นับเป็นสัญญาณอันตรายสำหรับวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศเมื่อนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ค.2558 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 และต่ำสุดในรอบ 14 เดือน เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ไม่เชื่อมั่นในภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ในรอบกว่า 3 ปี ขณะที่ปัญหาภัยแล้งและราคาพืชผลการเกษตรยังตกต่ำทำให้รายได้เกษตรกรลดลง บวกกับความไม่แน่นอนทางการเมืองและการส่งออกครึ่งปีแรกที่ติดลบ 4.84 % ตลอดจนเศรษฐกิจโลกที่ไม่มีสัญญาณฟื้นตัว ขณะที่นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนย.) ระบุว่า กระทรวงพาณิชย์ปรับลดเป้าหมายการส่งออกทั้งปี 2558 จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 1.2% เหลือ-3% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวช้า
ที่น่าวิตกคือ นายธนวรรธน์ ชี้ว่าเศรษฐกิจไทยเข้าสู่ภาวะเงินฝืดแล้วเนื่องจากคนระดับล่างมีรายได้ลดลงโดยเฉพาะเกษตรกรทำให้รู้สึกว่าค่าครองชีพสูงขึ้นทั้งๆ ที่ผู้ประกอบการพยายามจัดโปรโมชั่นลด แลก แจก แถมอาทิ ห้างสรรพสินค้าแข่งกันลดราคาสินค้าถึง 70-80% เพื่อจูงใจผู้บริโภค แต่เมื่อคนระดับล่างไม่มีเงินก็ไม่มีการจับจ่ายใช้สอยและมองว่าของแพง ขณะที่คนทั่วไปไม่กล้าใช้เงินเพราะไม่มั่นใจอนาคต
การที่วิกฤติเศรษฐกิจทรุดหนักในทุกวันนี้สาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งเกิดจากผลพวงอัปยศของสารพัดโครงการประชานิยมในยุครัฐบาลหุ่นเชิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรโดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าว และโครงการรถคันแรก
ส่วนปัจจัยภายนอกเกิดจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัวซึ่งไม่สามารถควบคุมได้ แต่สิ่งสำคัญคือปัจจัยภายในเป็นสิ่งที่รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ต้องรู้เท่าทันและแก้ปัญหาให้ได้ก่อนที่เศรษฐกิจจะเลวร้ายไปกว่านี้ โดยสิ่งสำคัญคือจะต้องพึ่งการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นหลักโดยทำให้คนระดับล่างโดยเฉพาะในหมู่เกษตรกรมีรายได้ รวมไปถึงการส่งเสริมให้ธุรกิจขนาดกลางและเล็กที่มีปัญหาด้านทุนสามารถเดินหน้าธุรกิจไปได้เพื่อขับเคลื่อนให้มีการจับจ่ายใช้สอยและเกิดการหมุนเวียนของวงจรเศรษฐกิจ
ข้อน่าเป็นห่วงก็คือการออกมายอมรับของ นายสมหมาย ภาษีรมว.คลัง ก่อนหน้านี้ที่แสดงความหนักใจที่งบภาครัฐที่ทุ่มผ่านหน่วยราชการต่างๆ ยังมีการค้างท่อ ซึ่งไม่รู้ว่าติดขัดอยู่ตรงไหน
เพราะฉะนั้นรัฐบาลนายกฯลุงตู่ต้องรีบแก้ปัญหางบประมาณค้างท่อโดยด่วนเพราะปัญหาเศรษฐกิจเป็นระเบิดเวลาลูกใหญ่และอ่อนไหวต่อการปลุกเร้าให้เกิดวิกฤติศรัทธาต่ออำนาจรัฐ จึงต้องตรวจสอบให้ละเอียดเพราะข้าราชการบางคนซึ่งเป็นทาสรับใช้กลุ่มอำนาจเก่าซึ่งยังฝังตัวอยู่อาจแอบวางยาบ่อนทำลายคสช.และรัฐบาลนายกฯลุงตู่ ทั้งนี้หากรัฐบาลเผชิญวิกฤติศรัทธาของประชาชนเท่ากับชี้แนวโน้มการยึดอำนาจของคสช.และการปฏิรูปประเทศล้มเหลวเสียของ และที่เลวร้ายคือเปิดทางให้วงจรอุบาทว์ธุรกิจการเมืองในคราบประชาธิปไตยอันชั่วร้ายมีโอกาสกลับมายึดครองประเทศอีกครั้ง
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี