแรงเสียดทานทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียวแทนที่รัฐมนตรีจะช่วยแบ่งเบาภาระ แต่ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ พยายามเก็บอาการและลังเลที่จะปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีบางคนก็ด้วยความเกรงใจเพราะครม.ชุดนี้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนเชื้อเชิญและแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีเองกับมือ และหลายคนก็เป็นบิ๊กทหารซึ่งร่วมในการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พ.ค. ปีที่แล้ว
ก่อนหน้านี้สัญญาณการปรับครม.เริ่มปรากฏจากการที่รัฐบาลได้อนุมัติให้แก้ไขร่างรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ซึ่งหนึ่งในประเด็นที่ซ่อนอยู่ในร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราวที่มีการแก้ไขกำหนดให้อดีตนักการเมืองกลุ่มบ้านเลขที่ 111 และ 109 ที่เคยถูกถอดถอนสามารถดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)หรือแม้แต่ตำแหน่งรัฐมนตรีได้ ซึ่งร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราวที่ได้รับการแก้ไขนี้ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการเตรียมการรองรับอดีตสมาชิกพรรคไทยรักไทยบางคน ที่ปัจจุบันแยกทางจากระบอบทักษิณและกลายเป็นหนึ่งในทีมที่ปรึกษาคนสำคัญของคสช.โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯและอดีตรมว.คลัง เข้ามาร่วมทีมครม.เศรษฐกิจของรัฐบาลเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและกอบกู้วิกฤติเศรษฐกิจของประเทศที่ขณะนี้อยู่ในภาวะซบเซาอย่างหนัก
กระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีดูจริงจังชัดเจนมากขึ้นทุกขณะถึงกับมีรายงานข่าวเกี่ยวกับรายชื่อรัฐมนตรีที่จะถูกปรับเปลี่ยน อาทิ นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าแก้ไขปัญหาวิกฤติภัยแล้งล่าช้าและไร้ประสิทธิภาพ นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง ที่มีปัญหาอืดอาดในการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจขณะที่เจ้าตัวเองก็เริ่มถอดใจจนมีข่าวว่าคิดจะลาออก รวมทั้ง พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ ที่ล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาการส่งออกที่ติดลบสูงเป็นประวัติการณ์และมีแนวโน้มแย่ลงเรื่อยๆ ทั้งนี้มีการเรียกร้องจากภาคธุรกิจว่า รมว.พาณิชย์ควรจะเป็นมืออาชีพที่มีความรู้ความสามารถคลุกคลีอยู่ในแวดวงธุรกิจระหว่างประเทศ และมีหัวทางการค้าสามารถบุกเบิกหาตลาดใหม่ๆ ในโลก
ขณะเดียวกันก็รายงานข่าวรายชื่ออดีตรัฐมนตรีซึ่งเป็นอดีตนักการเมืองที่จะมาเป็นรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจในการปรับครม.ที่จะมีขึ้น อาทิ ดร.สมคิด ซึ่งอาจนั่งเก้าอี้ รมว.คลังหรือพาณิชย์ นายพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกฯ ประธานคณะกรรมการความสัมพันธ์ไทย-จีน นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีตรมว.เกษตรและสหกรณ์ หรือคนที่ไม่ใช่นักการเมืองแต่เป็นที่ยอมรับอย่าง ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)
ต่อท่าทีเกรงใจของ พล.อ.ประยุทธ์ ในการปรับครม. มีการเสนอทางออกปลดล็อกให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ โดย ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง แนะว่าหากครม.พร้อมใจกันลาออกก็จะเป็นการเปิดทางให้ พล.อ.ประยุทธ์ ล้างไพ่ปรับครม.ได้อย่างสบายใจเพื่อประสิทธิภาพในการบริหารราชการแผ่นดิน
การที่ครม.พร้อมใจลาออกเพื่อเปิดทางให้มีการปรับครม.จึงเป็นภาพที่ดูดีเพราะเป็นการแสดงสปิริตเพื่อชาติและรักษาหน้าของรัฐมนตรีที่ถูกปรับ ขณะเดียวกันก็เป็นการปลดล็อกความอึดอัดของ พล.อ.ประยุทธ์
แนวโน้มการปรับครม.ที่คาดว่าจะมีขึ้นในไม่ช้านี้จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและลดแรงกดดันของสังคมที่มีต่อรัฐบาส อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญในการปรับครม.ครั้งนี้ก็คือ พล.อ.ประยุทธ์จะต้องแสดงวุฒิภาวะความเป็นผู้นำที่ต้องยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้งมากกว่าพวกพ้องโดยต้องเลิกโควตาของคสช.ในการตั้งนายทหารเป็นรัฐมนตรีทั้งๆ ที่บางคนไม่มีความรู้ความสามารถในกระทรวงที่รับผิดชอบโดยเฉพาะในกระทรวงสำคัญด้านเศรษฐกิจ อีกทั้งการปรับครม.ครั้งนี้ เมื่อปรับแล้วต้องดีกว่าเดิม โดยรัฐมนตรีที่เข้ามารับหน้าที่แทนต้องเป็นที่ยอมรับทั้งในเรื่องความรู้ความสามารถและความซื่อสัตย์สุจริตอย่างแท้จริง ขณะที่นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยรังสิต และผู้อำนวยการสถาบันปฏิรูปประเทศ(สปท.) ให้ความเห็นว่า การปรับครม.ที่จะมีขึ้นไม่ควรเป็นแค่การเปลี่ยนคน แต่ต้องเปลี่ยนวิธีคิดในการมองปัญหาและแก้ปัญหา โดยนายกฯต้องกล้าทำเพื่อส่วนรวม ลบข้อครหาเสียของ ที่เริ่มส่งสัญญาณดังขี้นเรื่อยๆ รวมทั้งต้องตอบโจทย์ปัญหาสำคัญของบ้านเมือง 3 ข้อ คือ การแก้ปัญหาปากท้อง การปฏิรูปประเทศ และการปรองดองสมานฉันท์
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี